ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 1140

สรุปบท บทที่ 1140 พลังแห่งกาลเวลา คลื่นใต้น้ำ: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 1140 พลังแห่งกาลเวลา คลื่นใต้น้ำ – ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet

บท บทที่ 1140 พลังแห่งกาลเวลา คลื่นใต้น้ำ ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 1140 พลังแห่งกาลเวลา คลื่นใต้น้ำ

เมื่อทะลุผ่านวังวนดำเข้าไป หานอวี้ตกอยู่ในห้วงเวลาอันวุ่นวาย ในฐานะอริยะมหามรรคหานอวี้ไม่ได้ถูกภาพมายาของห้วงเวลาทำให้สับสน ยังคงไล่ตามเงาร่างของหานเหลียงไปอย่างรวดเร็ว

หานเหลียงถูกคนในชุดคลุมสีเทาสวมหน้ากากอุ้มไว้ ไม่สามารถขัดขืนได้

เห็นได้ชัดว่าหน้ากากของคนชุดเทาเป็นยอดสมบัติฟ้าบุพกาล หานอวี้ไม่สามารถสอดส่องโฉมหน้าจริงได้ ถึงขั้นที่รับรู้ไม่ได้แม้แต่กลิ่นอายของเขา

หากมิใช่เพราะเห็นอยู่กับตา เกรงว่าคงนึกว่าหานเหลียงเดินทางข้ามผ่านกระแสเวลาอันปั่นป่วนตามลำพัง

หานอวี้เร่งความเร็วเข้าไปใกล้ พอหานเหลียงเห็นชนรุ่นหลังผู้นี้ ดวงตาพลันเบิกกว้าง เผยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ

คนชุดเทาโบกแขนเสื้อ พายุโลหิตไร้สิ้นสุดโถมเข้าใส่หานอวี้ หานอวี้ก็ไม่ได้ลนลานเลย ซัดฝ่ามือสวรรค์มหาเกรียงไกรสลายพายุโลหิตไป แม้แต่กระแสเวลาอันวุ่นวายก็ถูกตัดสะบั้นด้วย

หานอวี้ยื่นมือออกไป ส่งพลังเวทเข้าห่อหุ้มตัวหานเหลียงไว้ คิดจะชิงตัวเขากลับมา แต่กลับมีพลังแกร่งกล้าประการหนึ่งสลายพลังเวทของเขาทิ้งไป ถึงขั้นที่สะเทือนไปถึงวิญญาณของเขาด้วย

หานอวี้ขมวดคิ้ว กระวนกระวายใจ ด้วยการประมือนี้ทำให้เขาทราบดียิ่งขึ้นว่าตนมิใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายเลย

เขาไม่ได้ล่าถอยกลับ อย่างไรก็ต้องช่วยหานเหลียงมาให้ได้

หานเหลียงถือกำเนิดมาก็มีพลังสะกดข่มสายเลือดคนอื่นๆ ในตระกูลได้ คุณสมบัติระดับนั้นนับเป็นโชคของตระกูลหานแล้ว จะเสียไปไม่ได้

หานอวี้ลงมืออีกครั้ง

คนชุดเทาพลันหยุดนิ่ง สกัดพลังวิเศษของหานอวี้พลางเอ่ยขึ้นว่า “อริยะหานอวี้ เจ้าไม่ควรขัดขวางข้า”

หานอวี้ไม่รู้สึกคุ้นเสียงเขาเลย เอ่ยถามเสียงเข้ม “เจ้าอยากเป็นศัตรูกับตระกูลหานอย่างนั้นหรือ”

คนชุดเทากล่าวว่า “ตรงกันข้ามเลย ข้ากำลังช่วยตระกูลหานอยู่ จะปล่อยเด็กคนนี้ไว้ไม่ได้”

หานอวี้ขมวดคิ้ว

คนชุดเทายกมือขวาขึ้นมา วาดเป็นทรงครึ่งวงกลมตรงด้านหน้า ทันใดนั้นเอง จันทราครึ่งเสี้ยวดวงหนึ่งพลันก่อตัวขึ้น สายตาของหานอวี้มองไปที่จันทร์ครึ่งเสี้ยวตามสัญชาตญาณ จากนั้นสติก็หลุดลอยไป

