ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 1046

สรุปบท บทที่ 1046 เงาร่างลึกลับ: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ตอน บทที่ 1046 เงาร่างลึกลับ จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1046 เงาร่างลึกลับ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 1046 เงาร่างลึกลับ

ภายในห้วงอวกาศที่มืดมิดมืดมนอย่างยิ่ง ฉากมายามากมายล่องลอยดั่งบุปผาผลิบาน ปรากฏจากความว่างเปล่า ขยายจากเล็กจนใหญ่ จากนั้นแตกกระจายออกไปราวกับดอกไม้ไฟ

หานฮวงอยู่ในนั้น ลำแสงหลากสีสันสองสายที่แตกต่างกันพัวพันอยู่รอบกาย ดูคล้ายวิญญาณสองดวง มองเห็นเป็นเงาร่างมนุษย์เลือนราง

เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา คิ้วขมวดแน่น

“เพราะเหตุใดถึงผสานรวมกันไม่ได้”

หานฮวงพึมพำกับตัวเอง ในใจเต็มไปด้วยความฉงน

เขาไม่มีทางเชื่อว่ากฎเกณฑ์สูงสุดจะไม่สามารถผสานรวมกันได้ เพียงแค่ตอนนี้เขายังหาวิธีที่จะผสานเข้าด้วยกันไม่พบก็เท่านั้น

ตบะของเขาไม่ก้าวหน้าขึ้นแล้ว ทำได้เพียงต้องคิดหาวิธีอื่น

เขาก็บุกเบิกโลกของตนขึ้นแล้วเช่นกัน อยู่ในส่วนลึกของวิญญาณ ต้องการจะพัฒนาให้กลายเป็นโลกมหามรรค แต่พัฒนาไปเชื่องช้าเหลือเกิน ช้าจนเขารู้สึกว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้

กว่าที่โลกด้านในวิญญาณจะพัฒนาจนกลายเป็นเช่นเดียวกับผลาญนภาและฟ้าบุพกาลได้ ระยะเวลาในการพัฒนาหาใช่เพียงระยะเวลาตราบชั่วฟ้าดินสลายไม่

หานฮวงนึกถึงพลังลึกลับนั้นที่ซ่อนเร้นอยู่ในสายเลือดตน หากว่าพึ่งพาพลังนั้น จะสามารถผสานสองกฎเกณฑ์สูงสุดเข้าด้วยกันได้หรือไม่

เขาทดลองดูทันที

ในไม่ช้าเขาก็ได้รับพลังปฐมยุคเสี้ยวหนึ่ง ทำให้เกิดเรื่องที่น่าตื่นเต้นยินดีขึ้นกับเขา ภายใต้การบีบอัดของพลังปฐมยุค กฎเกณฑ์สูงสุดสองสายเริ่มผสานรวมกัน ถึงแม้จะเชื่องช้ายิ่ง แต่ก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ

“เป็นอย่างที่คิด ไม่มีกฎเกณฑ์ใดที่ข้าจะสยบไม่ได้!”

หานฮวงยิ้มมุมปาก เริ่มเพลิดเพลินไปกับขั้นตอนผสานรวมกฎเกณฑ์สูงสุด

ในช่วงเวลานี้เอง จู่ๆ พลังปฐมยุคก็ขาดหายไปกลางคัน ทำให้เขาตะลึงงัน

เขาพบว่าไม่ว่าตนจะกระตุ้นอย่างไรก็เรียกใช้พลังนั้นไม่ได้อีก น่าหงุดหงิดเหลือเกิน

หานฮวงตระหนกแล้ว

หรือว่าพลังลึกลับของเขาจะถูกกฎเกณฑ์สูงสุดย้อนกลืนกินแล้ว

เป็นไปไม่ได้!

เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!

พลังนั้นไร้พ่ายแล้ว!

