ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 113

สรุปบท บทที่ 113 อายุขัยหนึ่งแสนปี บุตรแห่งฟ้าดิน: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 113 อายุขัยหนึ่งแสนปี บุตรแห่งฟ้าดิน – ตอนที่ต้องอ่านของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ตอนนี้ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 113 อายุขัยหนึ่งแสนปี บุตรแห่งฟ้าดิน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 113 อายุขัยหนึ่งแสนปี บุตรแห่งฟ้าดิน
หานเจวี๋ยเลือกฝึกฝนต่อไปอย่างเงียบๆ ยังไม่ขึ้นสวรรค์ในตอนนี้

[ท่านเลือกฝึกฝนต่อไป มุ่งสู่ระดับมหายาน ได้รับสมบัติวิญญาณหนึ่งชิ้น และสืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง]

[ยินดีด้วย ท่านได้รับสมบัติวิญญาณระดับไท่อี่–เกราะอ่อนทองม่วง]

[ยินดีด้วย ท่านได้รับพลังพิเศษ–ภูษาเอกภพ]

[เกราะอ่อนทองม่วง: สมบัติวิญญาณประเภทป้องกันระดับแปดขั้นไท่อี่ ยืดหดได้อิสระ พลังป้องกันสูงสุด]

[ภูษาเอกภพ: อาภรณ์แห่งฟ้าดิน ดูดซับหยินหยางในโลกหล้า]

สมบัติวิญญาณประเภทป้องกัน!

อีกทั้งยังเป็นระดับไท่อี่!

เอาใจข้าไปเลย!

หานเจวี๋ยคิดอย่างมีความสุข เพียงแต่พลังป้องกันนี้แข็งแกร่งมาก ควบคุมได้ยาก

แต่ไม่เป็นไร แบบจำลองการทดสอบก็คัดลอกตบะของเซวียนฉิงจวินไว้แล้ว สามารถทดสอบกับนางได้!

หานเจวี๋ยไม่ได้สืบทอดพลังวิเศษ แต่ทำตบะให้เสถียรต่อ

หลังบรรลุสู่ระดับฝ่าด่านเคราะห์ พลังวิญญาณของเขาเรียกได้ว่าพุ่งทะยานขึ้น สูงกว่าเมื่อก่อนถึงสิบเท่า!

ระหว่างกระบวนการทำตบะของเขาให้เสถียร ในสมองของหานเจวี๋ยมีความทรงจำมากมายปรากฏขึ้นมา

วิถีสู่สวรรค์!

ใช้โชควาสนาของตนเอง กระตุ้นมรรคาสวรรค์ มรรคาสวรรค์จะช่วยให้ถอยห่างจากโลกมนุษย์ ทะยานสู่สรวงสวรรค์!

หานเจวี๋ยไม่เพียงสามารถขึ้นสู่สรวงสวรรค์เท่านั้น แต่ยังสามารถไปยังโลกใต้พิภพ รวมไปถึงจักรวาลอื่นๆ ด้วย

นี่น่าจะเกี่ยวข้องกับเส้นทางเซียนกระบี่หวนคืนที่เขาเลือกมาก่อนหน้านี้

ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรใด หานเจวี๋ยก็จะยังไม่ไปในตอนนี้

หัวไก่นั้นสบายกว่าหางหงส์!

กว่าจะก้าวสู่ขั้นหนึ่งในภพนี้ได้ไม่ง่ายดาย สุดท้ายกลับข้ามไปสู่สรวงสวรรค์กลายเป็นขั้นบันได?

นี่ทำอะไรหานเจวี๋ยไม่ได้ เพราะอย่างไรเขาก็มีอายุขัยยืนยาว!

เมื่อคิดถึงอายุขัย หานเจวี๋ยจึงเรียกดูหน้าจอแสดงคุณสมบัติของตน

[ชื่อ: หานเจวี๋ย]

[อายุขัย: 478/109,200]

[เผ่าพันธุ์: มนุษย์ (ช่วงหลุดพ้นโลกีย์)]

[ตบะ: ระดับฝ่าด่านเคราะห์ขั้นหนึ่ง]

[วิชายุทธ์: วิชาวัฏจักรหกวิถี (สามารถสืบทอดได้)]

[วิชาเวท: ดรรชนีกระบี่เทพ ย่างก้าวลวงตาเจ็ดชั้น สามกระบี่แยกเงา (ไร้เทียมทาน) ตราประทับเก้ามังกรขจัดมาร มหาวายุอัสนี วิชาเทพวายุ วิชาเผยโฉม]

