บทที่ 98 รับศิษย์น้องอีกครั้ง
“ผู้อาวุโสโจวครับ ทำแบบนี้ผมอายจริงๆนะครับ” ฉิงเทียนปฏิเสธที่จะนั่งลง “คุณเป็นเจ้าภาพงาน ส่วนผมเป็นแขกนะครับ จะให้ผมนั่งหัวโต๊ะได้อย่างไร?”
ทุกคนเองก็แนะให้ผู้อาวุโสโจวนั่งที่หัวโต๊ะทีละคน ฉิงเทียนเองก็ปฏิเสธที่จะนั่งหัวโต๊ะเช่นนั้น ผู้อาวุโสโจวจึงไม่มีทางเลือกนอกจากนั่งที่หัวโต๊ะแต่เขาก็ยังดึงให้ฉิงเทียนมานั่งข้างๆเขาด้วย
ในเวลานี้ ฉิงเทียนจึงไม่ได้ปฏิเสธที่จะนั่งข้างผู้อาวุโสโจว หลังจากที่จัดการเรื่องที่นั่งได้เรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสโจวก็ได้สั่งให้เหล่าบริกรทำการเสิร์ฟอาหาร แล้วกลุ่มคนก็เริ่มพูดคุยกัน
“เดี๋ยวข้าจะแนะนำพวกเขาให้สหายเสี่ยวฉิงได้รู้จักนะ” ทันทีที่พูดจบ ผู้อาวุโสโจวก็ได้พูดแนะนำ 9 คนที่เหลือให้ฉิงเทียนได้รู้จักทีละคน
ถ้าใครที่ไม่รู้ได้มาเห็น คงคิดว่าฉิงเทียนกับผู้อาวุโสโจวนั้นต้องสนิทกันมากแน่ๆ
หลังจากที่ได้ยินที่ผู้อาวุโสโจวแนะนำทีละคนแล้ว ฉิงเทียนก็รู้สึกตกใจ เพราะคนที่มาที่นี่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาลต่างๆ
“รุ่นน้องยินดีที่ได้พบกับรุ่นพี่ทุกคนครับ” ฉิงเทียนพูดอย่างถ่อมตัวและลุกขึ้นมาทำท่าก้มหัวคารวะให้กับทุกคน
ขณะที่ทุกคนกำลังจะทำท่ารับการคารวะอย่างสงบสุขอยู่นั้น ทันใดนั้นเองผู้อาวุโสโจวก็ลุกขึ้นยืนและพูดขึ้นมา “สหายเสี่ยวฉิง เจ้าไปก้มหัวคารวะพวกเขาก่อนได้เยี่ยงไร ข้ายังไม่ได้ให้พวกเขาก้มหัวคารวะเจ้าเลยนะ”
“ทุกคนลุกขึ้นยืนแล้วก้มหัวคารวะสหายเสี่ยวฉิงเสีย”
ฉิงเทียนเมื่อได้ยินเข้าก็พูดในใจ: มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร ถ้าเขารับการคารวะของคนเหล่านี้ เขาคงได้ถูกพวกเขาก่นด่าในใจจนตายแน่ “ผู้อาวุโสโจว พวกเขาล้วนอายุมากกว่าผม อีกทั้งยังอาวุโสมากกว่าผมได้ด้านของวิชาการแพทย์ ผมจะให้พวกเขาก้มหัวคารวะให้ผมได้อย่างไรครับ?”
เมื่อได้ยินที่ฉิงเทียนกล่าว ทุกคนก็ผงกหัวด้วยความพึงพอใจ แต่ทว่าผู้อาวุโสโจวจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นไปได้อย่างไร เขานั้นตั้งใจที่จะยกย่องฉิงเทียนให้กลายเป็นอาจารย์ของเขา และพวกคนที่นั่งอยู่เหล่านี้ก็ล้วนแต่เป็นศิษย์ของเขา แล้วเขาจะปล่อยให้ว่าที่อาจารย์ของเขานั้นก้มหัวคารวะพวกลูกศิษย์ของเขาได้เยี่ยงไร?
จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? คนโบราณเคยกล่าวไว้ว่าฝีมือต้องมาก่อน พวกเขานั้นยังมีความสามารถด้านการรักษายังไม่ถึงขั้นของเจ้าเลยนะ แล้วจะผิดตรงไหนกันที่จะให้พวกเขาก้มหัวคารวะให้เจ้าน่ะ?”
“ท่านอาจารย์ครับ พวกเราอายุเท่าไหนแล้ว และเขาเพิ่งจะอายุเท่าไรเองครับ” คนคนหนึ่งพูดขึ้นและหันหน้ามา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้อาวุโสโจวก็ได้เดือดดาลขึ้นมาทันที “ถ้าพวกเจ้าเป็นศิษย์ของข้าก็ก้มหัวคารวะเขาเสีย แต่ถ้าพวกเจ้าไม่ทำตามข้าจะไม่นับพวกเจ้าเป็นศิษย์”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ทุกคนก็ถึงกับหน้าถอดสีเมื่อพวกเขาเห็นว่าอาจารย์ของพวกเขานั้นถือเรื่องของฉิงเทียนจริงจังมากขนาดนี้ พวกเขาจึงก้มหัวคำนับให้ฉิงเทียนอย่างไม่เต็มใจ “ผมขอคารวะผู้อาวุโส”
แล้วฉิงเทียนจึงได้รีบพูดตอบทันที “มิได้ครับมิได้ ผมไม่กล้าเป็นผู้อาวุโสของทุกๆคนหรอกครับ”
หลังจากที่คารวะเสร็จแล้ว ผู้อาวุโสโจวก็พูดขึ้น “ไป พวกเจ้าออกไปได้แล้ว ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกเจ้าในมื้อค่ำวันนี้” เขาพูดและไล่คนอื่นๆออกไป
คนอื่นๆจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องออกมาข้างนอก
ในขณะที่กำลังเดินออกมาข้างนอกนั้น หนึ่งในนั้นก็ได้พูดกับคุณหมอหลี่ “คุณหลี่ครับ ความสามารถด้านการแพทย์ของฉิงเทียนนั้นสุดยอดมากจริงๆเหรอครับ?”
“ผมเองก็ไม่รู้อะไรมากเหมือนกันครับ….” คุณหมอหลี่พูดอย่างช่วยไม่ได้ จริงแล้วคุณหมอหลี่เองก็รู้สึกผิดหวังในใจเช่นกัน เดิมทีเขามาที่นี่เพื่อที่จะได้พบกับผู้อาวุโสโจว แต่ตอนนี้เขาไม่คิดว่าจะถูกไล่ออกมาเช่นนี้
ส่วนฉิงเทียนที่ยังอยู่ในห้องก็มองมาที่ผู้อาวุโสโจว ไม่ว่าเขาจะเกลี้ยกล่อมผู้อาวุโสยังไง เขาก็ยังยืนยันที่จะไล่ทุกคนออกไปอยู่ดี
เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากนั่งอยู่ที่นี่ และหลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว อาหารก็ได้ถูกนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะ
“ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้ามาถ้าข้าไม่อนุญาต” ผู้อาวุโสโจวพูดสั่งกับบริกร
“ค่ะ”
หลังจากที่บริกรสาวปิดประตูไปแล้ว ก็เหลือเพียงฉิงเทียนและผู้อาวุโสโจวอยู่ในห้องตามลำพัง
“มีอาหารตั้งมากมายขนาดนี้ต่อให้มีเวลาทั้งสัปดาห์ก็ทานไม่หมดหรอกครับ ทำไมพวกเราถึงไม่ให้ทุกคนเข้ามาทานด้วยล่ะครับ?” ฉิงเทียนพูดขณะที่มองดูโต๊ะที่เต็มไปด้วยจานอาหารที่ยังปิดฝาเอาไว้อยู่

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย