บทที่ 1029 หนังสือยอดชะตา หนังสือแห่งความโชคร้าย
พอได้ยินว่ามารดาสามารถเกิดใหม่ได้ ฉินป้าเสินตื่นเต้นอย่างยิ่ง
หานหลิงเอ่ยต่อว่า “นับจากวันนี้เจ้าเปลี่ยนมาใช้แซ่หานเถอะ”
ฉินป้าเสินพยักหน้ารับ “ขอรับ ข้าก็รังเกียจแซ่ฉิน!”
ด้วยเหตุนี้เขาจึงเปลี่ยนชื่อเป็นหานป้าเสิน ฝึกบำเพ็ญอยู่ในสังกัดหานหลิง
สำหรับหานเจวี๋ยเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ เท่านั้น ผู้ได้รับสวรรค์ประทานโชคในอนาคตก็จะเป็นเช่นนี้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องให้เขามาอบรมเลี้ยงดูด้วยตัวเอง
แน่นอน หากว่ามีมหาโชคที่เลิศล้ำอย่างยิ่งก็ยังคงต้องสั่งสอนด้วยตัวเอง
หานป้าเสินไม่ได้ทำให้หานเจวี๋ยผิดหวังเลย หลังจากมาถึงอาณาเขตเต๋าก็ตั้งใจฝึกบำเพ็ญ ออกไปด้านนอกน้อยยิ่ง
เพียงพริบตาเวลาผ่านไปหลายแสนปี อายุของหานเจวี๋ยขยับขึ้นไปอีกขั้นแล้ว
[ตรวจสอบพบว่าท่านมีอายุครบหกสิบล้านปีบริบูรณ์แล้ว ชีวิตก้าวหน้าไปอีกขั้น ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]
[หนึ่ง ออกจากปิดด่าน บุกเบิกโลกปฐมยุคขึ้นในฟ้าบุพกาล จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน]
[สอง เก็บตัวบำเพ็ญ รักษาปณิธานเดิม จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน]
[ท่านได้รับโอกาสใช้งานสวรรค์ประทานโชคหนึ่งครั้ง]
ตัวเลือกทั้งสองเป็นเช่นเดียวกับในอดีต เหมือนกันทุกอย่าง เหมือนที่หานเจวี๋ยได้รับของขวัญจากระบบตามปกติ
เขาเลือกตัวเลือกที่สองอย่างเงียบๆ
[ท่านเลือกเก็บตัวบำเพ็ญ ได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน]
หานเจวี๋ยสอดส่องดูหานป้าเสินที่อยู่ในอารามเต๋าถัดไป ฝึกบำเพ็ญมาห้าล้านปีตบะของเด็กคนนี้บรรลุถึงระดับอริยะเสรีแล้ว
พลังวิญญาณในอาณาเขตเต๋าเข้มข้นกว่าสถานที่ใดๆ ในฟ้าบุพกาล ในมุมมองของหานเจวี๋ยความเร็วในการบำเพ็ญของหานป้าเสินยังเชื่องช้าไปบ้าง
ปกติหานหลิงยุ่งอยู่กับการฝึกบำเพ็ญ ไปสั่งสอนอบรมทั้งหมดสามครั้งถ้วน เรื่องนี้จึงโทษหานป้าเสินไม่ได้ ส่วนตัวหานเจวี๋ยในอดีตอย่างน้อยก็ยังมีระบบคอยช่วยเหลือ
หานเจวี๋ยเรียกกล่องจดหมายออกมาตรวจดู
จดหมายในช่วงที่ผ่านมานั้นวุ่นวายอย่างยิ่ง มีการโจมตีสารพัด ถึงขั้นที่มีศิษย์สำนักซ่อนเร้นโจมตีกันเองด้วย
โจวฝานและหลี่เต้าคงเคยต่อสู้กันไปยกหนึ่ง บาดเจ็บสาหัสน่าเวทนา
หานทั่วและหวงจุนเทียนก็เคยต่อสู้กัน ต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ระยะนี้พวกเต้าจื้อจุนทั้งห้าก็กลับมาสังหารไล่ล่าในฟ้าบุพกาลเช่นกัน หานเย่และหานเหยาสู้กันหลายครั้ง ทุกครั้งล้วนบาดเจ็บสาหัสกันทั้งสองฝ่าย
สำหรับเรื่องนี้หานเจวี๋ยไม่คิดจัดการอะไร ศิษย์เหล่านี้นับว่าพ้นครูออกไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการประลองหรือว่าต่อสู้จริงจัง เขาก็ไม่สะดวกจะเข้าไปยุ่งและคร้านจะยุ่งด้วย
ดูจดหมายเสร็จ สายตาของหานเจวี๋ยก็ไปสอดส่องฟ้าบุพกาล
เขาพบว่าพลังวิญญาณในฟ้าบุพกาลเพิ่มขึ้นไม่น้อย เจ็ดกฎเกณฑ์สูงสุดก็ขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อย มหามรรคสามพันวิถีก็ยิ่งหนาแน่นขึ้น
และเนื่องด้วยเหตุนี้ทำให้กลุ่มอิทธิพลต่างๆ ในฟ้าบุพกาลต่อสู้วุ่นวายยิ่งกว่าเดิม คิดว่าตนกำลังสร้างโชคชะตาให้ฟ้าบุพกาลอยู่ แม้แต่เทพมหาทัณฑ์ก็นึกว่าเป็นแบบนี้เช่นกัน
มีเพียงหานเจวี๋ยที่ทราบดีว่าเช่นนี้แปลว่าเจ้านวฟ้าบุพกาลแข็งแกร่งขึ้นแล้ว
พอคิดว่าเจ้านวฟ้าบุพกาลใกล้จะพิสูจน์เทพผู้สร้างได้ หานเจวี๋ยก็ร้อนใจยิ่งนัก
เป็นผู้สร้างมรรคาก็น่ากลัวอย่างยิ่งแล้ว ผีเท่านั้นที่รู้พอเป็นเทพผู้สร้างแล้วจะน่าเหลือเชื่อถึงขั้นใดกันเล่า ค่ายกลอาณาเขตเต๋าก็เป็นระดับเทพผู้สร้างเท่านั้น จะต้านรับได้สมบูรณ์หรือไม่ก็ต้องมาดูกันอีกที
หานเจวี๋ยบังเกิดความคิดอาจหาญอย่างหนึ่งขึ้นมา
จะสาปแช่งเจ้านวฟ้าบุพกาลดีหรือไม่
หนังสือแห่งความโชคร้ายเป็นสมบัติเลิศมรรคาแล้ว ยังจะมีคนที่สาปไม่ได้อีกหรือ
หานเจวี๋ยถามในใจ ‘หลังจากเจ้านวฟ้าบุพกาลสำเร็จเป็นเทพผู้สร้างจะวางแผนต่อข้าหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่นคิดจะสะกดข้าไว้’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยพันล้านล้านล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[ใช่]
บัดซบ!
ไอ้เฒ่าคนนี้!
แต่ก็ถูกแล้ว หากเจ้านวฟ้าบุพกาลมีเมตตาขนาดนั้นจริง เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลและมหาเทวาพ้นนิวรณ์คงไม่อยู่ในสภาพจนตรอกเช่นนี้
‘หากข้าใช้หนังสือแห่งความโชคร้ายสาปแช่งเจ้านวฟ้าบุพกาล จะถูกจับได้หรือไม่’
[เดิมทีสมบัติเลิศมรรคาก็จัดอยู่ในระดับผู้สร้างมรรคา เจ้านวฟ้าบุพกาลไม่สามารถทำนายถึงหนังสือแห่งความโชคร้ายโดยตรงได้ แต่สามารถคาดคะเนได้]
หานเจวี๋ยนึกถึงหนังสือยอดชะตาขึ้นมาอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...