[พลังวิเศษ: พลังดูดวิญญาณหกสาย กระบี่ฟ้าสังหารเทพปีศาจ ค้ำฟ้าเสมือนพสุธา เมฆตีลังกา พลังเทพหมื่นกระบี่ คำสาปตถาคต ตราประทับหกวิถี ปราณกระบี่ฟ้าดิน ดรรชนีกระบี่โลกาสวรรค์ทลายภพ ภูษาเอกภพ]

[อาวุธเวท: อาภรณ์เทพทมิฬจักจั่นทอง (สมบัติวิญญาณระดับเจ็ด) เข็มขัดเก็บสมบัติ กระบี่กิเลน เชือกพันธนาการปีศาจ ระฆังเพลิงอัคคี (สมบัติวิญญาณระดับหก) รองเท้าวิญญาณเก้าดารา (สมบัติวิญญาณระดับห้า) มงกุฎแก้วเจ้าเหมันต์ (สมบัติวิญญาณระดับสี่) หนังสือแห่งความโชคร้าย (สมบัติวิญญาณระดับไท่อี่ชั้นสุดยอด) ภูษาเทพพสุธาต้านวิญญาณ (สมบัติวิญญาณระดับสาม) สร้อยเซียนคุ้มจิต (สมบัติวิญญาณระดับสาม) เบาะสงบจิตใจ (สมบัติวิญญาณระดับหกขั้นไท่อี่) กำไลวิเศษบรรลุสวรรค์ (สมบัติวิญญาณชั้นเลิศ) เกราะอ่อนทองม่วง (สมบัติวิญญาณระดับแปดขั้นไท่อี่)]

[พลังวิเศษที่สร้างเอง: ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ (ระดับไท่อี่)]

[ของวิเศษคู่ชีวิต: กระบี่พิพากษาอนธการ]

[คุณสมบัติรากวิญญาณ: ร่างวิญญาณหกสาย ประกอบไปด้วยรากวิญญาณขั้นสูงสุดวายุ อัคคี วารี พสุธา พฤกษา อัสนี เสริมดวงชะตาอีกหนึ่งขั้น]

[ดวงชะตาแต่กำเนิดมีดังนี้]

[ไม่เป็นสองรองใคร: คุณสมบัติเซียน มหาเสน่ห์ขั้นสูงสุด]

[ชะตาเซียนกระบี่: คุณสมบัติมรรคกระบี่ขั้นสูงสุด เจตจำนงมรรคกระบี่ขั้นสูงสุด]

[ความไวของท่าร่าง: คุณสมบัติท่าร่างขั้นสูงสุด]

[ทายาทจักรพรรดิเซียน: ได้รับวิชายุทธ์บำเพ็ญเซียนชั้นเลิศหนึ่งชุด…]

…..

อายุขัยหนึ่งแสนเก้าพันปี!

หานเจวี๋ยสงสัยยิ่งนักว่านี่เป็นเพราะคุณงามความดีของวิชาวัฏจักรหกวิถีหรือไม่ เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าผู้บำเพ็ญจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงหนึ่งแสนปี

เขาเพิ่งบรรลุระดับฝ่าด่านเคราะห์ หากรอจนเขาทะลวงสู่ระดับมหายาน อายุขัยของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าใดกัน

หานเจวี๋ยรวบรวมพลัง เริ่มจดจ่อกับการทำตบะให้เสถียร

เจ็ดวันหลังจากนั้น

ตบะของหานเจวี๋ยนั้นมีเสถียรภาพอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นผู้บำเพ็ญระดับฝ่าด่านเคราะห์อย่างแท้จริง!

เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง พื้นที่ราบถูกสายอัสนีฟาดผืนหญ้าจนไหม้เกรียม ทุกหนแห่งกลายเป็นหลุมบ่อขรุขระ สายฝนเองก็หยุดโปรยปราย เคราะห์สวรรค์ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ แต่ยังเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของที่นี่

หานเจวี๋ยจึงเริ่มเดินทางกลับ

บินไปได้ไม่นานนัก อักขระแถวหนึ่งก็พลันปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

[ตรวจสอบพบผู้มีดวงชะตาแต่กำเนิด จะตรวจสอบที่มาหรือไม่]

…..

