ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 1030

บทที่ 1030 แย่งกันเป็นเทพมารอนธการ

ยามที่ความเลื่อมใสที่หานป้าเสินมีต่อหานเจวี๋ยพุ่งทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุด หานเจวี๋ยที่อยู่ในอารามเต๋าด้านข้างยังคงสาปแช่งเจ้านวฟ้าบุพกาลอย่างบ้าคลั่ง

อายุขัยของเขาลดฮวบลงเร็วยิ่ง

หนึ่งพันล้านล้านล้านปี!

หนึ่งพันหนึ่งร้อยล้านล้านล้านปี!

เกินค่าตัวของเจ้านวฟ้าบุพกาลแล้ว

[เจ้านวฟ้าบุพกาลมรรคจิตปั่นป่วน กฎเกณฑ์ในโลกมหามรรคของเขาเกิดความแปรปรวนเนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน]

โลกมหามรรคของเจ้านวฟ้าบุพกาลก็คือฟ้าบุพกาลมิใช่หรือ!

หานเจวี๋ยเงยหน้ามองขึ้น มหามรรคสามพันวิถีที่อยู่เหนือฟ้าบุพกาลกำลังสั่นไหวรุนแรง แม้แต่เจ็ดกฎเกณฑ์สูงสุดก็สั่นสะเทือนนิดๆ เช่นกัน

ไม่สนแล้ว!

ยังไม่เพียงพอ!

แววตาหานเจวี๋ยดุดัน ต้องการสาปแช่งเจ้านวฟ้าบุพกาลสร้างชื่อให้เลื่องลือ ป้องกันไม่ให้คนผู้นี้พิสูจน์เทพผู้สร้างสำเร็จเร็วเกินไป

ห้าพันล้านล้านล้านปี!

หนึ่งแสนล้านล้านล้านปี!

[เจ้านวฟ้าบุพกาลปรากฏจิตมารขึ้นในส่วนลึกของมรรค สิ่งมีชีวิตที่ถือกำเนิดจากจิตมารเริ่มเกิดขึ้นในโลกมหามรรคของเขาเนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน]

ยังไม่พอ!

หานเจวี๋ยสาปแช่งต่อไป!

เขาจ้องหน้าต่างค่าสถานะของตนอย่างเอาเป็นเอาตาย เลี่ยงไม่ให้ตนสาปแช่งจนเกินขอบเขตไป

ถึงอย่างไรเขาก็สัมผัสถึงสัญญาณในการทะลวงขั้นได้แล้ว ขอเพียงทะลวงขั้นได้ อายุขัยต้นกำเนิดที่เสียไปก็จะเพิ่มชดเชยกลับมา!

สองแสนล้านล้านล้านปี!

[เจ้านวฟ้าบุพกาลตบะสั่นคลอน โลกมหามรรคของเขาเริ่มปริร้าวเนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน]

หานเจวี๋ยหยุดมือทันที

ตบะสั่นคลอน นับว่าควบคุมความก้าวหน้าในการบำเพ็ญของเขาได้แล้วกระมัง

ถ้าสาปแช่งต่อ หานเจวี๋ยกังวลว่าฟ้าบุพกาลจะล่มสลาย

เขาเก็บหนังสือแห่งความโชคร้าย เงยหน้ามองขึ้นไป เห็นเพียงว่าบริเวณชายขอบฟ้าบุพกาลปรากฏรอยแตกร้าว เนืองแน่นทอดยาว ราวกับมีหนอนยักษ์ตัวยาวที่ดุร้ายตัวหนึ่งกำลังดีดดิ้นอยู่ มิใช่เพียงเท่านี้ ยังมีไอมารมากมายผุดขึ้นมาในก้นบึ้งฟ้าบุพกาลด้วย ซัดตลบรวมตัวกลายเป็นมารร้ายหน้าตาแปลกพิลึกพิลั่นตัวแล้วตัวเล่า รูปร่างขนาดแตกต่างกันไป

สิ่งที่ผันแปรมาจากจิตมาร!

จุ๊ๆ เป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่แล้ว

มารร้ายเหล่านี้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง หากเป็นฟ้าบุพกาลในช่วงห้าสิบล้านปีก่อนคงสร้างเภทภัยวุ่นวายได้จริงๆ แต่สำหรับฟ้าบุพกาลในปัจจุบันนี้ อย่างมากก็ก่อให้เกิดความวุ่นวายช่วงสั้นๆ เท่านั้น

หานเจวี๋ยถ่ายทอดเสียงหาหานหลิง ไม่นานนักหานหลิงก็พาหานป้าเสินเข้ามาในอารามเต๋า

พอเห็นหานเจวี๋ย หานป้าเสินคุกเข่าลงทำความเคารพอย่างนอบน้อม

หานเจวี๋ยก็ไม่พูดไร้สาระเช่นกัน เริ่มเทศนาธรรมเลย เริ่มการเทศนาสำหรับระดับเสรี

….

ภายใต้ฟ้าครามเมฆาขาว แท่นกลมมากมายลอยอยู่บนฟ้า ในบรรดานั้นมีแท่นหนึ่งลอยอยู่สูงที่สุด ดวงจิตมหามรรคนับร้อยชุมนุมกันอยู่ที่นี่ เทวทัณฑ์ก็อยู่เช่นกัน กล่าวให้ถูกคือสิบยอดฟ้าก็ล้วนอยู่ที่นี่เช่นกัน

สิบยอดฟ้าล้วนไม่มีผู้ใดปฏิเสธการเป็นดวงจิตมหามรรคเลย

เทพมหาทัณฑ์ปรากฏตัวขึ้น กล่าวเสียงขรึม “ฟ้าบุพกาลมีภัย ดวงจิตทั้งหมดเตรียมพร้อมออกโรงเถิด!”

เทวีตราวินัยกล่าวว่า “ท่านเทพ ฟ้าบุพกาลโกลาหลด้วยเหตุใด”

ดวงจิตมหามรรคที่เหลือก็ประหม่ามากเช่นกัน มหามรรคสามพันวิถีสั่นคลอน ฟ้าบุพกาลเกิดรอยร้าว มารร้ายที่ไม่รู้จักปรากฏขึ้นที่ก้นบึ้ง นิมิตหมายของทุกสิ่งล้วนมิใช่ลางดีเลย พวกเขาคิดว่าความโกลาหลปั่นป่วนในฟ้าบุพกาลระยะนี้บ่งบอกถึงมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ที่จะมาเยือนในอนาคต

หรือว่านี่คือสัญญาณเตือนของมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่

เทพมหาทัณฑ์กล่าวว่า “ข้าก็ไม่ทราบแน่ชัด ระเบียบฟ้าบุพกาลมีเหตุผลและกฎเกณฑ์อยู่แน่นอน ส่วนหน้าที่ของพวกเราเหล่าดวงจิตก็คือพิทักษ์ฟ้าบุพกาลไว้ เมื่อฟ้าบุพกาลมีภัยพวกเราก็ต้องขจัดภัย ฟ้าบุพกาลวุ่นวายพวกเราก็ต้องสร้างความสงบสุข”

วาจานี้มีความหมายซ้อนนัย เหล่าดวงจิตมหามรรคได้ฟังก็กระวนกระวายอยู่ในใจ หรือว่าเทพมหาทัณฑ์ไม่พอใจกับพฤติกรรมบางอย่างในระยะนี้ของพวกเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