ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 114

สรุปบท บทที่ 114 ผู้มีดวงชะตายิ่งใหญ่เต็มสำนัก เส้นทางการกลับมาของซูฉี: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ตอน บทที่ 114 ผู้มีดวงชะตายิ่งใหญ่เต็มสำนัก เส้นทางการกลับมาของซูฉี จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 114 ผู้มีดวงชะตายิ่งใหญ่เต็มสำนัก เส้นทางการกลับมาของซูฉี คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 114 ผู้มีดวงชะตายิ่งใหญ่เต็มสำนัก เส้นทางการกลับมาของซูฉี
หานเจวี๋ยครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ คิดว่าจะไม่สนใจฟางเหลียงไปก่อน

บุตรแห่งฟ้าดินดูแล้วท่าจะร้ายกาจ หากมีนิสัยไม่ต่างจากหยางเทียนตงและสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น กลับกลายจะสร้างความเดือดร้อนให้เขามากขึ้น เช่นนั้นก็ได้ไม่คุ้มเสีย

ตอนนี้หานเจวี๋ยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพลังของผู้อื่น

คิดไปพลาง หานเจวี๋ยก็หลับตาลงอีกครั้ง ก่อนจะฝึกฝนต่อไป

…..

วันคืนล่วงเลยผ่านไป

ตั้งแต่เซวียนฉิงจวินจากไป มารหลัวฉิวผู้ที่ต้องการล้างแค้นให้กับพญาอสรพิษหยกก็ไม่ได้ปรากฏตัวมาโดยตลอด ดูเหมือนว่าเซวียนฉิงจวินจะจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว

เมื่อสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นทุกที หานเจวี๋ยก็ไม่เจอปัญหาที่ต้องให้เขาลงมืออีก ทำให้เขาจดจ่อกับการเพียรบำเพ็ญได้

เวลาห้าปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ราวม้าขาวผ่านช่องว่าง

ที่ตีนเขาเพียรบำเพ็ญเซียน เหล่าศิษย์ที่คุกเข่าคาราวะเปลี่ยนผ่านไปอีกกลุ่ม ทว่าฟางเหลียงยังคงอยู่

หานเจวี๋ยรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง ไม่คิดว่าบุตรแห่งฟ้าดินผู้นี้จะมีความอดทนได้ถึงเพียงนี้

เขาลุกขึ้นแล้วเดินออกจากถ้ำเทวา ไปหาสวินฉางอันก่อนเอ่ยว่า “เจ้ายังอยากรับศิษย์หรือไม่”

ทันทีที่วาจาเหล่านี้ออกมา หยางเทียนตง ไก่คุกรัตติกาลและมู่หรงฉี่ก็ลืมตาขึ้นอย่างอดไม่ได้

สวินฉางอันเอ่ยอย่างลังเล “อาจารย์อยากให้ข้ารับหรือ”

การชี้แนะมู่หรงฉี่ก็ทำให้เขาเป็นกังวลมากแล้ว เพราะพรสวรรค์ของมู่หรงฉี่แข็งแกร่งกว่าเขา อีกทั้งตบะก็ไล่ตามตนได้ทันแล้วเช่นกัน

หลังจากนี้ศิษย์จะแข็งแกร่งกว่าอาจารย์ หากเรื่องนี้แพร่ออกไป เขายังมีหน้าไปพบใครอีกหรือ

หากจะรับศิษย์เพิ่มอีก เช่นนั้นยังต้องเสียเวลาในการฝึกฝน

“อาจารย์ เช่นนั้นให้ข้ารับดีหรือไม่” หยางเทียนตงเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

เห็นพรสวรรค์ของมู่หรงฉี่แข็งแกร่งมากถึงเพียงนั้น เขาก็คันยุบยิบในหัวใจมานานแล้ว

หานเจวี๋ยถลึงตามองเขา เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ให้เจ้ารับ เกรงว่าจะส่งไปเป็นหลานของราชาปีศาจตนอื่นน่ะสิ!”

เข่าของหยางเทียนตงพลันทรุดในทันใด ก้มศีรษะลงด้วยความละอาย

“เอาเถิด อาจารย์ ท่านอยากให้ข้ารับผู้ใดเป็นศิษย์ ลูกศิษย์ที่ตีนเขาหรือ” สวินฉางอันพูดขึ้นอย่างหน่ายใจ

หานเจวี๋ยโบกมือ พาฟางเหลียงที่ตีนเขาขึ้นมาทันที

ตบะของฟางเหลียนอ่อนแอ เมื่อคุกเข่าเป็นเวลาห้าปี ร่างของเขาก็พลันทรุด นั่งลงกับพื้นในทันที แม้กระทั่งลุกยืนก็ยังไม่ไหว

เมื่อเขาเห็นหานเจวี๋ย ก็พลันตื่นเต้นดีใจขึ้นมา

“ผู้อาวุโส ท่านยอมรับข้าเป็นศิษย์แล้ว?” ฟางเหลียงเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น

มู่หรงฉี่เอ่ยอย่างไม่แยแสว่า “กราบอาจารย์? อย่างเจ้านี่นะ? เจ้าเป็นได้เพียงศิษย์น้องของข้าเท่านั้นแหละ!”

ฟางเหยียนนิ่งงัน

หานเจวี๋ยหันไปกำชับกับสวินฉางอันว่า “สามารถถ่ายทอดวิชาหยกพิสุทธิ์ให้กับเขาได้ ก่อนระดับรวมแก่นปราณ ไม่อนุญาตให้เขาลงจากเขา”

กล่าวจบ หานเจวี๋ยก็เดินกลับไปที่ถ้ำเทวา

ตั้งแต่นั้น ฟางเหลียงก็กราบตนเข้าเป็นศิษย์ของสวินฉางอัน กลายเป็นศิษย์หลานคนที่สอง

หลังจากกลับไปที่ถ้ำเทวาแล้ว หานเจวี๋ยนั่งสมาธิลงบนเตียง เขากำลังลูบคางครุ่นคิด

หยางเทียนตงศิษย์คนโต สายเลือดเทพปีศาจ

ซูฉีศิษย์คนรอง ดาวตัวซวยแห่งวังสวรรค์กลับชาติมาเกิด

สวินฉางอันศิษย์คนที่สาม โสมวิญญาณบรรพกาลสรวงสวรรค์กลับชาติมาเกิด

มู่หรงฉี่ศิษย์หลานคนโต เทพสงครามวังเทพกลับชาติมาเกิด ได้รับสมญานามว่าจักรพรรดิเทพเมี่ยวเจิน

ฟางเหลียงศิษย์หลานคนรอง บุตรแห่งฟ้าดิน

ไก่คุกรัตติกาล เทพปีศาจสวรรค์กลับชาติมาเกิด ร่างเดิมคือหงส์คุกรัตติกาล

สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น สัตว์เทพโชคชะตา!

นอกจากนี้ยังมีหญ้าโลกาสวรรค์ที่สามารถกลายเป็นเทพเซียนได้

จิ๊ๆ

ผู้มีดวงชะตายิ่งใหญ่เต็มสำนัก กำลังพลยิ่งใหญ่!

โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว หานเจวี๋ยได้รวบรวมกองกำลังที่มีศักยภาพไว้ในมือมากมายเช่นนี้แล้ว

ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดน่าจะเป็นมู่หรงฉี่

‘เช่นนั้นก็รอให้พวกเขาเติบโตมากกว่านี้ก่อน ข้าค่อยขึ้นสวรรค์? หรือจะให้พวกเขาขึ้นสวรรค์ไปก่อน หลังจากนั้นค่อยสนับสนุนข้า?’

หานเจวี๋ยลอบคิดอย่างเงียบๆ เขาส่ายหน้าหุบรอยยิ้ม ไม่คิดให้มากความอีก กลับไปฝึกฝนต่อ

…..

ผ่านไปอีกสามปี

นักพรตเต๋าจิ่วติ่งกลับมาพร้อมกับศิษย์กลุ่มหนึ่ง หนึ่งในนั้นมีฉางเยวี่ยเอ๋อร์อยู่ด้วย เรื่องนี้ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวในสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ไม่น้อย

เดิมทีฉางเยวี่ยเอ๋อร์คิดอยากไปกราบคารวะเซียนซีเสวียน แต่เมื่อรู้ว่าเซียนซีเสวียนย้ายไปอยู่บนเขาลูกเดียวกับหานเจวี๋ย นางก็อดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้

แปลกยิ่งนัก

ฉางเยวี่ยเอ๋อร์ยิ้มรับอย่างดีใจ หลังจากนั้นก็ออกไปเลือกสถานที่และเปิดถ้ำเทวา

ไม่รู้ว่าหานเจวี๋ยคิดมากเกินไปหรือไม่ แต่ฉางเยวี่ยเอ๋อร์เลือกที่จะเปิดถ้ำเทวาระหว่างเซียนซีเสวียนและสิงหงเสวียน และระยะห่างระหว่างสองด้านนั้นก็แทบจะเท่ากัน

