บทที่ 50 ราชาวานร
ณ บ้านตระกูลเหมย
“นี่คือผลงานที่พวกเราทำขึ้นมาตามรูปที่คุณได้ให้เอาไว้!” เหมยจุนพูดพร้อมกับยืดอก ข้างๆเขามีผู้ช่วยที่กำลังถือชุดที่มีสีเหลืองแดง จากนั้นก็เดินเอามาให้ฉิงเทียน ฉิงเทียนจึงหยิบเสื้อผ้านั้นขึ้นมาดูอย่างตื่นเต้น
ฉิงเทียนถือผ้านั้นไว้ในมือของเขาแล้วกล่าวชม “มันช่างสวยงามมากจริงๆ!”
เสื้อผ้าที่อยู่ในมือฉิงเทียนนั้นมันช่างดูงดงามแบบสุดติ่งกระดิ่งแมวมาก และวัสดุที่ใช้ก็ยังเป็นผ้าไหมซึ่งให้ความรู้สึกที่นุ่มแบบสุดๆในมือของเขาด้วย!
ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าชุดของซุนหงอคงชุดนี้ช่างเหมาะสมแก่การเป็นชุดของราชาวานรจริงๆ ท่านมหาเซียนซุนต้องชอบชุดนี้มากแน่ๆ
ซูเสวี่ย มองดูชุดที่กางออกมาดูอย่างพึงพอใจจึงได้พูดชม “งานของตระกูลเหมยนั้นสุดยอดสมกับที่กล่าวขานกันจริงๆ! คงมีแต่ตระกูลเหมยเท่านั้นที่สามารถทำชุดนี้ขึ้นมาอย่างสวยงามเช่นนี้ได้
“ฮ่าๆ คุณซูก็กล่าวชมเกินไป” เหมยจุนพูดอย่างถ่อมตัว “มันเป็นชุดที่ซับซ้อนมากที่สุดเท่าที่พวกเราตัดเย็บขึ้นมาด้วยการใช้ตะเข็บเดี่ยว! พวกเราทำงานกันทั้งคืนจนในที่สุดพวกเราก็ทำสำเร็จ!”
หลังจากที่ฟังเหมยจุนอธิบาย ฉิงเทียนจึงผงกหัวและคิดว่าเขาช่างเป็นคนที่พิถีพิถันดีจริงๆ! “เถ้าแก่เหมยครับ ชุดนี้ราคาเท่าไร?” เขาถามด้วยความพึงพอใจ
“นอกจากค่ามัดจำแล้ว คุณต้องจ่ายเพิ่มอีก 20000 หยวนครับ”
หลังจากที่จ่ายไป ฉิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ เขาต้องจ่ายไปหลายหมื่นหยวนสำหรับชุดเพียงชุดเดียว ฉิงเทียนรู้สึกว่าชุดที่ดีที่สุดของเขานั้นราคายังแค่ไม่กี่พันหยวนเท่านั้น!
ขณะขับรถกลับ ซูเสวี่ยก็ได้หยิบเสื้อผ้านั้นขึ้นมาและมองดูซ้ายและดูขวา แล้วเธอจึงถามเขาอย่างสงสัย “ฉิงเทียน ทำไมคุณถึงซื้อชุดนี้เหรอ?”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมแค่มีหน้าที่ซื้อให้เท่านั้น” ฉิงเทียนนั้นกลัวว่าซูเสวี่ยนั้นจะถามต่อ เขาจึงได้ชี้ไปที่ภูเขาที่อยู่ตรงหน้าเขา “เสวี่ยเอ๋อ พวกเราไปลองขึ้นภูเขานั้นกันดีไหม?”
มองไปที่มือที่ชี้ของฉิงเทียน ซูเสวี่ยก็พบว่ามันคือภูเขาเดียวกันกับที่เธอและฉิงเทียนเจอกับนักฆ่าในวันนั้น เธอจึงได้ส่ายหัวแล้วพูดขึ้น “ฉันยังไม่อยากเจอกับนักฆ่านะ!”
จากนั้นเธอก็หันกลับมามองฉิงเทียนแล้วถาม “ฉิงเทียน คุณคิดว่าจะมีคนตามพวกเรามาอีกไหม?”
มองดูซูเสวี่ยที่มีทีท่าหวาดกลัว ฉิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะบ่นตัวเองไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมานะ! มองไปดูท่าทีของซูเสวี่ยแล้ว ฉิงเทียนรู้ได้เลยว่าเรื่องในคราวนั้นทำให้กลายเป็นแผลใจของซูเสวี่ยไปเสียแล้ว เมื่อคิดได้เช่นนี้ฉิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะแค้นหลิวไห่และองค์กรนักฆ่าขึ้นมา! แต่ฉิงเทียนนั้นก็รู้ดีว่าเขายังไม่สามารถจัดการกับองค์กรนักฆ่าได้ด้วยพลังของเขาในตอนนี้
ดูเหมือนว่าเขาคงจะต้องจัดการกับหลิวไห่ก่อน ไม่อย่างนั้นเขาคงได้อยากที่จะฆ่าเขาซ้ำแล้วซ้ำอีกแน่
ซูเสวี่ยนั้นได้เอียงตัวมาเข้าใกล้ฉิงเทียน ฉิงเทียนก็ได้กอดซูเสวี่ยและปลอบใจเธอ “ไม่ต้องกังวลนะเสวี่ยเอ๋อ มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่!”
“ค่ะฉิงเทียน! ฉันเชื่อคุณค่ะ” ซูเสวี่ยผงกหัว
ระหว่างทางกลับบ้าน ฉิงเทียนก็ได้พยายามชวนพูดคุยอยู่ตลอดเพื่อดึงความสนใจของซูเสวี่ย!
“เสวี่ยเอ๋อ วันนี้คุณมาที่บ้านผมได้ไหม?”
“ไม่เอาอะ คุณอยากที่จะทำเรื่องไม่ดีอีกล่ะสิ!” ซูเสวี่ยส่ายหัวของเธอปฏิเสธ
“คุณช่วยทนกับสามีคุณหน่อยสิ ผมน่ะต้องอยู่ในห้องว่างๆอย่างโดดเดี่ยวนะ!” ฉิงเทียนแกล้งทำเป็นน่าสงสารและมองไปที่ซูเสวี่ย
“ไม่ ไม่! ฉิงเทียน คุณอย่ามาบังคับฉันนะ” ซูเสวี่ยเริ่มที่จะต้านทานสีหน้าและการขอร้องของฉิงเทียนไว้ไม่ได้
ถึงแม้ว่าเธออยากที่จะอยู่กับฉิงเทียน แต่เธอรู้ดีว่าหากเธออยู่กับฉิงเทียนแล้ว เธอคงไม่สามารถต้านทานเขาได้แน่หากอยู่กับฉิงเทียนตามลำพัง ถึงแม้ว่าการทำเรื่องแบบนี้จะทำให้เธอรู้สึกดีก็เถอะ
แล้วใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นมาและหัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยความอาย: นี่ฉันคิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ยังไงเนี่ย!
เมื่อเห็นใบหน้าที่แดงของซูเสวี่ย ฉิงเทียนก็ได้ถามเธอด้วยรอยยิ้มแบบชั่วร้าย “เสวี่ยเอ๋อ ทำไมคุณถึงหน้าแดงเหรอ?”
“ห๊ะ คุณว่ายังไงนะ?” ซูเสวี่ยถามเขาอย่างตื่นตระหนกเมื่อเธอได้ยินที่ฉิงเทียนพูด!
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย