ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 1182

บทที่ 1182 ประทานอำนาจ

[จี้เซียนเสินศิษย์ของท่านตระหนักรู้ในห้วงเวลาต้นกำเนิด สร้างร่างแยกแห่งกาลเวลาขึ้น]

[หานหลิงบุตรีของท่านได้รับคำชี้แนะจากตัวตนเหนือชั้น พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[หานเหลียงเชื้อสายของท่านได้รับคำชี้แนะจากตัวตนเหนือชั้น ก่อกฎเกณฑ์สูงสุดสายที่สามขึ้น พลังมรรคเพิ่มมหาศาลฉับพลัน]

[เทพมหาทัณฑ์สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากบรรพชนเทพปฐมกาลศัตรูคู่อาฆาตของท่าน]

[หลี่เต้าคงสหายของท่านหลอมวิญญาณสำเร็จเป็นมรรคแห่งกระบี่ ผสานรวมกับโลกมหามรรค กลายเป็นดวงจิตนิจนิรันดร์]

[หานเย่เชื้อสายของท่านบุกเบิกคุกนรกสังหาร ดวงชะตาตกต่ำ]

[เทวีตราวินัยสหายของท่านก้าวสู่ขอบเขตแห่งนิจนิรันดร์ บ่วงกรรมเกิดความเปลี่ยนแปลง]

[เจ้านวฟ้าบุพกาลสหายของท่านตระหนักรู้ในดินแดนเวิ้งว้าง เกิดความเข้าใจในเศษเสี้ยวหนึ่งแห่งกฎเกณฑ์พื้นฐาน]

….

จดหมายในช่วงเวลาที่ผ่านมายกระดับขึ้นแล้ว ไม่ได้มีเพียงการโจมตีกันไปโจมตีกันมาเช่นในอดีตอีก โดยเฉพาะหลังจากพวกเต้าจื้อจุนทั้งสามเข้าสู่โลกปฐมยุคก็ยากจะได้เห็นจำนวนการถูกโจมตียาวเรียงกันเป็นพรวนอีก

หานเจวี๋ยประหนึ่งจักรพรรดิที่ตรวจฎีกาอยู่ ไล่อ่านลงไปเรื่อยๆ วิจารณ์สหายเหล่านี้อยู่ในใจไปทีละคนๆ

คำวิจารณ์เหล่านี้ซ่อนอยู่ในใจของเขาเท่านั้น

หลังตรวจจดหมายเสร็จ จู่ๆ เขาก็เกิดความคิดอย่างหนึ่งขึ้นมา

หรือจะเกื้อหนุนทวยเทพขึ้นมาสักสองสามคน เหมือนที่เจ้านวฟ้าบุพกาลแต่งตั้งทวยเทพแห่งฟ้าบุพกาลขึ้น

ใช้ได้เลย เพิ่มความบันเทิงสักหน่อยแล้วกัน

หานเจวี๋ยถ่ายทอดเสียงหาหานหลิงและหลี่เต้าคงทันที

ทั้งสองถูกเขาเคลื่อนย้ายมายังอารามเต๋า พวกเขารีบคุกเข่าคารวะเบื้องหน้าหานเจวี๋ยทันที

“คารวะท่านพ่อ”

“คารวะเทพผู้สร้าง”

หานหลิงยังพอว่า แต่หลี่เต้าคงกลับค่อนข้างตื่นเต้น เขาไม่ได้พบหานเจวี๋ยตัวเป็นๆ มาหลายพันล้านปีแล้ว ในใจย่อมเกิดความคาดหวังขึ้นมา

