บทที่ 1027 ปูทางให้บุตรสาว
สุดยอดดาวโทสะ สามารถหยิบยืมพลังของโลกปฐมยุคได้ พลังของโลกปฐมยุคก็คือพลังของหานเจวี๋ย
หานเจวี๋ยไม่เคยคิดว่าเลยว่าตนจะกลายเป็นแหล่งพลังให้บุตรชายได้
แต่เขาก็ไม่ได้คิดมากนัก พลังปฐมยุคในร่างเขาไร้ขอบเขต หานฮวงไหนเลยจะนำไปใช้จนหมดสิ้นได้
พลังเสี้ยวหนึ่งจากผู้สร้างมรรคาก็เพียงพอจะถล่มทั้งฟ้าบุพกาลให้ราบ!
ต้องกล่าวเลยว่าหานฮวงโชคดีจริงๆ
ได้รับพลังนี้ไปหานฮวงก็นับว่าไร้พ่ายแล้ว
หานเจวี๋ยคิดเช่นนี้
ยังมีสวรรค์ประทานโชคเหลืออีกหนึ่งครั้ง ใช้ไปทีเดียวเลยแล้วกัน!
หากว่าสวรรค์ยังประทานโชคไปหล่นใส่หัวหานฮวงอีก เช่นนั้นก็น่าสนใจนัก
[เริ่มใช้งานสวรรค์ประทานโชค ผู้มีมหาโชคแต่กำเนิดจะปรากฏขึ้นในหมู่เชื้อสายของท่านแบบสุ่มเลือก]
[ฉินป้าเสินเชื้อสายของท่านตื่นรู้ในมหาโชคแต่กำเนิด…ดาวจอมพลัง]
[ดาวจอมพลัง: มีพละกำลังและความแข็งแกร่งแต่กำเนิด ผสานพลังระดับสุดยอดไว้ พลังจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของโลกปฐมยุค]
น่าสนใจ!
แต่เหตุใดถึงไม่ใช่แซ่หานเล่า
หานเจวี๋ยเริ่มทำนายดู ที่แท้ฉินป้าเสินเป็นเชื้อสายที่ห่างชั้นไปหลายหมื่นรุ่นของหานอวิ๋นจิ่น บรรพบุรุษสิบกว่ารุ่นก่อนผลัดเข้าสู่โลกมนุษย์ มารดาของเขามีแซ่หาน เนื่องจากตระกูลล่มสลายจึงแต่งเข้าตระกูลฉิน
ตระกูลฉินเป็นราชวงศ์ของจักรพรรดิในโลกมนุษย์สามัญ ฉินป้าเสินมีศักดิ์เป็นองค์ชาย มีพลังล้นเหลือมาตั้งแต่เกิด แต่สติปัญญาบกพร่อง ความคิดเท่าเด็กห้าหกขวบ แม้แต่คำพูดคำจาก็ไม่ชัดเจน ตามปกติถูกส่งไปใช้แรงงานเป็นเครื่องจักรสงคราม ไม่ได้รับการปฏิบัติด้วยในฐานะองค์ชายเลย ครึ่งชีวิตแรกเรียกได้ว่าทุกข์ยากน่าเวทนา
ตอนนี้ฉินป้าเสินตื่นรู้ในมหาโชคแต่กำเนิด สติปัญญาเริ่มฟื้นฟูกลับมาแล้ว
….
ทิวเขาเขียวขจี กลางเนินเขามีค่ายทหารประจำการอยู่ ถัดไปจากเขตคุมขังนักโทษ ชายร่างใหญ่คนหนึ่งพิงรั้วอยู่ เนื้อตัวสกปรกมอมแมม มีดินโคลนเปื้อนเส้นผมเกาะเป็นสังกะตัง
ด้านข้างคือคอกม้า กลิ่นของเสียฟุ้งตลบ
เป็นฉินป้าเสิน!
เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ความทรงจำช่วงยี่สิบปีก่อนถาโถมเข้ามาดั่งน้ำหลาก เมื่อสติปัญญาฟื้นฟูสมบูรณ์ความทรงจำเหล่านั้นก็หวนกลับมา ในใจเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
เขาสร้างผลงานมีคุณูปการต่อราชสำนัก แต่เนื่องจากสติปัญญาบกพร่องจึงไม่มีชื่ออยู่ในผังราชวงศ์ด้วยซ้ำ ตอนเจ็ดขวบอยู่ในวังหลวงเขาไม่ทันระวังไปชนพระสนมคนหนึ่งล้มจึงถูกพระบิดาขับไล่ออกจากวังหลวง เลี้ยงไว้ในกองทัพ
ในกองทัพล้วนเป็นบุรุษหยาบช้า ไม่มีใครมาดูแลเขา ดังนั้นตั้งแต่เล็กจนโตเนื้อตัวเขาล้วนส่งกลิ่นเหม็นออกมาตลอด พอเติบใหญ่ก็สังหารศัตรูไปนับไม่ถ้วน กลิ่นเหม็นกลายเป็นไอสังหารแทน
“สวรรค์มีตา ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะมีวันที่ข้าปัญญาแจ่มใส”
ฉินป้าเสินค่อยๆ ลุกขึ้นมา เขาเดินไปทางกระโจมผู้บัญชาการ เวลานี้แววตาเขากระจ่างใส ตัวคนราวกับกระบี่ที่พ้นจากฝักเผยประกายคมกริบ
หานเจวี๋ยจ้องมองเขาเงียบๆ
เชื้อสายตระกูลหานตกอยู่ในภาพน่าเวทนาเช่นนี้ หากมิใช่เพราะครั้งนี้ถูกเลือกโดยสวรรค์ประทานโชค เกรงว่าฉินป้าเสินคงใช้ชีวิตย่ำแย่กว่าหมูหมาเช่นนี้ไปทั้งชาติจนกระทั่งสิ้นชีพในสนามรบ
หากเป็นช่วงที่โลกโกลาหลด้วยสงคราม ฉินป้าเสินอาจได้รับความสำคัญ แต่ราชวงศ์ที่เขาถือกำเนิดรากฐานแกร่งกล้า อย่างมากก็แค่เจ้าศักดินารอบข้างก่อเหตุวุ่นวาย ไม่มีทางกระทบต่อความมั่นคงของราชวงศ์ ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ฉินป้าเสินมีประโยชน์ไม่มาก ต่อให้ตายไปราชวงศ์ก็มั่นคงเช่นเดิม
หานเจวี๋ยมองไปที่หานหลิงพลางเอ่ยว่า “พ่อพบต้นกล้าเลิศล้ำในตระกูลหานอีกคนแล้ว”
หานหลิงลืมตาขึ้นจากนั้นก็ทำนายดู
ไม่นานนัก นางทำนายพบฉินป้าเสิน
รากฐานของดาวจอมพลังคือโลกปฐมยุคซึ่งโลกปฐมยุคแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว แตกต่างไปจากดาวพิชิตสวรรค์และสุดยอดดาวสังหารที่ต้องการเวลาเพื่อเติบโต
หานหลิงขมวดคิ้วเอ่ยไปว่า “เชื้อสายตระกูลหานเราได้รับความอัปยศถึงเพียงนี้ ท่านพ่อ ท่านวางแผนจะจัดการอย่างไรเจ้าคะ”
หานเจวี๋ยกล่าวว่า “มนุษย์แตกต่างหลากหลาย เชื้อสายตระกูลหานเรามีมากมายนับไม่ถ้วน คนที่น่าอนาถกว่าเขาก็มีเช่นกัน ถ้าเจ้าอยากช่วยทั้งหมดก็ต้องช่วยทั้งหมดเลยหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...