ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 127

บทที่ 127 อีกาทองสามัญ อีกาทองเทพ

สีหน้าของหานเจวี๋ยหนักอึ้ง

มีดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้นสองดวง หรือนี่จะเป็นอีกาทองสามขาในตำนาน

อีกาทองสามขาสองตัวมาพร้อมกันในคราเดียว ใครจะทนได้

หานเจวี๋ยใช้แบบจำลองการทดสอบเพื่อตรวจสอบ แต่ว่ากลับตรวจสอบไม่พบอีกาทองสามขา ระยะห่างในทางตรงนี้คาดว่ามากกว่าร้อยลี้

หยางเทียนตงนิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันหน้าไปทางไก่คุกรัตติกาล เอ่ยปากด่าทออย่างรุนแรง “เจ้าไก่อัปลักษณ์! อย่างไรเล่าทีนี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าพระอาทิตย์คือสัตว์เทพชนิดใด”

ไก่คุกรัตติกาลกังวลจนแทบทนไม่ไหว เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “สัตว์เทพชนิดใด”

“ก็อีกาทองคำที่กินมังกรและหงส์เป็นอาหารอย่างไรเล่า!”

“หา?”

ไก่คุกรัตติกาลสั่นเทาไปเสียทั้งร่าง ขนไก่ร่วงหล่นลงบนพื้น

ครั้งนี้มันเพิ่งจะตระหนักได้จริงๆ ว่ากำลังจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเสียแล้ว

นี่จะทำอย่างไรดี

มันไม่กล้าแม้แต่จะหันมองไปทางหานเจวี๋ย

หานเจวี๋ยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เพียงจ้องมองไปยังท้องฟ้านิ่ง

ไม่นาน เขาก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ

อุณหภูมิระหว่างฟ้าดินไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น หรือว่าอีกาทองคำสองตัวนี้จะถูกกีดกันไว้นอกโลกมนุษย์

เป็นไปได้มากทีเดียว!

จูเชวี่ยไม่สามารถลงมาที่โลกมนุษย์ได้ นั่นหมายความว่าหากเทพเซียนปรารถนาจะลงมายังโลกมนุษย์นั้นเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง อีกาทองคำก็เช่นเดียวกัน

บางทีอาจจะเพราะเหตุผลนี้ อีกาทองคำถึงเฝ้าอยู่ที่ประตูแห่งโลกมนุษย์

แต่หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วจะนำมาซึ่งหายนะครั้งใหญ่

หานเจวี๋ยโยนไก่คุกรัตติกาลไปยังต้นฝูซัง เอ่ยขึ้นเสียงเย็นว่า “หากเจ้ากล้าลงมาแม้แต่ก้าวเดียว ข้าจะตัดปีกไก่ของเจ้าออกเป็นอันดับแรก!”

ไก่คุกรัตติกาลพยักหน้าลงอย่างรวดเร็ว ครั้งนี้ มันก็หวาดกลัวเข้าแล้วจริงๆ

หานเจวี๋ยมองอยู่ครู่หนึ่ง และหันกลับเข้าไปภายในถ้ำเทวาฟ้าประทานอีกครั้ง

ในเมื่อยามนี้อีกาทองคำยังไม่สามารถลงมาได้ เช่นนั้นเขาก็ไม่ต้องกังวล

ในเวลาเดียวกันนั้น

ผู้คนทั่วทั้งใต้หล้าที่พบว่ามีดวงอาทิตย์สามดวงปรากฏขึ้นบนท้องฟ้ายิ่งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

เรื่องนี้ทำให้ทั้งสายหลักและสายมารล้วนวิตกกังวล

เหตุการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้ จะต้องเกิดมหันตภัยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเป็นแน่

ชั่วขณะหนึ่ง การต่อสู้ระหว่างสายหลักและสายมารไม่ได้ดุเดือดรุนแรงถึงเพียงนั้น กระทั่งไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สรรพสิ่งทั้งหลายต่างพบว่าการที่มีดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้นสองดวงราวกับไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ จึงกลับมาคึกคักกันอีกครั้ง

…..

สามปีต่อมา

นักพรตเต๋าจิ่วติ่งมาพบหานเจวี๋ย

สีหน้าเขาเป็นกังวล กล่าวว่า “ผู้อาวุโสหาน ท่าจะไม่ดีแล้ว จวนเซียนสวรรค์รวมถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ เรียกร้องให้สายหลักทั่วทั้งใต้หล้ามารวมตัวกัน ร่วมกันมุ่งหน้าไปทำลายล้างราชวงศ์ฝ่ายมาร สำนักสายหลักรอบๆ ต้าเยี่ยนต่างพร้อมออกเดินทาง หากสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ของพวกเราไม่เข้าร่วม จะถูกคิดว่าเป็นสายมารหรือไม่”

หานเจวี๋ยเลิกคิ้วขึ้น

เวลาที่จะเผชิญหน้าเร็วเพียงนี้เชียว

หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “เช่นนั้นก็ไปกันเถิด ให้ท่านเจ้าสำนักเป็นผู้นำด้วยตนเองแล้วกัน ถึงอย่างไรสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ก็ยังไม่แข็งแกร่งพอ มีข้าคุ้มกันสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ ท่านเจ้าสำนักวางใจได้”

นักพรตเต๋าจิ่วติ่งพยักหน้า รีบจากไปทันที

เขาก็พูดเพียงประโยคเดียว มาอย่างรีบร้อน และจากไปอย่างรีบร้อนเช่นกัน

หลังจากที่เขาจากไปแล้ว อู้เต้าเจี้ยนอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “นายท่าน เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าท่านเป็นเจ้าสำนักมากกว่า”

หานเจวี๋ยถลึงตาใส่นาง เอ่ยว่า “วาจาเช่นนี้คราวหลังห้ามกล่าวออกมาอีก!”

อู้เต้าเจี้ยนเบ้ปาก และไม่เอ่ยคำใดอีก

หานเจวี๋ยฝึกฝนต่อ

เขาอธิษฐานในใจ หวังว่าจะไม่เกิดเหตุร้ายอันใดกับพวกนักพรตเต๋าจิ่วติ่ง

มีจวนเซียนสวรรค์เป็นผู้นำ ราชวงศ์ฝ่ายมารดูท่าจะแย่แล้ว!

ไม่กี่วันหลังจากนั้น นักพรตเต๋าจิ่วติ่งได้ประกาศรับสมัครศิษย์ที่เต็มใจจะไปจัดการกับราชวงศ์ฝ่ายมาร ล้วนแต่อาศัยความสมัครใจ เพราะการไปครั้งนี้อันตรายยิ่งนัก หวังว่าเหล่าศิษย์จะใคร่ครวญพิจารณาให้ดี

ที่ทำให้หานเจวี๋ยประหลาดใจก็คือ เซียนซีเสวียนและสิงหงเสวียนก็จะไปด้วย

ไม่ต้องเอ่ยถึงเซียนซีเสวียน เพราะนางนับเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสแกนหลักของสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ อีกทั้งยังครอบครองยอดเขาหยกวิเวกซึ่งเป็นหนึ่งในยอดเขาทั้งสิบแปดยอด เรื่องใหญ่เช่นนี้นางจำเป็นต้องเป็นผู้นำ

สิงหงเสวียนมาเยี่ยมเยียนหานเจวี๋ยก่อนที่ออกเดินทาง เหตุผลที่นางจะไปนั้น เพราะว่านางเกลียดชังฝ่ายมาร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