บทที่ 1046 เงาร่างลึกลับ
ภายในห้วงอวกาศที่มืดมิดมืดมนอย่างยิ่ง ฉากมายามากมายล่องลอยดั่งบุปผาผลิบาน ปรากฏจากความว่างเปล่า ขยายจากเล็กจนใหญ่ จากนั้นแตกกระจายออกไปราวกับดอกไม้ไฟ
หานฮวงอยู่ในนั้น ลำแสงหลากสีสันสองสายที่แตกต่างกันพัวพันอยู่รอบกาย ดูคล้ายวิญญาณสองดวง มองเห็นเป็นเงาร่างมนุษย์เลือนราง
เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา คิ้วขมวดแน่น
“เพราะเหตุใดถึงผสานรวมกันไม่ได้”
หานฮวงพึมพำกับตัวเอง ในใจเต็มไปด้วยความฉงน
เขาไม่มีทางเชื่อว่ากฎเกณฑ์สูงสุดจะไม่สามารถผสานรวมกันได้ เพียงแค่ตอนนี้เขายังหาวิธีที่จะผสานเข้าด้วยกันไม่พบก็เท่านั้น
ตบะของเขาไม่ก้าวหน้าขึ้นแล้ว ทำได้เพียงต้องคิดหาวิธีอื่น
เขาก็บุกเบิกโลกของตนขึ้นแล้วเช่นกัน อยู่ในส่วนลึกของวิญญาณ ต้องการจะพัฒนาให้กลายเป็นโลกมหามรรค แต่พัฒนาไปเชื่องช้าเหลือเกิน ช้าจนเขารู้สึกว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้
กว่าที่โลกด้านในวิญญาณจะพัฒนาจนกลายเป็นเช่นเดียวกับผลาญนภาและฟ้าบุพกาลได้ ระยะเวลาในการพัฒนาหาใช่เพียงระยะเวลาตราบชั่วฟ้าดินสลายไม่
หานฮวงนึกถึงพลังลึกลับนั้นที่ซ่อนเร้นอยู่ในสายเลือดตน หากว่าพึ่งพาพลังนั้น จะสามารถผสานสองกฎเกณฑ์สูงสุดเข้าด้วยกันได้หรือไม่
เขาทดลองดูทันที
ในไม่ช้าเขาก็ได้รับพลังปฐมยุคเสี้ยวหนึ่ง ทำให้เกิดเรื่องที่น่าตื่นเต้นยินดีขึ้นกับเขา ภายใต้การบีบอัดของพลังปฐมยุค กฎเกณฑ์สูงสุดสองสายเริ่มผสานรวมกัน ถึงแม้จะเชื่องช้ายิ่ง แต่ก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ
“เป็นอย่างที่คิด ไม่มีกฎเกณฑ์ใดที่ข้าจะสยบไม่ได้!”
หานฮวงยิ้มมุมปาก เริ่มเพลิดเพลินไปกับขั้นตอนผสานรวมกฎเกณฑ์สูงสุด
ในช่วงเวลานี้เอง จู่ๆ พลังปฐมยุคก็ขาดหายไปกลางคัน ทำให้เขาตะลึงงัน
เขาพบว่าไม่ว่าตนจะกระตุ้นอย่างไรก็เรียกใช้พลังนั้นไม่ได้อีก น่าหงุดหงิดเหลือเกิน
หานฮวงตระหนกแล้ว
หรือว่าพลังลึกลับของเขาจะถูกกฎเกณฑ์สูงสุดย้อนกลืนกินแล้ว
เป็นไปไม่ได้!
เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!
พลังนั้นไร้พ่ายแล้ว!
