ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 1141

บทที่ 1141 จำนวนในอนาคต

ผู้สร้างมรรคาไม่อาจสอดส่องอนาคตของผู้สร้างมรรคาด้วยกันได้ กล่าวอีกอย่างคือ อนาคตที่พวกเขาสามารถสอดส่องได้จะต้องไม่มีผู้สร้างมรรคารายใหม่ปรากฏตัวขึ้น อย่างมากก็มีตบะเพียงระดับยอดมหามรรค พวกเขาไม่สามารถแยกแยะได้ว่ายอดมหามรรคคนใดจะมีโอกาสพิสูจน์ผู้สร้างสำเร็จ

หานเจวี๋ยมีฐานะเป็นเทพผู้สร้างแล้ว แต่ก็ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าผู้สร้างมรรคาคนใดจะบรรลุสู่ระดับเทพผู้สร้างได้ แต่เขาสามารถสอดส่องได้ว่าในอนาคตจะมีผู้สร้างมรรคากี่ราย

บ่วงกรรมเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด จำนวนของผู้สร้างมรรคาในอนาคตก็เพิ่มขึ้นอยู่ตลอด

อนาคตของหานเหลียงและจี้เซียนเสินก็สามารถสำเร็จเป็นผู้สร้างมรรคาได้ เพียงแต่นั่นคืออนาคตที่ไกลแสนไกล

หลังจากจี้เซียนเสินเข้าสู่ห้วงเวลาต้นกำเนิดก็ถูกตัดสะบั้นบ่วงกรรม แต่ภายหลังหานเจวี๋ยเห็นเขาปรากฏตัวขึ้นในห้วงเวลาอีก แต่บ่วงกรรมที่ถูกสะบั้นไปแล้วไม่มีทางฟื้นคืนกลับมาอีกครั้งเพราะการปรากฏตัวขึ้นของเขา

ก่อนหน้านี้สวินเซิ่งจุนเคยมีปฏิสัมพันธ์กับจี้เซียนเสินมาก่อน ตอนนี้ทั้งสองก็มาสมคบกันอีก ซ้ำยังดึงตัวหานเหลียงในอนาคตมาด้วย

คนชุดเทาที่ลักพาตัวหานเหลียงไปก็คือหานเหลียงในอนาคต

หานเหลียงในช่วงเวลาปัจจุบันอยู่ในการดูแลของหานเจวี๋ยแล้ว ถึงสามคนนี้จะร่วมมือกันก็ยากจะทำให้สำเร็จได้

หากถูกบีบคั้นเข้าตาจนจริงๆ หานเจวี๋ยจะทำลายห้วงมิติเวลาทิ้งไปทั้งหมด จากนั้นค่อยสร้างทุกอย่างขึ้นใหม่

ผู้สร้างมรรคาก็สามารถทำลายล้างทุกสิ่งที่มีระดับต่ำกว่าผู้สร้างมรรคาได้ เหตุผลที่ก่อนหน้านี้ไม่ปรากฏเด่นชัดมาก่อนเนื่องจากมีผู้สร้างมรรคามากเกินไป คานอำนาจกันมาตลอด แต่เทพผู้สร้างกลับมีเพียงหานเจวี๋ย หานเจวี๋ยจึงหยิ่งผยองไร้กริ่งเกรงได้

แต่การบรรลุเทพผู้สร้างได้ภายในระยะเวลาไม่กี่ร้อยล้านปีเช่นหานเจวี๋ย ในอนาคตก็ยังไม่แน่ว่าจะมีตัวอย่างปรากฏขึ้นอีกเป็นรายที่สอง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ปิดด่านเป็นระยะเวลานานๆ อีก

ในอนาคตมิใช่เพียงจี้เซียนเสิน หานเหลียงและสวินเซิ่งจุนที่จับกลุ่มกันเท่านั้น ผู้สร้างมรรคารายอื่นๆ ก็ทำเช่นนี้ แทบจะไม่มีผู้สร้างมรรคาที่อยู่ตัวคนเดียวเลย

หานเจวี๋ยมองหานเหลียงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ฝึกบำเพ็ญต่อ

สามคนนี้ลงมือไม่สำเร็จ ดังนั้นพวกเขาจึงย้อนทะลุผ่านห้วงเวลาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากในอนาคตปรากฏตัวตนที่สะกดข่มพวกเขาได้ เป็นกลุ่มอิทธิพลผู้สร้างมรรคาอีกกลุ่มหนึ่ง กลุ่มสามเทพมารอนธการ

เนื่องด้วยสาเหตุนี้ทำให้สวินเซิ่งจุนไม่กล้าสอดมือเข้าไปยุ่งกับอดีตของสามเทพมารอนธการ เกรงว่าจะทำให้เทพมารอนธการรู้ตัวเข้า แล้วก่อให้เทพมารอนธการตามไล่ล่าจากอนาคตมาถึงปัจจุบันนี้

