บทที่ 1181 ปลายทางและรากฐาน
หลังจากหานเจวี๋ยอธิบายต่อเหล่าศิษย์และบุตรธิดาไปก็ไม่ได้สร้างผลกระทบต่อยุคสมัยไร้สิ้นสุดแต่อย่างใด เด็กๆ เหล่านี้ทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ต่างคนต่างเริ่มเข้าสู่สภาวะตระหนักมรรคเช่นในอดีต
พันปีต่อมา มู่หรงฉี่เป็นคนแรกที่เคลื่อนย้ายโลกมหามรรคของตนไปอยู่ข้างโลกปฐมยุค ปล่อยให้โลกปฐมยุคฮุบรวบเข้าไป ส่วนตัวเขาก็เฝ้ารออยู่ภายในโลกมหามรรคด้วย
ทันทีที่โลกมหามรรคของเขาถูกกลืนกิน เขาก็ได้รับดวงชะตาปฐมยุคตามธรรมชาติ มีเพียงจุดเดียวที่ต่างออกไปคือเขาจะต้องสร้างโลกมหามรรคขึ้นใหม่เท่านั้น
หลังจากมู่หรงฉี่เป็นแกนนำ เต้าจื้อจุน เจียงอี้และจ้าวเซวียนหยวนก็ตามมาเช่นกัน เคลื่อนย้ายโลกมหามรรคของตนมาอยู่ข้างโลกปฐมยุค เฝ้ารอคอยให้โลกปฐมยุคดูดซับเข้าไป
การกระทำของพวกเขาก่อให้เกิดความฮือฮาขึ้นในยุคสมัยไร้สิ้นสุด
ทำเช่นนี้บ้าไปแล้วชัดๆ!
ศิษย์ของสำนักซ่อนเร้นจงรักภักดีต่อเทพผู้สร้างถึงเพียงนี้เชียวหรือ
ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็อยากเห็นว่าโลกปฐมยุคจะกลืนกินโลกมหามรรคแห่งอื่นจริงหรือไม่
ผลลัพธ์คือผ่านไปไม่ถึงแสนปี โลกมหามรรคของหมู่หรงฉี่ถูกโลกปฐมยุคที่ขยายตัวออกมาดูดซับเข้าไปก่อน เหตุการณ์นี้ทำให้เหล่าผู้ทรงพลังทั้งหมดที่มีโลกมหามรรคอยู่ในครอบครองล้วนตื่นตระหนกขึ้นมา
เมื่ออยู่ต่อหน้าเทพผู้สร้าง พวกเขาจะทำอันใดได้เล่า
….
ณ อนธการ
สามเทพมารอนธการมารวมตัวกันภายในตำหนัก ฉู่เสี่ยวชีเองก็อยู่ด้วย บรรยากาศเงียบวังเวง
ฉู่เสี่ยวชีมองดูพวกเขา อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
เมื่อทราบว่าโลกปฐมยุคสามารถกลืนกินโลกมหามรรคแห่งอื่นได้ ปฏิกิริยาแรกของเขาก็คือไม่เชื่อถือ ภายหลังพอเห็นว่าโลกของมู่หรงฉี่หายไปจริงๆ ความรู้สึกของเขาก็ซับซ้อนยิ่งขึ้นเช่นกัน
หากปราศจากหานเจวี๋ย ก็ไม่มีตัวเขาในวันนี้ แต่จะให้เขายอมละทิ้งโลกมหามรรคไป บุกเบิกขึ้นใหม่เพื่อมุ่งสู่ผู้สร้างมรรคาเขาก็ทำใจไม่ได้เช่นกัน
ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้ก้าวเดินในเส้นทางมุ่งสู่ผู้สร้างมรรคา หากต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้งก็ไม่รู้ว่าจะตามทันหรือไม่
ได้ยินว่าจำนวนของผู้สร้างมรรคาก็ใช่ว่าจะไร้ขีดจำกัด
ในสถานการณ์ที่รู้ซึ้งถึงเรื่องนี้แล้ว ฉู่เสี่ยวชีก็ยังคงว้าวุ่นลำบากใจนัก
