บทที่ 128 ซูฉีธาตุไฟเข้าแทรก ระดับฝ่าด่านเคราะห์ขั้นเก้า
“จี้เซียนเสินแข็งแกร่งมากเกินไป พวกเราต้องหาโอกาสที่จะสังหารเขา ไม่อย่างนั้นอำนาจของสายหลักจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ!”
ปรมาจารย์มารโลหิตกล่าวเสียงขรึม สายตาของเขากวาดมองไปยังเซวียนฉิงจวิน มารชีผมขาวและอรหันต์มารละโมบ ลังเลด้วยไม่รู้ว่าควรจะให้ใครเป็นผู้ลงมือ
มารชีผมขาวป้องปากหัวเราะ เอ่ยว่า “เช่นนั้นเหตุใดปรมาจารย์ท่านยังไม่ลงมือ ในหมู่พวกเราท่านก็เป็นผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุด”
เซวียนฉิงจวินและอรหันต์มารละโมบต่างพยักหน้าเห็นพ้อง
ปรมาจารย์มารโลหิตก่นด่าในใจ
‘จะสังหารจี้เซียนเสินก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดายเพียงนั้น แม้จะสำเร็จ แต่ปัญหาตามมาไม่รู้จบ’
นั่นก็คือสมบัติของจวนเซียนสวรรค์เชียวนะ!
เซวียนฉิงจวินพลันเอ่ยถามขึ้นว่า “เหนือโลกมนุษย์ปรากฏอีกาทองคำอยู่สองตัว นี่จะเป็นลางบอกเหตุอะไรหรือไม่”
มารทั้งสามขมวดคิ้วไปตามๆ กัน
พวกเขาเองก็กำลังสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เช่นกัน
สุดท้ายไม่ว่าอย่างไรมารก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของมรรคาสวรรค์ พวกเขาก็กังวลว่ามรรคาสวรรค์จะลงโทษพวกเขาหรือไม่
“ท่านจอมมาร ไม่เช่นนั้นท่านลองไปที่ยมโลกอีกสักครั้ง สอบถามเผ่ามารเกี่ยวกับเรื่องนี้” ปรมาจารย์มารโลหิตเอ่ยขึ้นอย่างลังเล
เซวียนฉิงจวินกล่าวอย่างเรียบนิ่งว่า “ไม่มีปัญหา แต่ข้าอาจใช้เวลาสิบกว่าปี พวกท่านแน่ใจหรือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้”
มารชีผมขาวยิ้มและเอ่ยว่า “แน่นอนว่าคุมได้ พวกเราเองก็อยากจะไปที่ยมโลก แต่ทำอย่างไรเล่าพวกเราไม่มีความสามารถเช่นจอมมารอย่างท่าน”
เซวียนฉิงจวินยิ้มออกมาเล็กน้อย ไม่ได้เอ่ยวาจาโต้ตอบ
บรรยากาศระหว่างมารอาวุโสทั้งสี่ซับซ้อนขึ้น แต่ละคนล้วนแฝงด้านมืดเอาไว้ในใจ
…..
บนหน้าผาสูงชันแห่งหนึ่ง ซูฉีถูกผู้บำเพ็ญสายมารจำนวนนับไม่ถ้วนโอบล้อม
เขาถือกระบี่ไว้ในมือ ทั่วทั้งร่างต็มไปด้วยโลหิต หายใจหอบกระชั้น ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยเส้นโลหิต
จี้ไน่เหอยืนอยู่บนร่างของสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น กดสายตามองลงมาที่ซูฉี ก่อนเอ่ยถามว่า “เหตุใดเจ้าต้องทรยศข้า เป็นความคิดของประมุขมารหรือ”
สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นมองซูฉีด้วยแววตาซับซ้อน ภายในใจดิ้นรนเป็นอย่างมาก
มันไม่รู้ว่ามันควรจะช่วยซูฉีดีหรือไม่
ทว่าถึงแม้มันจะลงมือ แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงตอนจบได้ มันไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของจักรพรรดิมาร!
“ไม่เกี่ยวกับประมุขมาร ข้าเป็นผู้บำเพ็ญสายหลัก ไม่อาจเข้าร่วมสายมาร!”
