บทที่ 1125 ยุคสมัยไร้สิ้นสุด ผู้สร้างสูงสุด
ดรรชนีกระบี่โลกาสวรรค์ทลายภพแสนทรงพลังฝ่าทำลายพลังแห่งอันธการ เจ้าแดนต้องห้ามอันธการคิดจะขัดขวาง แต่พลังอันธการชั้นแล้วชั้นเล่าที่เขาก่อขึ้นมากลับถูกฝ่าทำลายลง สุดท้ายก็พุ่งทะลวงกายเนื้อเขาจนกลายเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่
ดินแดนเวิ้งว้างที่อยู่ด้านหลังเกิดรอยแตกร้าวสีดำสายหนึ่งที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด มีความกว้างเพียงพอจะบรรจุฟ้าบุพกาลเข้าไปได้ เหล่าผู้ทรงพลังนับพันเห็นแล้วตระหนกตกใจ
สิ่งนี้น่าตกใจกว่าหัตถ์ใหญ่มโหฬารของมหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญเสียอีก!
อริยะสวรรค์เกรียงไกรแข็งแกร่งระดับใดกันแน่
การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุดลง เจ้าแดนต้องห้ามอันธการไม่ได้ถูกทำลายล้างไปเพราะการโจมตีนี้ เขาตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว “อริยะสวรรค์เกรียงไกร เจ้ามีพลังถึงเพียงนี้เชียวหรือ! แต่หากคิดสังหารข้ายังคงเป็นไปไม่ได้อยู่ดี! ผู้สร้างมรรคาเป็นอมตะมิวางวาย!”
หานเจวี๋ยแค่นเสียง “ถึงสังหารไม่ได้ เช่นนั้นก็จะผนึกเจ้าไว้ตลอดกาล!”
พอสิ้นเสียงเขา ตราปฐมยุคประทับนภากว้างไพศาลไร้ขอบเขตปรากฏขึ้นเหนือศีรษะเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ใหญ่กว่าฟ้าบุพกาลนับหมื่นเท่า โถมถับลงมาพร้อมพลังทำลายล้าง
เจ้าแดนต้องห้ามอันธการคิดจะหลบเลี่ยง แต่กลับมีสายฟ้าแปลกประหลาดปรากฏขึ้นรอบกาย ราวกับคุกคุมขัง ทำให้ไม่สามารถหลบหนีได้
ปฐมยุคประทับนภาโถมทับลงมาภายใต้สายตาของเหล่าผู้ทรงพลังที่มีสีหน้าตื่นเต้นและสรรพสิ่งที่คาดหวังตั้งตาคอย บดขยี้เจ้าแดนต้องห้ามอันธการจนแหลกเป็นเถ้า วิญญาณของเขาดิ้นรนอยู่ภายในปฐมยุคประทับนภาอย่างสุดกำลัง
“เป็นไปไม่ได้…
“ไม่มีทาง…
“เหตุใดเจ้าถึงมีพลังเช่นนี้ได้! ในเมื่อเจ้าแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เหตุใดถึงไม่แก่งแย่งชิงดี เหตุใดถึงเก็บตัวเช่นนี้…”
เจ้าแดนต้องห้ามอันธการตวาดเสียงแหบแห้ง เห็นได้ชัดว่าตอนนี้อับจนหนทางแล้ว
เสียงของหานเจวี๋ยแว่วดังตามขึ้นมา “วิถีแห่งการบำเพ็ญ เดิมทีก็มิใช่การแก่งแย่งเอาชนะอยู่แล้ว ข้าแข่งขันกับตัวเองเท่านั้น มิใช่วัตถุภายนอก”
วาจานี้สร้างความประทับใจลึกล้ำให้แก่ผู้ทรงพลังทั้งหมด ณ ที่แห่งนั้น
เจ้าแดนต้องห้ามอันธการถูกผนึกไว้ในปฐมยุคประทับนภาท่ามกลางสายตาของสรรพสิ่ง หานเจวี๋ยพลันกำมือกลางอากาศ ปฐมยุคประทับนภาหายไป จี้หยกสี่ชิ้นปรากฏขึ้นในมือเขา
เขาโยนออกไปส่งๆ จี้หยกสี่ชิ้นกลายเป็นสี่ผู้สร้างมรรคา
เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาล มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญ มหาเทวาพ้นนิวรณ์ จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์
ก่อนหน้านี้พวกเขาถูกผนึกไว้ แต่มิได้สูญเสียสติสัมปชัญญะไป เฝ้ามองการต่อสู้มาโดยตลอด มองเห็นในมุมมองเดียวกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ฟ้าบุพกาลช่างเล็กจ้อยนัก แต่ไม่คิดเลยว่าทันทีที่หานเจวี๋ยปรากฏตัวขึ้น สถานการณ์ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรไป
แม้แต่สี่ผู้สร้างมรรคาก็ตกอยู่ในความตะลึงเช่นกัน หลังฟื้นคืนชีพก็ยังไม่ได้สติกลับมา
หานเจวี๋ยทอดมองฟ้าบุพกาลที่พังพินาศ เอ่ยขึ้นว่า “ฟ้าบุพกาลย่อยยับแล้ว กฎระเบียบเก่าๆ สมควรปล่อยผ่านไป ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็สามารถเริ่มต้นยุคสมัยไร้สิ้นสุดได้แล้ว”
เขาโบกมือขวาเล็กน้อย เศษซากห้วงมิติฟ้าบุพกาล ฟ้าดินแต่ละแห่งโปรยปรายเข้าสู่ดินแดนเวิ้งว้าง วินาทีนั้น ราวกับมีพลังบางอย่างกวาดพาดไปทั่วดินแดนเวิ้งว้างโดยมีฟ้าบุพกาลเป็นศูนย์กลาง ขยายครอบคลุมอย่างไร้ที่สิ้นสุด
เหล่าผู้ทรงพลังรับรู้ได้ชัดเจนว่าดินแดนเวิ้งว้างเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ได้หนักอึ้งเช่นในอดีตที่ผ่านมา แต่ปลอดโปร่งสบายเหมือนตอนพวกเขาอยู่ในฟ้าบุพกาล พลังวิญญาณไร้สิ้นสุดครอบคลุมทั่วดินแดนเวิ้งว้าง
ยุคสมัยไร้สิ้นสุดมาเยือนแล้ว!
จบลงแล้วหรือ
เหล่าผู้ทรงพลังมองหน้ากัน รู้สึกไม่อยากจะเชื่อนัก
สิ่งมีชีวิตที่กระจายตัวอยู่ตามโลกต่างๆ เริ่มโห่ร้องยินดี ไชโยโห่ร้องก้องฟ้า
“ขอบพระคุณสำหรับความช่วยเหลือของอริยะสวรรค์เกรียงไกร” มหาเทวาพ้นนิวรณ์เริ่มคารวะหานเจวี๋ยก่อน สามผู้สร้างมรรคาจึงคารวะตาม
เหล่าผู้ทรงพลังหลายพันคนก็คุกเข่าคารวะหานเจวี๋ย มองเขาอย่างร้อนแรงนัก
หากมิใช่เพราะหานเจวี๋ยออกโรง มหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่คงจบลงด้วยความพินาศของฟ้าบุพกาล สิ่งที่รอคอยพวกเขาก็คือความตาย
หานเจวี๋ยเอ่ยขึ้นว่า “ผู้วายชนม์ล่วงลับไปแล้ว ยุคสมัยไร้สิ้นสุดจำเป็นต้องมีกฎระเบียบ พ้นนิวรณ์ นับจากนี้ไป เจ้ารับหน้าที่ดูแลกฎระเบียบแห่งยุคสมัยไร้สิ้นสุด สามผู้สร้างมรรคาที่เหลือคอยช่วยแบ่งเบาภาระ รับแบ่งปันมหาโชคแห่งมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ส่วน…”
“อนธการสิ้นแสง เข่นฆ่าก่อกรรมมากเกินไป จะถูกผนึกอยู่นอกกฎระเบียบร่วมกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ไม่มีวันหลุดพ้นได้”
พอสิ้นเสียงเขา อนธการสิ้นแสงเริ่มร้องโหยหวนน่าเวทนา มันสลายเป็นเถ้าธุลีไปภายใต้สายตาของสรรพสิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...