เหล่าศิษย์ในอาณาเขตเต๋าไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ การมีอยู่ของหานเหลียงทราบกันไปทั่วสำนักซ่อนเร้นแล้ว ล้วนทราบกันดีว่าเขาคือหลานชายแท้ๆ ของอริยะสวรรค์เกรียงไกร ได้รับความโปรดปรานเอ็นดูลึกซึ้ง อริยะสวรรค์เกียงไกรสั่งสอนเลี้ยงดูด้วยตัวเอง

นามของหานเหลียงเริ่มแพร่ไปในยุคสมัยไร้สิ้นสุด จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายอดใจไม่ไหวมาเข้าฝันขอตัวจากหานเจวี๋ย แต่หานเจวี๋ยปฏิเสธไปอย่างละมุนละม่อม

เรื่องของหานเหลียงสำคัญมาก หานเจวี๋ยกลัวว่าจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายจะเอาไม่อยู่

วันเวลาผ่านไป หานเหลียงแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน แต่ฉู่เสี่ยวชียังคงปากกัดตีนถีบอยู่ในแดนเซียน

หลังแยกกับหานเจวี๋ย พัฒนาการด้านความเข้าใจของฉู่เสี่ยวชีกลายเป็นเชื่องช้าลงอย่างยิ่ง เดิมทีตัวเขาก็เป็นเพียงเผ่ามนุษย์สามัญ คุณสมบัติย่อมไม่แข็งแกร่ง เพียงแต่ตำแหน่งเซียนของเขาภายในเผ่าเทพก็นับว่าไม่เลวเลย แต่พอเทียบกับเฉินเจวี๋ยแล้วกลับห่างชั้นกันออกไปเรื่อยๆ

เฉินเจวี๋ยกลายเป็นตัวตนที่โดดเด่นเจิดจรัสที่สุดในแดนเซียนแห่งนี้ คุณสมบัติเลิศล้ำ ถึงขั้นที่ชื่อเสียงเลื่องลือไปถึงแดนเซียนแห่งอื่นๆ ด้วย

ระหว่างฉู่เสี่ยวชีและเฉินเจวี๋ย เปรียบเสมือนหิ่งห้อยกับดวงตะวันอันเจิดจ้า ไม่มีผู้ใดคิดว่าพวกเขาจะเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด

หลังแยกจากฉู่เสี่ยวชี หานเจวี๋ยก็ไม่ได้สนใจเขามากเกินไป ถึงอย่างไรหากเด็กคนนี้ตายก็กลับชาติมาเกิดได้ ชาตินี้เขาให้ความช่วยเหลือไปมากพอแล้ว เส้นทางชีวิตสายนี้ยังคงต้องก้าวเดินด้วยตัวเอง

แน่นอนว่าสาเหตุอีกส่วนหนึ่งก็มาจากหานเหลียง

เพราะมีหลานชายเพิ่มขึ้นมาอีกคน

….

ดวงดาวหมุนโคจร หมื่นปีผ่านไปไวดั่งหมอกควันล่องลอย

ในวันนี้ หานเจวี๋ยกำลังสอนหานเหลียงอยู่ภายในอารามเต๋า

รูปร่างหานเหลียงสูงชะลูด สภาพเหมือนเด็กหนุ่มวัยสิบกว่า ยากจะจินตนาการได้ว่าเขาอายุนับหมื่นปีแล้ว

หานเหลียงนั่งสมาธิอยู่ตรงหน้าหานเจวี๋ย หน้านิ่วคิ้วขมวด พลังวิเศษที่หานเจวี๋ยเพิ่งสอนให้เขายากจะทำความเข้าใจได้จริงๆ

ยากจะทำความเข้าใจได้ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะสิ่งที่หานเจวี๋ยสอนให้คือปฐมยุคประทับนภา!

หานเหลียงไม่มีพลังปฐมยุค ดังนั้นเขาจะต้องสร้างตราประทับนภาในแบบของตนขึ้นมา จนถึงตอนนี้หานเหลียงก็ยังไม่ได้รับการขนามนามว่าเป็นเผ่าพันธุ์ใดกันแน่

นามเป็นสิ่งที่สำคัญมากโดยเฉพาะกับเผ่าพันธุ์มหาโชคเช่นนี้ ดังนั้นหานเจวี๋ยจึงไม่ได้ตัดสินใจเอาเอง แต่ปล่อยให้หานเหลียงค้นหาให้พบด้วยตัวเอง ให้กำหนดขึ้นด้วยตัวเอง

หานเจวี๋ยเปล่งเสียงชี้แนะช่วยเหลือหานเหลียง หัวคิ้วของหานเหลียงคลายตัวลงอย่างรวดเร็ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