เซียนซีเสวียนและสิงหงเสวียนออกไปหาประสบการณ์ข้างนอกก่อนหน้านี้ไม่นาน และยังไม่ได้กลับมา

เรื่องที่ฉางเยวี่ยเอ๋อร์กลับมาเรียกได้ว่าเป็นเรื่องเล็กเท่านั้น แทบไม่ได้กวนใจหานเจวี๋ยแต่อย่างใด

หานเจวี๋ยก็ไม่ได้จงใจเจียดเวลาเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับฉางเยวี่ยเอ๋อร์ แต่กลับฝึกฝนต่อไป

ความรักคือเมฆที่ลอยฟุ้ง!

ตบะนั้นถึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด!

เพียงแค่เขาแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่ชอบเขาก็จะยิ่งชอบเขามากขึ้น

สตรี ไม่สามารถครอบครองตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในหัวใจของเขาได้ตลอดกาล

…..

พลบค่ำ เส้นทางเล็กๆ ระหว่างภูเขา

ซูฉีถือกระบี่เดินไปข้างหน้า ใบหน้าที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชน สกปรกมอมแมมไปด้วยฝุ่นธุลี

เขากำลังมุ่งหน้าไปทางต้าเยี่ยน ไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักรู้สึกว่าเส้นทางขากลับนั้นอันตรายกว่าตอนที่เขามายิ่งนัก ช่วงนี้ผู้บำเพ็ญสายมารที่เขาพบเจอมีมากเกินไป แต่ละตนล้วนชั่วร้ายอย่างยิ่ง

ซูฉีอดไม่ได้ที่จะใช้หางตาเหลือบมองผู้ชราที่เดินอยู่บนยอดเขาข้างๆ เขา

คนผู้นี้ก็คือยอดผู้บำเพ็ญระดับฝ่าด่านเคราะห์ที่เขาพบในซากปรักหักพังของสำนักมารปีศาจก่อนหน้านี้ มีนามว่าตู้ขู่

สำนักมารปีศาจถูกทำลาย ตู้ขู่รู้สึกเสียใจมาโดยตลอด หากไม่สามารถทำความปรารถนาของตนให้สำเร็จ วันใดที่เขาขึ้นสวรรค์ สุดท้ายก็จะกลายเป็นมารในใจ เพราะอย่างนั้นเขาจึงติดตามซูฉีมาตลอดทาง ต้องการที่จะรับซูฉีเป็นศิษย์

ซูฉีมีอาจารย์อยู่แล้ว ดังนั้นจะกราบไหว้เขาได้อย่างไร

ตู้ขู่เองก็ไม่ได้บีบบังคับเขา ตลอดทางที่ติดตาม ก็ช่วยเหลือซูฉีสังหารผู้บำเพ็ญสารมารไปจำนวนไม่น้อย

ซูฉีพอจะเข้าใจนิสัยของตู้ขู่ดี เขาไม่พึ่งพาตบะที่แข็งแกร่งของตนบีบบังคับผู้เยาว์ เพราะอย่างนั้นเขาจึงกล้าที่จะล้อเล่นกับตู้ขู่ ตอนนี้ทั้งสองคนเป็นราวกับคู่กัด มักจะต่อสู้ฟาดฟัน ประเดี๋ยวทะเลาะประเดี๋ยวคืนดี

“หยุดก่อน!”

จู่ๆ ตู้ขู่ก็ตะโกนขึ้น ทำเอาซูฉีตัวสั่นด้วยความตกใจ รีบร้อนหยุดการเคลื่อนไหว มองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง ป้องกันการโจมตีของศัตรู

ตู้ขู่เคลื่อนร่างมาหาซูฉี เอ่ยด้วยสีหน้ามืดครึ้ม “มารหลัวฉิว เจ้าจ้องมองศิษย์ของข้าตลอดเวลา มีแผนการอะไรกันแน่”

มองตามสายตาที่เขามองไป ใต้เงาต้นไม้เบื้องหน้าปรากฏเป็นเงาสีดำสายหนึ่ง ยากที่จะแยกแยะใบหน้าที่แท้จริงได้ เรือนร่างน่ากลัว ดูราวกับผีร้าย

“ศิษย์ของเจ้า? นี่ก็ไม่ใช่ศิษย์ของประมุขมารหรอกหรือ ตู้ขู่ หากเจ้าต้องการขึ้นสวรรค์อย่างราบรื่น จงเชื่อฟังแล้วรามือเสีย! ข้าต้องการเจ้าเด็กนี่!”

………………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