บทที่ 1077 ตำนานออกโรง
การปรากฏตัวของหานเจวี๋ยทำให้เหล่าศิษย์สำนักซ่อนเร้นทั้งหมดที่อยู่ในละแวกรอบข้างตื่นเต้นขึ้นมา เจตนาสังหารแผ่ไพศาลที่ปกคลุมฟ้าดินคล้ายจะหายวับไปในทันใด
แสงเทพที่ส่องออกมาจากทั่วร่างเขากลายเป็นแสงเจิดจ้าที่สว่างไสวที่สุดในสายตาของฝูงชน เป็นตัวแทนของความหวัง ตัวแทนแห่งชัยชนะ
ในใจของเหล่าศิษย์สำนักซ่อนเร้น หานเจวี๋ยคือตัวตนไร้พ่าย
นับแต่โบราณมา ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่ดูน่าสิ้นหวังยากจะผ่านไปได้เพียงใดแต่หานเจวี๋ยก็จะเผชิญหน้าอย่างสงบนิ่งเสมอ พวกเขาไม่มีทางนึกสงสัยในตัวหานเจวี๋ย มีเพียงความคาดหวังเท่านั้น
“แม้จะกล่าวได้ดี แต่อย่าได้พูดอีกจะดีกว่า หากพวกเจ้ามีความสามารถจริงก็จงพึ่งพาพลังของตัวเองเพื่อแบกรับความรับผิดชอบของเจ้าดีกว่า!”
เสียงของหานเจวี๋ยแว่วดังขึ้น พวกเจียงเจวี๋ยซื่อฟังแล้วได้แต่ก้มหน้าลงด้วยความละอาย
หานชิงเอ๋อร์แค่นเสียงเอ่ยไปว่า “ใช่แล้ว แต่ละคนมีพลังไม่พอก็ยังเอาแต่รักศักดิ์ศรีหน้าตา สุดท้ายก็เดือดร้อนไปถึงท่านพ่อของข้าอยู่ดี หนีตามข้ากลับอาณาเขตเต๋าไปยังจะดีเสียกว่า”
เมื่อเผชิญกับคำถากถางทุกคนก็ยิ่งรู้สึกละอายกว่าเดิม ถึงขั้นที่ไม่กล้าตอบโต้ด้วยซ้ำ
เหล่าตานมองหานเจวี๋ย รู้สึกสะท้อนใจอย่างยิ่ง
ในอดีตไม่ว่าอย่างไรก็ไม่เคยคิดเลยว่าคนผู้นี้จะเติบใหญ่จนกลายเป็นตัวตนที่เลิศล้ำจนแม้แต่ร่างจริงของเขาก็เทียบไม่ติด มีอำนาจเหนือทั่วฟ้าบุพกาล
หานเจวี๋ยทอดสายตามองไกลออกไป จ้องมองยอดมารร้ายฟ้าบุพกาลที่กำลังสู้กับจ้าวซวงเฉวียนและหานฮวง ช่างแข็งแกร่งมากจริงๆ ซ้ำยังแฝงเร้นพลังอีกสายที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าไว้ในร่างด้วย กำลังแผ่พลังออกมาอย่างต่อเนื่อง รัศมีเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ
“ท่านมาแล้ว”
เทพมหาทัณฑ์พลันปรากฏตัวขึ้นข้างกายหานเจวี๋ย เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
หานเจวี๋ยมิได้มองเขา แต่กล่าวเบาๆ ว่า “รักษาตัวให้ดีเถอะ”
เทพมหาทัณฑ์เอ่ยว่า “ข้าสงสัยว่ามารตนนี้จะก้าวข้ามยอดมหามรรคไปแล้ว บรรลุถึงระดับที่สูงขึ้นไป ท่านโปรดระวังตัวด้วย”
หานเจวี๋ยไม่ได้เอ่ยตอบ
เขาไม่ได้จะลงมือในทันที แต่อยากรอดูขีดจำกัดของหานฮวงและจ้าวซวงเฉวียน
หานทั่ว หานชิงเอ๋อร์และหานอวิ๋นจิ่นต่างรีบเข้ามาหา
“ท่านพ่อ รีบลงมือเถิด พี่น้องจะต้านไม่ไหวแล้ว”
“ท่านพ่อกำลังรออะไรหรือขอรับ”
แม้จะเผชิญการเร่งเร้าจากบุตรธิดาหานเจวี๋ยก็ไม่นำพา
มีผู้ทรงพลังสังเกตเห็นหานเจวี๋ยที่ปรากฏตัวขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ แสงเทพทั่วร่างเขาสกัดกั้นการสอดส่องได้ทุกรูปแบบ แต่พอเห็นเทพมหาทัณฑ์แสดงท่าทีนอบน้อมถึงเพียงนี้ ผู้ทรงพลังรุ่นอาวุโสก็คาดเดาฐานะของหานเจวี๋ยออกแล้ว พลันรู้สึกโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก
เหล่าผู้ทรงพลังรุ่นใหม่ต่างสนใจใคร่รู้ คนผู้นี้เป็นใครกัน
ในเวลาเดียวกันนี้
ภายในอาณาเขตเต๋าแห่งที่สาม
“ท่านปฐมบรรพชนไปแล้ว!”