ฟางเหลียงยกป้ายคำสั่งสังหารเทพขึ้นมา เมื่อเห็นอักษรบนป้ายคำสั่งอย่างชัดเจน ใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไปอย่างมาก เอ่ยพึมพำขึ้นว่า “หรือเขาจะเป็นผู้อาวุโสสังหารเทพของสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ที่เหล่าผู้บำเพ็ญในตลาดพูดถึงกัน”

เบื้องหน้าของหานเจวี๋ยมีอักขระปรากฏขึ้นหนึ่งแถว

[ฟางเหลียงเกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 4 ดาว]

ในวัยเยาว์ เมื่อได้รับการชี้แนะที่ไร้เงื่อนไขจากผู้ยิ่งใหญ่ คนเรามักเกิดความเลื่อมใสศรัทธาได้ง่าย

เมื่อกลับไปยังเขาเพียรบำเพ็ญเซียน หานเจวี๋ยไม่ได้สนใจพวกไก่คุกรัตติกาลและสวินฉางอัน เขากลับไปที่ถ้ำราวกับสายลมหอบหนึ่ง

เขานั่งลงบนเตียงโดยไม่พูดอะไร หยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาและเริ่มสาปแช่งทันที

เรื่องใหญ่เช่นนี้ต้องฉลองสักหน่อย!

หญ้าโลกาสวรรค์เอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “นายท่าน ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว!”

หานเจวี๋ยจากไปนานเพียงนี้ มันก็เป็นกังวลว่าตนเองจะถูกทอดทิ้ง

“ช่วงนี้ฝึกบำเพ็ญเป็นอย่างไรบ้าง” หานเจวี๋ยเอ่ยถาม

ตบะของหญ้าต้นนี้อยู่ในระดับหลอมปราณขั้นแปดแล้ว พรสวรรค์ค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่บ้าง

หญ้าโลกาสวรรค์เอ่ยตอบว่า “ยามที่ฝึกฝน ข้ามักจะมีความทรงจำเกี่ยวกับการฝึกฝนบางอย่างปรากฏขึ้น ดูเหมือนว่าจะเป็นวิชายุทธ์วิชาหนึ่ง”

หานเจวี๋ยไม่ได้รู้สึกแปลกใจ อย่างไรเสียหญ้าโลกาสวรรค์ก็เคยติดตามเทพเซียนผู้ตรัสรู้

“หากมีที่ใดผิดปกติ สมารถบอกข้าได้ตลอด”

“ตกลง นายท่าน!”

…..

ข่าวที่หานเจวี๋ยทะลวงระดับฝ่าด่านเคราะห์ไม่ได้แพร่กระจายออกไป หลี่ชิงจื่อเองก็ไม่ได้ป่าวประกาศเรื่องนี้ไปทั่ว เขาเอาแต่ปิดด่านฝึกฝนตลอดทั้งวัน

ไม่กี่วันต่อมา ฟางเหลียงมาถึงสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ และเนื่องจากมีป้ายคำสั่งสังหารเทพ เขาจึงกลายเป็นศิษย์สายในทันทีโดยที่ไม่ต้องทำตามกฎระเบียบ

ฟางเหลียงสอบถามถึงที่พำนักของผู้อาวุโสสังหารเทพ อีกทั้งยังเอ่ยถามศิษย์ของผู้อาวุโสสังหารเทพเหล่านั้นว่าการกราบไหว้อาจารย์ต้องทำเช่นใด

ไม่นาน เขาก็ค้นพบวิธี เขามาถึงตีนเขาของเขาเพียรบำเพ็ญเซียนพลางคุกเข่าลงคาราวะที่หน้าป้ายศิลา

ไม่ใช่เพียงเขา แต่ยังมีคนนับสิบที่มาคุกเข่าคาราวะเช่นเดียวกัน

ตั้งแต่พญาอสรพิษหยกตกตายไป จำนวนศิษย์ที่อยากกราบไหว้หานเจวี๋ยก็พุ่งสูงขึ้น ทุกช่วงเวลามักจะมีศิษย์ที่เดินทางมาโขกศีรษะคำนับ นี่จึงกลายเป็นจุดเด่นของสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ไปแล้ว

ทว่าเหล่าผู้อาวุโสก็ยังกำชับอย่างเคร่งครัดว่าไม่ให้ผู้ใดก่อความวุ่นวายในบริเวณเขาเพียรบำเพ็ญเซียน ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกขับไล่ออกจากสำนัก

หานเจวี๋ยรับรู้การมาถึงของฟางเหลียงแล้ว เขากำลังลังเลอยู่บ้างว่าจะรับดีหรือไม่

……………………………………………………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