หวงจุนเทียนเปิดปากเอ่ยขึ้นมาก่อน “แล้วไปเถอะ ไม่สู้ติดตามเทพผู้สร้างดีกว่า โดยทั่วไปผู้สร้างมรรคาก็ฝ่าทะลวงได้ยากมากอยู่แล้ว อย่าได้สับสนในตัวเทพผู้สร้างเลย ดูอย่างผู้สร้างมรรคาคนอื่นๆ เถิด เพื่อความแข็งแกร่งที่เลื่อนลอยไร้หลักฐานแล้วถึงขั้นเป็นปฏิปักษ์กับเทพผู้สร้าง ช่างโง่เขลายิ่งนัก”
หานฮวงถอนหายใจ
สื่อหยวนหงเหมิงขมวดคิ้วเอ่ยไปว่า “ก็จริง จนถึงปัจจุบันนี้ข้าก็ยังไม่ค้นพบคุณสมบัติที่แข็งแกร่งไปกว่าเทพมารอนธการเลย เกรงว่าทั่วทั้งดินแดนเวิ้งว้างคงมีเพียงคุณสมบัติของเทพผู้สร้างที่เหนือชั้นไปกว่าเทพมารอนธการได้ สายเลือดของเทพผู้สร้าง พวกเราจะซึมซับมาได้หรือไม่”
หานฮวงถาม “เช่นนั้นจะผสานอนธการเข้ากับโลกปฐมยุคเช่นนั้นหรือ”
หวงจุนเทียนเอ่ยว่า “อันที่จริงพวกเราไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเลย ถึงอย่างไรก็อยู่ห่างจากโลกปฐมยุคมากนัก สมัยก่อนตอนที่ฟ้าบุพกาลดูดซับโลกมหามรรคแห่งอื่น โลกปฐมยุคก็ยังใหญ่ไม่เท่าฟ้าบุพกาลด้วยซ้ำ แต่เทพผู้สร้างก็สามารถต่อต้านเจ้านวฟ้าบุพกาลได้ แปลว่าความสำเร็จของเทพผู้สร้างไม่เกี่ยวข้องกับโลกมหามรรค โลกมหามรรคเป็นเพียงเครื่องช่วยพิสูจน์ผู้สร้างมรรคาเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับระดับที่เหนือกว่าผู้สร้างมรรคา”
สื่อหยวนหงเหมิงพยักหน้ารับ หานฮวงก็คลายหัวคิ้วลง
ฉู่เสี่ยวชีเห็นว่าพวกเขาไม่ได้คิดเป็นปฏิปักษ์ต่อท่านปู่ก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เป็นความเห็นที่ดีนัก พวกเรารีบเคลื่อนย้ายโลกมหามรรคกันเถิด ต้องเร่งความเร็วกันหน่อยแล้ว”
หานฮวงพยักหน้ารับ
มิใช่เพียงอนธการเท่านั้น ผู้ครองโลกมหามรรคแห่งอื่นๆ ก็มีความคิดเพ้อฝันอยู่เช่นกัน
ประเด็นหลักคือตอนนี้โลกปฐมยุคอยู่ห่างจากพวกเขามากนัก
….
ภายในโลกปฐมยุค
เต้าจื้อจุน เจียงอี้ จ้าวเซวียนหยวนและเต้าเทียนกำลังบุกเบิกโลกมหามรรคอยู่ พวกเขาเตรียมจะบุกเบิกโลกมหามรรคขึ้นติดๆ กัน เช่นนี้ภายภาคหน้าจะได้คอยดูแลกันและกัน
เต้าเทียนสำแดงเวทพลางเอ่ยถามไปด้วย “อาจารย์ พวกท่านไม่นึกเสียใจบ้างหรือขอรับ ผลลัพธ์ในครานี้ทำให้พวกท่านต้องหลุดออกจากก้าวแรกแห่งการมุ่งสู่ผู้สร้างมรรคา หากว่าพวกเราเลี่ยงออกห่างจากโลกปฐมยุค บางทีพวกท่านอาจจะสำเร็จผู้สร้างมรรคาก่อนที่โลกปฐมยุคจะกลืนกินโลกมหามรรคของพวกท่านก็ได้นะขอรับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...