หัวใจหานฮวงจมดิ่ง ลองพยายามต่อไป

หลายร้อยปีต่อมา เขาถึงรับรู้ถึงพลังลึกลับนั้นได้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้พลังลึกลับไม่ได้ขาดหายไปในระหว่างผสานรวมกฎเกณฑ์สูงสุดอีก

เช่นนี้เขาถึงได้เบาใจลง ขณะเดียวกันเขาก็เข้าใจเรื่องหนึ่งแล้ว

หากไม่เข้าใจพลังนี้อย่างถ่องแท้สมบูรณ์ก็ไม่อาจหลงระเริงไปกับพลังได้เด็ดขาด

หากว่าวันหน้าเผชิญศึกเป็นตายแล้วพลังนี้ขาดหายไปกลางคัน เช่นนั้นไม่จบเห่หรอกหรือ

พอนึกถึงจุดนี้ หานฮวงก็นึกหวาดกลัวย้อนหลังขึ้นมาทันที

หรือพลังนี้จะเป็นแผนร้ายที่พุ่งเป้ามายังเขา

คิดจะทำให้เขาหลงลำพองแล้วค่อยหักหลังในยามที่เขามีภัยถึงชีวิต

มีความเป็นไปได้สูง!

หานฮวงนึกถึงความเป็นไปได้หลายกรณี แผนร้ายของศัตรูเอย ความเมตตาจากบิดาเอย หลากหลายความคิด แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจได้ว่าวันหน้าจะไม่พึ่งพาพลังนี้ส่งเดชอีก

เว้นแต่เขาจะเข้าใจในพลังนี้อย่างถ่องแท้สมบูรณ์!

….

[ตรวจสอบพบว่าท่านมีอายุครบเก้าสิบล้านปีบริบูรณ์แล้ว ชีวิตก้าวหน้าไปอีกขั้น ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง ออกจากปิดด่านทันที ช่วยโลกปฐมยุคฮุบกลืนโลกมหามรรคอื่นๆ จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน โอกาสยกระดับความสามารถระบบหนึ่งครั้ง]

[สอง เก็บตัวบำเพ็ญ รักษาปณิธานเดิม จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน]

[ท่านได้รับโอกาสใช้งานสวรรค์ประทานโชคหนึ่งครั้ง]

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น เลือกตัวเลือกที่สองเงียบๆ

ถึงแม้โอกาสยกระดับความสามารถระบบจะล้ำค่ามาก แต่จะชักนำปัญหานับไม่ถ้วนเข้ามา

ตอนนี้หานเจวี๋ยยังไม่อยากสร้างศัตรู

หลายล้านปีผ่านไป ตบะของเขาเพิ่มพูนขึ้นไม่น้อยเลย ความเข้าใจที่มีต่อเทพมารปฐมยุคก็ลึกล้ำขึ้น ส่วนโลกปฐมยุคนอกจากจะขยายตัวออกไปอย่างต่อเนื่องตามที่หานเจวี๋ยคาดการณ์แล้วก็ยังสมบูรณ์แบบขึ้นเรื่อยๆ ด้วย

หานเจวี๋ยเริ่มสอดส่องฟ้าบุพกาล พบว่าฟ้าบุพกาลก็กำลังเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน

ด้วยการเกื้อหนุนจากโลกมหามรรคทั้งสามแห่งอย่าง โลกพ้นนิวรณ์ โลกอวิชชาและโลกผลาญนภา ความเร็วในการพัฒนาตัวของฟ้าบุพกาลทิ้งห่างจากก่อนหน้านี้ไปไกลโข

สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ของเจ้านวฟ้าบุพกาลผ่านฟ้าบุพกาลได้

หานเจวี๋ยมองไปที่ซั่นเอ้อร์ จากนั้นก็เคลื่อนย้ายไปยังอารามเต๋าในเขตเซียนร้อยคีรีตามลำพัง เขาหยิบหนังสือแห่งความชั่วร้ายออกมาสาปแช่งเจ้านวฟ้าบุพกาล

เรื่องนี้จะให้ผู้ใดพบเห็นไม่ได้เด็ดขาด ต่อให้เป็นสตรีของตนหรือว่าบุตรธิดาของตนก็ตาม ไม่ได้ทั้งสิ้น!