หานอวี้ลืมตาขึ้นมา พบว่าตนอยู่ในห้วงอวกาศสีเลือดแห่งหนึ่ง ไกลออกไปมองเห็นโลกที่พังทลายไปแล้วอยู่มากมาย รอบด้านเต็มไปด้วยซากศพ

ที่นี่คือดินแดนเวิ้งว้าง เหตุผลที่กลายเป็นสีเลือดก็เพราะมีแรงกรรมสังหารมากเกินไป

หานอวี้มองเห็นเงาร่างหนึ่ง เป็นหานเหลียง

หานเหลียงคนนี้ดูอายุราวสิบสองสิบสามปี สวมเสื้อคลุมสีดำลายอักขระโลหิต อักขระโลหิตที่เลื้อยพัวพันแผ่ละอองโลหิตออกมาอย่างต่อเนื่อง เสื้อคลุมสีดำตัวนี้ดูหลวมโพรกอย่างเห็นได้ชัด เรือนผมยาวของเขาแผ่สยาย บนใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มชั่วร้ายประดับอยู่

หานอวี้มองเห็นหานเหลียงคนนี้แล้วก็ไม่ตื่นตกใจ เขารับรู้ได้ว่าที่นี่คือโลกมายา สิ่งที่พบเห็นยลยินไม่มีความสำคัญเลย สิ่งที่เขาต้องทำคือหลุดพ้นจากโลกมายานี้โดยเร็ว

ตอนที่หานเหลียงพุ่งเข้ามาด้านหน้าเขา เขาก็ยังคงไม่สนใจ

ตูม!

หานเหลียงซัดฝ่ามือทะลวงอกของหานอวี้ ความเจ็บปวดรุนแรงสมจริงทำให้ใบหน้าของหานอวี้เปลี่ยนสี

เขาแสดงสีหน้าราวกับไม่อยากจะเชื่อ

หานเหลียงกำลังดูดพลังเวทของเขาอยู่!

นี่มิใช่โลกมายาเลื่อนลอย!

เป็นไปได้อย่างไร!

….

ณ อาณาเขตเต๋าแห่งที่สาม นอกอารามเต๋า หานอวี้และหานอวิ๋นจิ่นกำลังรอขอเข้าพบอยู่

หานเจวี๋ยปล่อยให้พวกเขาเข้ามา

หลังจากหานอวิ๋นจิ่นคารวะเสร็จก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนใจ “ท่านพ่อ หานเหลียงบุตรชายของลูกถูกลักพาตัวไปแล้ว!”

หานอวี้บอกเล่าเรื่องราวตอนที่ตนไล่ตามคนชุดเทาไป เขาปิดบังเรื่องอนาคตของหานเหลียงที่ตนได้พบเห็นมา

หานเจวี๋ยไม่ได้แปลกใจอันใด เอ่ยเสียงเรียบ “ข้าทราบเรื่องนี้แล้ว”

พอเห็นหานเจวี๋ยมีท่าทีสงบนิ่งเช่นนี้ หานอวิ๋นจิ่นอดไม่ได้ที่จะซักถามต่อ “ท่านพ่อ เรื่องนี้จะทำอย่างไรดีขอรับ”

หานอวิ๋นจิ่นมีบุตรธิดานับไม่ถ้วน ตัวเขาย่อมมิได้ชมชอบหานเหลียงเป็นพิเศษ แรกเริ่มเขายังคงระแวดระวังยิ่งนัก เหตุผลที่ตอนนี้เขาเป็นกังวลเพราะกลัวหานเหลียงจะกลายเป็นภัยในภายภาคหน้ามากกว่า

พอสิ้นเสียงเขา หัวน้อยๆ หัวหนึ่งก็ยื่นออกมาจากด้านหลังหานเจวี๋ย หากมิใช่หานเหลียงแล้วจะเป็นผู้ใดไปได้

อารามเต๋าแห่งนี้สามารถปิดกั้นประสาทสัมผัสของคนอื่นได้ ดังนั้นหลังจากหานอวิ๋นจิ่นและหานอวี้เข้ามาแล้วจึงไม่รับรู้ถึงตัวตนของหานเหลียง อีกทั้งเมื่ออยู่ต่อหน้าหานเจวี๋ยพวกเขาก็ไม่กล้าสอดสายตาวุ่นวาย

“เหลียงเอ๋อร์!”