ซูฉีพูดเอ่ยเสียงขรึม เขาเหยียดกายตั้งตรง ท่าทางไม่กลัวเกรง
อาจารย์จะต้องลงมือช่วยข้าแน่!
ซูฉีเชื่อมั่นในสิ่งนี้
จี้ไน่เหอหรี่ตาลง แววตาเผยให้เห็นเจตนาสังหาร เขาออกคำสั่งด้วยเสียงหนักแน่นว่า “สุนัขสวรรค์ เจ้าไปกินเขาซะ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก
จี้ไน่เหอบินทะยานออกไป ไม่ได้ควบคุมมันอีก
สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นมองไปทางซูฉี ซูฉีทอดมองมันอย่างสงบนิ่ง
ซูฉีส่ายหน้าเล็กน้อย
พวกเขารู้จักกันมาเป็นเวลานาน กระทั่งยังเคยอยู่ด้วยกันนับสิบปี แต่ซูฉีทนไม่ได้ที่จะต้องขายชีวิตให้แก่จี้ไน่เหอ เพราะอย่างนั้นเขาจึงหักหลังจี้ไน่เหอ
ยามนี้เพื่อนร่วมสำนักกลายเป็นศัตรู ทำให้ผู้คนรู้สึกทอดถอนใจ
ซูฉียังคงอยากช่วยสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น
เขาใช้ส่งสายตาเพื่อบอกว่าไม่ให้สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นลงมือกับเขา
ไม่อย่างนั้น อาจารย์ไม่มีทางปล่อยมันไปแน่!
ซูฉีไม่กล้าใช้พลังจิตถ่ายทอดเสียง ด้วยเกรงว่าจะเปิดเผยการดำรงอยู่ของอาจารย์
สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นถลำเข้าสู่สงครามระหว่างสวรรค์และมนุษย์
มันนึกถึงไก่คุกรัตติกาลและหานเจวี๋ยขึ้นมา
นึกถึงเขาเพียรบำเพ็ญเซียนที่อบอุ่น
ทุกอย่างที่มันเคยมี เป็นมันที่ละทิ้งไปเอง
เวลานี้ มันกลายเป็นเชลย แล้วจะฆ่าเพื่อนร่วมสำนักของตนเองอีกได้อย่างไร
ยิ่งสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นยิ่งคิดเท่าไร มันก็ยิ่งโศกเศร้ามากขึ้นเท่านั้น ไฟโทสะภายในใจปะทุขึ้นมา
“นี่เจ้ายังรออะไรอีก!”
จี้ไน่เหอตะโกนขึ้นอย่างเหลืออด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นเงยหน้าร้องคำราม หมุนกายโผเข้าหาจี้ไน่เหออย่างรวดเร็ว ตะโกนด่าทออย่างดุเดือดว่า “ข้าจะขอสู้กับเจ้าให้มันรู้กัน!”
ตู้ม!
จี้ไน่เหอตบมันจนลอยกระเด็นในฝ่ามือเดียว เลือดสาดกระเซ็นทั่วท้องฟ้า
“บังอาจ!”
ซูฉีโกรธจัดจนขาดสติ ในหัวสมองมืดมัว ดวงตาทั้งสองของเขากลายเป็นสีดำทมิฬ รอบกายปรากฏไอสีดำแปลกประหลาด
จี้ไน่เหอมองมาทางเขาด้วยความประหลาดใจ ภายในใจรู้สึกหวาดกลัว “พลังนี้คือ…”
เวลานั้นเอง
เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งพลันดังขึ้น
“จักรพรรดิมาร ในที่สุดข้าก็ตามหาเจ้าจนพบ ตายเสียเถิด!”
เหล่าผู้บำเพ็ญต่างหันหน้ามอง เห็นเพียงเมฆฝนฟ้าคะนองที่พัดผ่านท้องฟ้า สายอัสนีฟาดผ่าลงมาไม่ขาดสาย เสียงอื้ออึงดังทั่วบริเวณ ท่ามกลางเสียงฟ้าร้องบนท้องนภา บุรุษอาภรณ์สีครามผู้หนึ่งเดินข้ามบันไดอัสนีเข้ามา เขาดูราวกับเซียนแท้บนสวรรค์เก้าชั้นฟ้า มาพร้อมกับสายอัสนีทรงพลังนับพันที่ประดังประเดเข้ามา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...