หากเขาขับไล่ซั่นเอ้อร์ออกไป ก็เกรงว่ารูปการณ์จะบังเอิญสอดคล้องเชื่อมโยงกัน ดังนั้นจึงหลบออกมาทำเงียบๆคนเดียวจะดีที่สุด

ความรู้สึกที่คุ้นเคยหวนกลับมาอีกครั้ง ทำให้หานเจวี๋ยยิ้มออกมา

เขาเริ่มทำนายดู กลับพบว่าตนทำนายไม่ได้

หานเจวี๋ยชักสนใจขึ้นมาแล้ว

‘ข้าอยากรู้ว่าเงาดำที่ซั่นเอ้อร์เห็นคือผู้ใด’

[ตรวจสอบไม่พบบ่วงกรรม อาจไม่มีตัวตนอยู่หรือมีสุดยอดสมบัติในการครอบครอง]

‘มีหนังสือแห่งความโชคร้ายเล่มที่สองอยู่อีกหรือไม่’

[ไม่สามารถตรวจสอบถึงบ่วงกรรมได้]

หานเจวี๋ยลองสอบถามด้วยวิธีการรูปแบบอื่นดู ล้วนทำนายถึงไม่ได้ทั้งสิ้น

เช่นนี้ชักน่าสนใจแล้ว!

แม้แต่เจ้านวฟ้าบุพกาลก็ยังสามารถทำนายถึงได้ ไม่น่าเชื่อว่าจะยังมีตัวตนที่ลึกลับยิ่งกว่าเจ้านวฟ้าบุพกาลอีก

เขาลองสอบถามถึงผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบันนี้ดูอีกครั้ง

เสียอายุขัยไปสิบล้านล้านปีทราบว่ายังคงเป็นเจ้านวฟ้าบุพกาลอยู่

หรือว่าคนผู้นี้จะมาจากอนาคต

หานเจวี๋ยตกอยู่ในห้วงความคิด

ซั่นเอ้อร์ยังคงบอกเล่าถึงแรงกดดันที่ประสบมา

“อีกฝ่ายสังเกตเห็นเจ้าหรือไม่” หานเจวี๋ยถาม

ซั่นเอ้อร์ส่ายหน้า “น่าจะไม่เห็นขอรับ ถึงอย่างไรพอข้าเห็นเขาเข้าก็ตกใจจนดึงจิตรับรู้กลับมาทันที ไม่กล้าศึกษาต่อแล้ว”

หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “ไม่เป็นไร ทำต่อไปเถิด นี่คือเส้นทางที่เจ้าจำเป็นต้องเดิน”

หากเกิดเรื่องขึ้นมาเขาก็ยังใช้ความสามารถชำระล้างสมบูรณ์ช่วยเหลือซั่นเอ้อร์ได้

ตอนนี้เขาได้ดึงเสี้ยววิญญาณหนึ่งของซั่นเอ้อร์ออกมาแล้ว เพื่อให้สะดวกสำหรับฟื้นคืนชีพ ดังนั้นต่อให้เกิด พลาดท่าสิ้นชีพไป ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอยู่ดี

“ขอรับ”

ซั่นเอ้อร์พยักหน้ารับ จากนั้นอึกอักอยากจะพูดอะไรแต่ก็หยุดไป

หานเจวี๋ยกลับเริ่มตรวจดูจดหมาย

ซั่นเอ้อร์เห็นว่าท่านปฐมบรรพชนไม่ได้สนใจตนจึงเอ่ยโพล่งออกไป “ท่านปฐมบรรพชน ข้าพิสูจน์มหามรรคแล้วขอรับ!”

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