ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 104

บทที่ 104 นายท่านคนที่สอง เทพปีศาจถือกำเนิด
“บิดา? ไม่ใช่ ท่านคือนายท่านของข้า…”

หญ้าโลกาสวรรค์นิ่งอึ้ง เอ่ยตาม

มันจมอยู่ในห้วงความคิด

“ในความทรงจำของข้าเคยมีนายท่านคนหนึ่ง… นางจากไปแล้ว ส่วนข้าถูกสัตว์ปีศาจกัดกิน ก่อนตายร่างกายแหลกสลาย หวนคืนสู่พิภพ…”

“ท่านคือนายท่านคนที่สองของข้า… ท่านจะทอดทิ้งข้าหรือ”

หานเจวี๋ยได้ยินเช่นนั้น คาดเดาได้ทันทีว่านายท่านคนแรกของหญ้าโลกาสวรรค์ก็คือเทพเซียนท่านนั้น

เทพเซียนจะสนใจหญ้าธรรมดาได้อย่างไร

หานเจวี๋ยยิ้มกล่าวว่า “ไม่มีทาง ต่อจากนี้ไม่ว่าข้าจะไปที่ใด ข้าจะพาเจ้าไปด้วย”

ทำกระถางให้หญ้าโลกาสวรรค์ก็ได้!

“นายท่านช่างดียิ่งนัก” หญ้าโลกาสวรรค์กล่าวอย่างตื้นตัน

[หญ้าโลกาสวรรค์เกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 5 ดาว]

ได้ยินเสียงของมัน หานเจวี๋ยรู้สึกว่านามหญ้าพยาบาทนี้ไม่เหมาะสมกับมันเสียแล้ว

ช่างเถอะ รอมันโตก่อนค่อยให้มันตั้งชื่อเองก็แล้วกัน

หานเจวี๋ยพูดคุยกับหญ้าโลกาสวรรค์อยู่สองสามประโยค ก่อนหันไปฝึกฝนต่อ

…..

บนยอดเขาสูง โจวฝาน โม่ฟู่โฉวและเซวียนซือซือยืนอยู่ริมหน้าผา เมื่อมองตามครรลองสายตาของพวกเขาไปแล้ว บนพื้นที่ราบเบื้องหน้ามีปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังคืบคลานเข้ามา ตัวที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดราวกับภูเขาสูงใหญ่ เป็นภาพที่น่าสะเทือนขวัญยิ่งนัก

โจวฟานขมวดคิ้วเอ่ยว่า “เหตุใดทหารปีศาจของพญาอสรพิษหยกถึงเพิ่มจำนวนขึ้นรวดเร็วเช่นนี้”

โม่ฟู่โฉวเองก็มองจนขนลุกขนพอง

หลังออกจากต้าเยี่ยนแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ใดก็มักจะพบกับทหารปีศาจของพญาอสรพิษหยกได้อย่างง่ายดาย ราวกับปีศาจทั้งหมดในใต้หล้าได้แปรพักตร์เข้าร่วมกับพญาอสรพิษหยกทั้งหมดแล้ว

“ก่อนหน้านี้เผ่าปีศาจถูกเผ่ามนุษย์กดขี่มาโดยตลอด ยามนี้ราชาปีศาจในปัจจุบันต่างไม่กล้ารุกรานเผ่ามนุษย์อย่างโจ้งแจ้ง อย่าเห็นแก่ว่าปีศาจนั้นกินคน แต่อันที่จริงแล้วปีศาจที่ถูกผู้บำเพ็ญสังหารนั้นมีมากกว่าเสียด้วยซ้ำ การปรากฏตัวของพญาอสรพิษหยกจึงทำให้เผ่าปีศาจมองเห็นความหวัง ย่อมลุกโหมกระพือเป็นธรรมดา” เซวียนซือซือกล่าวอย่างเรียบนิ่ง

นางกล่าวต่อว่า “เมื่อบรรลุระดับฝ่าด่านเคราะห์ ก็สามารถสำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์ เพราะอย่างนั้นผู้แข็งแกร่งระดับฝ่าด่านเคราะห์บนโลกนี้จึงมีจำนวนน้อยมาก ส่วนผู้บำเพ็ญระดับมหายาน นั่นก็มีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย”

โจวฟานเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ระดับฝ่าด่านเคราะห์ก็สามารถขึ้นสวรรค์ได้ แล้วเหตุใดยังมีระดับมหายานอีก”

โม่ฟู่โฉวเองก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน

“ผู้บำเพ็ญและปีศาจส่วนใหญ่ที่ฝึกฝนมาถึงระดับสุญตาถือเป็นเรื่องที่ยากลำบากเป็นอย่างมาก เมื่อบรรลุถึงระดับรวมกายาแล้ว หากต้องการบรรลุขั้นต่อไปยิ่งต้องพยายามหาโอกาส หากโชคดีก็บรรลุถึงระดับฝ่าด่านเคราะห์ แต่หลังจากนั้นก็แทบจะไม่สามารถเลื่อนขั้นได้อีกเลย เพราะอย่างนั้นผู้แข็งแกร่งระดับฝ่าด่านเคราะห์ส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะขึ้นสวรรค์ ทว่าบนโลกนี้ก็มักจะมีผู้ที่มีดวงชะตายิ่งใหญ่และบุตรแห่งสวรรค์บางส่วนที่ถึงแม้จะบรรลุระดับฝ่าด่านเคราะห์แล้ว แต่ยังคงสามารถฝึกฝนต่อไปบนโลกมนุษย์ได้”

“ข้ามีศิษย์พี่หญิงท่านหนึ่งที่เป็นจอมมารคนปัจจุบัน นางกลายเป็นผู้บำเพ็ญระดับมหายานแล้ว แต่ยังคงพัฒนาต่อไป ไม่เลือกที่จะขึ้นสวรรค์”

เซวียนซือซือเอ่ยอธิบาย น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยอารมณ์ทอดถอน

นางอิจฉาศิษย์พี่หญิงของตนมาก ตบะของนางในตอนนี้ยากที่จะพัฒนาได้ การก้าวข้ามระดับฝ่าด่านเคราะห์ดูเหมือนจะอยู่ห่างอีกเพียงก้าวเดียว แต่ความเป็นจริงนั้นช่างไกลจนไม่อาจเอื้อม

นางถอนหายใจก่อนกล่าวว่า “หากพญาอสรพิษหยกทะลวงถึงระดับฝ่าด่านเคราะห์ เขาจะกลายเป็นราชาปีศาจอันดับหนึ่งในเผ่าปีศาจ คู่ควรสมกับนามพญา เจ้าหมอนั่นมีจิตใจที่ทะเยอทะยานเป็นอย่างมาก เผ่ามนุษย์ในสิบเขตเก้าราชวงศ์ที่อยู่ใกล้เคียงจะต้องพบเจอกับหายนะ”

โจวฝานขมวดคิ้วกล่าว “เช่นนั้นพวกเราไปต่างแดนกันดีหรือไม่”

เขาก็ไม่อยากที่จะเผชิญหน้ากับพญาอสรพิษหยกอีก

ครั้งนั้นร่างสกรรจ์ของเขาก็ไม่อาจต้านทานหางของพญาอสรพิษหยกได้

“อืม ต่างแดนนับว่าเป็นสถานที่ที่ไม่เลว พญาอสรพิษหยกน่าจะไม่กล้าไปสร้างปัญหาในต่างแดน” เซวียนซือซือพยักหน้ากล่าว

โม่ฟู่โฉวเอ่ยอย่างเป็นกังวล “จะเกิดเหตุร้ายกับสำนักหยกพิสุทธิ์หรือไม่”

โจวฟานพูดอย่างจนใจว่า “เรื่องพญาอสรพิษหยกพวกเราได้บอกกับท่านเจ้าสำนักไปนานแล้ว พวกเราทำได้ดีที่สุดแล้ว”

เขาเองก็มีความผูกพันกับสำนักหยกพิสุทธิ์เป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าความผูกพันจะมากเพียงใดก็ไม่สามารถเทียบได้กับความเป็นความตายของตนเอง

ทั้งสามมองดูต่อไปอยู่สักพัก ก่อนรีบจากไปอย่างรวดเร็ว

กำลังเผ่าปีศาจของพญาอสรพิษหยกเปรียบเสมือนฝ่ามือใหญ่ เริ่มปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า บดบังดวงอาทิตย์ ผู้บำเพ็ญในเขตต่างๆ เต็มไปด้วยความวิตกกังวลกระวนกระวาย

……

เจ็ดปีต่อมา

หานเจวี๋ยหยุดการฝึกฝน หยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา และเริ่มสาปแช่งพญาอสรพิษหยก

ยังคงใช้เวลาถึงเจ็ดวัน หลังจากสาปแช่งเรียบร้อย หานเจวี๋ยจึงมองไปที่หญ้าโลกาสวรรค์

หญ้าโลกาสวรรค์ดูเหมือนจะไม่ได้สูงขึ้นมากนัก แต่กลับเริ่มเร่งก่อพลังวิญญาณแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