….

สามพันปีต่อมา

ภายในอาณาเขตเต๋า หานเหลียงเหินทะยานดั้นเมฆหมอก บางครั้งก็แปลงกายเป็นคุนเผิง บางครั้งก็แปลงกายเป็นมังกรคราม เรียกเสียงปรบมือและตื่นเต้นฮือฮาจากเหล่าศิษย์บนพื้นดินได้เป็นระยะ

ตบะของบรรดาศิษย์เหล่านี้ห่างชั้นจากหานเหลียงมากนัก ดังนั้นที่พวกเขาทำเป็นตื่นเต้นฮือฮา นอกจากจะทำไปเพื่อเอาใจแล้ว ที่มากไปกว่านั้นคือเพราะตะลึงในคุณสมบัติของหานเหลียง

ตบะเด็กคนนี้อยู่ในระดับเทพแล้ว ก้าวหน้าเร็วเหลือเกิน!

รูปลักษณ์ภายนอกของหานเหลียงเป็นเด็กชายตัวน้อยมาตลอด จิตใจก็ไม่เคยเติบโตตามเลยเช่นกัน ดังนั้นจึงได้รับความเอ็นดูจากเหล่าศิษย์

“เหลียงเอ๋อร์ ป้าสามมาแล้ว!”

หานชิงเอ๋อร์เหาะเข้ามา พุ่งมาอุ้มหานเหลียง

หานเหลียงมีสีหน้าเดียดฉันท์ พยายามดิ้นรน ร้องขึ้นมา “ท่านปล่อยนะ ข้าไม่อยากเล่นกับท่าน!”

แรกเริ่มหานเหลียงยังคงชมชอบหานชิงเอ๋อร์มาก แต่ทุกครั้งที่หานชิงเอ๋อร์มา ล้วนจะมาบีบฟัดเขาเล่น ทำให้เขารู้สึกต่อต้านขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ว่าหานเหลียงจะดิ้นรนเช่นไรก็ไม่อาจหลุดพ้นจากหานชิงเอ๋อร์ได้

อีกด้านหนึ่ง เจียงเจวี๋ยซื่อเข้าไปพบหานเจวี๋ย

หลังจากหานเจวี๋ยไร้พ่าย ก็ไม่ได้ทุ่มเทกับการปิดด่านอีกต่อไป อีกทั้งปกติก็มีน้อยคนนักที่จะกล้ามารบกวนเขา

หลังจากเข้าสู่อาราม เจียงเจวี๋ยซื่อโขกศีรษะคารวะอย่างอ่อนน้อม

เขาเงยหน้ามองหานเจวี๋ย เอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์ ระหว่างที่ข้ากลับชาติมาเกิด ได้ค้นพบเรื่องหนึ่งเข้า มีพลังลึกลับประการหนึ่งสั่งสมอยู่ในห้วงเวลา ถึงขั้นที่เอ่ยถึงเจ้าแดนต้องห้ามอันธการแล้ว เกรงว่าคงมิใช่เรื่องดีขอรับ”

เขาบอกเล่าสถานการณ์ตามที่ตนเข้าใจ หลังจากหานเจวี๋ยแสดงท่าทีรับทราบ เขาก็จากไป เขามาเพื่อเตือนเท่านั้น

สายตาของหานเจวี๋ยมองไปทางหานเหลียง

“ไม่คิดเลยว่าเจ้า เจียงเจวี๋ยซื่อและสวินเซิ่งจุนจะมารวมตัวกันได้ น่าสนใจจริงๆ”

หานเจวี๋ยพึมพำกับตัวเอง สวินเซิ่งจุนคือผู้สร้างมรรคาจากอนาคตที่ปรากฏตัวขึ้นในมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ใหญ่ก่อนหน้านี้ เป็นเชื้อสายคนหนึ่งของหานเจวี๋ยเช่นกัน แต่มิใช่หานเหลียง เพียงมีต้นกำเนิดมาจากหานเหลียงเท่านั้น

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