หานเจวี๋ยไม่มีทางเรียกพบเขาอย่างไร้สาเหตุ

หานเจวี๋ยพินิจดูทั้งสองอยู่พักหนึ่ง ยิ้มบางๆ เอ่ยไปว่า “ข้าวางแผนจะมอบอำนาจศักดิ์สิทธิ์ให้แก่พวกเจ้า ให้พวกเจ้ากลายเป็นทวยเทพแห่งยุคสมัยไร้สิ้นสุด หลิงเอ๋อร์ เจ้ารับผิดชอบควบคุมกฎระเบียบ หลี่เต้าคง เจ้ารับหน้าที่ลงทัณฑ์สังหาร ต่อไปนี้จะกลายเป็นทวยเทพไร้สิ้นสุด”

พอสิ้นเสียงของเขา พลันมีแสงเทพสาดส่องออกมาจากร่างคนทั้งสอง พวกเขาตรวจสอบพลังในร่างด้วยความปิติปรีดา

พลังนี้…

ยากจะอธิบายออกมาได้ แต่กลับแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ถึงขั้นที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าสามารถทำได้ทุกสิ่ง

หานหลิงตกตะลึงที่สุด นางอยู่บนเส้นทางที่มุ่งสู่ผู้สร้างมรรคาแล้ว นึกว่าตนอยู่ห่างจากผู้สร้างมรรคาอีกไม่ไกล แต่เพียงท่านพ่อบอกว่าจะมอบอำนาจศักดิ์สิทธิ์ให้ก็ได้รับพลังแกร่งกล้าถึงเพียงนี้แล้ว

ทั้งสองมองหานเจวี๋ยอย่างตื้นตัน หานเจวี๋ยพลันโบกมือส่งพวกเขาออกไป

ส่วนเรื่องอำนาจที่มอบให้พวกเขาไป หานเจวี๋ยไม่ได้ประกาศต่อสรรพสิ่ง ให้พวกเขาไปพิสูจน์ยืนยันกันเอง

เมื่อได้รับพลังจากหานเจวี๋ย แม้แต่ผู้สร้างมรรคาก็ยังไม่อาจทำอันใดพวกเขาได้ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ใช่ผู้สร้างมรรคา ทว่าเป็นตัวตนที่เสมอทัดเทียมกับผู้สร้างมรรคาแล้ว

นี่คือความแข็งแกร่งที่สุดของเทพผู้สร้าง ไม่ใช่เพียงทรงพลังกว่าผู้สร้างมรรคาเท่านั้น ยังแต่งตั้งอำนาจและควบคุมกฎเกณฑ์ได้

เมื่ออยู่ต่อหน้าเทพผู้สร้าง ทุกสิ่งล้วนจะถูกกำหนดควบคุมพลิกผันสถานการณ์ทุกอย่างได้

หานเจวี๋ยพึงพอใจกับความคิดของตนยิ่งนัก ทำให้ยุคสมัยไร้สิ้นสุดมีความหมายขึ้นมาอีกเล็กน้อยแล้ว

ยุคสมัยไร้สิ้นสุดในปัจจุบันนี้เต็มไปด้วยทิฐิ ผู้ใดจะได้สำเร็จเป็นผู้สร้างมรรคา แม้แต่อริยะมหามรรคก็ยังมองออก ส่วนตัวตนที่อยู่ในจุดสูงสุดเหล่านั้นก็ยากที่จะหล่นร่วงดับสูญลง ระดับชนชั้นก่อตัวขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ซ้ำยังเป็นชนชั้นที่แบ่งแยกอย่างสมบูรณ์ด้วย

หากมีคนที่สามารถทำลายรูปการณ์นี้ได้ ก็อาจจะทำให้ยุคสมัยไร้สิ้นสุดมีความกระตือรือร้นมากขึ้น

แน่นอนว่าอาจจะไม่กระตือรือร้นขึ้นมาก็ได้

ล้วนขึ้นอยู่กับความคิดของหานเจวี๋ย

ความหมายของผู้ไร้พ่ายขึ้นอยู่กับตัวเอง สิ่งใดที่เขากระทำลงไปถึงจะกลายเป็นตัวแปรของทุกสิ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