ซั่นเอ้อร์เอ่ยด้วยความตื่นเต้น ราวกับผู้ที่เข้าไปกอบกู้สถานการณ์เป็นตัวเขาเอง
เก้าเทวดาราก็เช่นเดียวกัน ตื่นเต้นกันแทบบ้าแล้ว หลายปีมานี้พวกเขาคอยเฝ้ามองการต่อสู้ในฟ้าบุพกาลเป็นประจำ อีกทั้งพวกเขาก็เคยมีประสบการณ์ในแบบจำลองการทดสอบมาแล้ว ดังนั้นจึงคาดหวังอยากเห็นท่านปฐมบรรพชนประชันกับยอดมารร้ายฟ้าบุพกาลมาตลอด อยากรู้ว่าผู้ใดจะแกร่งกว่ากัน
สิงหงเสวียนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “น่าเวทนามารร้ายตนนั้น”
เซวียนฉิงจวิน เซียนซีเสวียน ชิงหลวนเอ๋อร์และฉางเยวี่ยเอ๋อร์ต่างพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม
หานเจวี๋ยไม่มีทางลงสนามในศึกที่ไม่มีโอกาสชนะ ขอเพียงเขายอมออกโรง ศึกนั้นย่อมได้รับชัย
หานฮวงกระตุ้นพลังปฐมยุคอย่างบ้าคลั่ง แต่ทุกครั้งที่คิดจะสำแดงพลังวิเศษล้วนถูกยอดมารร้ายฟ้าบุพกาลปัดป้องได้
“น่าชังนัก…นี่มันพลังวิเศษใดกัน”
หานฮวงโกรธเกรี้ยวสุดขีด นัยน์ตาแดงฉานแล้ว
เขามองการโจมตีของยอดมารร้ายฟ้าบุพกาลไม่ออกอย่างสิ้นเชิง
ทุกครั้งที่เขาทะยานกายขึ้นไป ล้วนสัมผัสได้ว่ามีพลังล่องหนที่น่าหวาดหวั่นประการหนึ่งโจมตีใส่ร่างเขาในทันใด
ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น จ้าวซวงเฉวียนก็โมโหมากเช่นกัน
“สมควรตาย นี่คือพลังของเจ้าเก้าอย่างนั้นหรือ”
จ้าวซวงเฉวียนบ่นในใจ นี่คิดจะถ่ายเทพลังให้เขามิใช่หรือไร แล้วเหตุใดถึงสยบได้ยากเย็นปานนี้เล่า
เขาอดคาดเดาไปไม่ได้ หรือว่าเจ้าเก้าจะเปลี่ยนใจแล้ว
ทั้งสองสร้างกายเนื้อขึ้นใหม่อีกครั้ง โจมตีใส่ยอดมารร้ายฟ้าบุพกาล ทันทีที่เคลื่อนไหวก็ถูกพลังอันไร้รูปลักษณ์บดขยี้อีก ย่อยยับไปในห้วงมิติ
“เจ้าพวกหนอนแมลง ยังคิดจะดิ้นรนอีกหรือ”
เสียงของยอดมารร้ายฟ้าบุพกาลแว่วดังขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...