หัวใจหานฮวงจมดิ่ง ลองพยายามต่อไป
หลายร้อยปีต่อมา เขาถึงรับรู้ถึงพลังลึกลับนั้นได้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้พลังลึกลับไม่ได้ขาดหายไปในระหว่างผสานรวมกฎเกณฑ์สูงสุดอีก
เช่นนี้เขาถึงได้เบาใจลง ขณะเดียวกันเขาก็เข้าใจเรื่องหนึ่งแล้ว
หากไม่เข้าใจพลังนี้อย่างถ่องแท้สมบูรณ์ก็ไม่อาจหลงระเริงไปกับพลังได้เด็ดขาด
หากว่าวันหน้าเผชิญศึกเป็นตายแล้วพลังนี้ขาดหายไปกลางคัน เช่นนั้นไม่จบเห่หรอกหรือ
พอนึกถึงจุดนี้ หานฮวงก็นึกหวาดกลัวย้อนหลังขึ้นมาทันที
หรือพลังนี้จะเป็นแผนร้ายที่พุ่งเป้ามายังเขา
คิดจะทำให้เขาหลงลำพองแล้วค่อยหักหลังในยามที่เขามีภัยถึงชีวิต
มีความเป็นไปได้สูง!
หานฮวงนึกถึงความเป็นไปได้หลายกรณี แผนร้ายของศัตรูเอย ความเมตตาจากบิดาเอย หลากหลายความคิด แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจได้ว่าวันหน้าจะไม่พึ่งพาพลังนี้ส่งเดชอีก
เว้นแต่เขาจะเข้าใจในพลังนี้อย่างถ่องแท้สมบูรณ์!
….
[ตรวจสอบพบว่าท่านมีอายุครบเก้าสิบล้านปีบริบูรณ์แล้ว ชีวิตก้าวหน้าไปอีกขั้น ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]
[หนึ่ง ออกจากปิดด่านทันที ช่วยโลกปฐมยุคฮุบกลืนโลกมหามรรคอื่นๆ จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน โอกาสยกระดับความสามารถระบบหนึ่งครั้ง]
[สอง เก็บตัวบำเพ็ญ รักษาปณิธานเดิม จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน]
[ท่านได้รับโอกาสใช้งานสวรรค์ประทานโชคหนึ่งครั้ง]
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น เลือกตัวเลือกที่สองเงียบๆ
ถึงแม้โอกาสยกระดับความสามารถระบบจะล้ำค่ามาก แต่จะชักนำปัญหานับไม่ถ้วนเข้ามา
ตอนนี้หานเจวี๋ยยังไม่อยากสร้างศัตรู
หลายล้านปีผ่านไป ตบะของเขาเพิ่มพูนขึ้นไม่น้อยเลย ความเข้าใจที่มีต่อเทพมารปฐมยุคก็ลึกล้ำขึ้น ส่วนโลกปฐมยุคนอกจากจะขยายตัวออกไปอย่างต่อเนื่องตามที่หานเจวี๋ยคาดการณ์แล้วก็ยังสมบูรณ์แบบขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
หานเจวี๋ยเริ่มสอดส่องฟ้าบุพกาล พบว่าฟ้าบุพกาลก็กำลังเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน
ด้วยการเกื้อหนุนจากโลกมหามรรคทั้งสามแห่งอย่าง โลกพ้นนิวรณ์ โลกอวิชชาและโลกผลาญนภา ความเร็วในการพัฒนาตัวของฟ้าบุพกาลทิ้งห่างจากก่อนหน้านี้ไปไกลโข
สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ของเจ้านวฟ้าบุพกาลผ่านฟ้าบุพกาลได้
หานเจวี๋ยมองไปที่ซั่นเอ้อร์ จากนั้นก็เคลื่อนย้ายไปยังอารามเต๋าในเขตเซียนร้อยคีรีตามลำพัง เขาหยิบหนังสือแห่งความชั่วร้ายออกมาสาปแช่งเจ้านวฟ้าบุพกาล
เรื่องนี้จะให้ผู้ใดพบเห็นไม่ได้เด็ดขาด ต่อให้เป็นสตรีของตนหรือว่าบุตรธิดาของตนก็ตาม ไม่ได้ทั้งสิ้น!
หากเขาขับไล่ซั่นเอ้อร์ออกไป ก็เกรงว่ารูปการณ์จะบังเอิญสอดคล้องเชื่อมโยงกัน ดังนั้นจึงหลบออกมาทำเงียบๆคนเดียวจะดีที่สุด
ความรู้สึกที่คุ้นเคยหวนกลับมาอีกครั้ง ทำให้หานเจวี๋ยยิ้มออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...