ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 146

บทที่ 146 ชำระล้างฝ่ายมาร สามมารอาวุโสไม่มีทางเลี่ยง

‘ทำลายโลกมนุษย์?’

หานเจวี๋ยตกใจมาก ‘โหดเหี้ยมเพียงนี้เชียว?’

เขารีบถามทันที “วังสวรรค์ทำเช่นนี้ ยังนับว่าเป็นวังสวรรค์อยู่หรือ”

ไม่ทันไรก็ทำลายล้างโลกมนุษย์ ช่างเหี้ยมโหดไร้มนุษยธรรม!

“นี่นับเป็นอะไรได้ โลกมนุษย์นับหมื่นนับพัน ทำลายโลกมนุษย์หนึ่งแห่ง ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบบนสวรรค์เลยแม้แต่น้อย อีกอย่างเพียงโลกมนุษย์ถูกทำลาย สรรพชีวิตยังสามารถเข้าสู่วัฏจักรหกวิถีกลับชาติมาเกิดใหม่ได้ อีกอย่าง เผ่าพันธุ์ที่มนุษย์ทำลายล้างยังน้อยอยู่หรือ เมื่อมนุษย์ใคร่ครวญถึงวังสวรรค์ ก็ไม่ควรเอาตัวเองป็นที่ตั้ง”

จั้งกูซิงปัดมือกล่าว รู้สึกว่าความคิดของหานเจวี๋ยช่างน่าขันยิ่งนัก

เมื่อหานเจวี๋ยได้ฟังก็รู้สึกว่ามีเหตุผลอยู่บ้าง

พูดให้ชัดเจนแล้ว

ผู้อ่อนแอยังคงเป็นเนื้อสมัน ผู้แข็งแกร่งเป็นเสือสมิง

ใครเป็นผู้กำหนดกฎ คนนั้นเป็นผู้ยิ่งใหญ่!

หานเจวี๋ยถาม “อีกนานเพียงใดวังสวรรค์ถึงมาชำระล้างเผ่ามาร”

จั้งกูซิงตอบด้วยรอยยิ้ม “อย่างเร็วที่สุดก็หลายร้อยปี อย่างช้าที่สุดก็นับพันปี ไม่อาจนานกว่านั้นได้ กลุ่มอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังเทพปีศาจใกล้จะเจรจากับวังสวรรค์ได้แล้ว แต่น่าเสียดายที่เทพปีศาจตนนั้นยังถูกผนึกอยู่ในกลอง”

หานเจวี๋ยถามด้วยสีหน้าแปลกประหลาด “เทพปีศาจตนนั้นใช่ซุนหงอคงผู้ยิ่งใหญ่เทียมฟ้าหรือไม่”

“ไม่ใช่”

“อ้อ”

หานเจวี๋ยนึกว่าตนเองมาถึงโลกของไซอิ๋วแล้วเสียอีก

ทั้งสองทักทายแลกเปลี่ยนกันอีกสองสามประโยค จากนั้นหานเจวี๋ยก็เดินไปข้างหน้าต่อ

……

เมื่อรับรู้ถึงร่างจริงของตนเอง หานเจวี๋ยรู้สึกว่าตัวเองเข้าใจจิตกระบี่หวนคืนมากยิ่งขึ้น

จิตกระบี่หวนคืนก็ยกระดับถึงขั้นไท่อี่ได้สำเร็จ พลังแท้จริงของเขาสามารถพูดได้แค่ว่าครอบคลุมทุกด้านมากยิ่งขึ้น ในเรื่องระดับความแข็งแกร่งของการโจมตียังไม่ได้ถูกยกระดับ

ยังคงต้องเพิ่มพูนตบะ!

หลังจากทำจิตกระบี่ให้มีความเสถียรแล้ว หานเจวี๋ยก็นำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาสาปแช่งจูเชวี่ยและนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน

ไม่ว่าเขาจะประสบความสำเร็จเช่นไร ก็ยังคงไม่ลืมเจตนาเดิม รวมถึงบรรดาศัตรู

สิบสองวันหลังจากนั้น หานเจวี๋ยฝึกฝนต่อ

แรงกดดันที่วังสวรรค์นำมาให้นับว่ามหาศาลยิ่งนัก หานเจวี๋ยไม่ได้รู้สึกถึงแรงกดดันเช่นนี้มานานมากแล้ว

ระหว่างนั้น เขาเรียกฟางเหลียงให้เข้ามาในถ้ำเทวา

“วังสวรรค์เบื้องบนเตรียมล่าสังหารเผ่ามาร โลกมนุษย์ของพวกเราถูกเผ่ามารเข้ารุกราน เป็นไปได้อย่างมากที่จะถูกวังสวรรค์มองเป็นกองกำลังสำรองของเผ่ามาร เพราะอย่างนั้นจึงต้องถูกชำระล้างไปด้วย สรรพชีวิตบนโลกทั้งหมดจะถูกสังหารตายเป็นเบือ เข้าสู่วัฏสงสาร กลับชาติเกิดใหม่ หากอยากจะเลี่ยงเคราะห์ในครั้งนี้ เจ้าจำต้องไปแจ้งให้จวนเซียนสวรรค์ทราบ ให้พวกเขาเรียกร้องให้แดนบำเพ็ญพรตขุดรากถอนโคนอิทธิพลของเผ่ามาร เพื่อให้หลุดพ้นการเป็นที่ต้องสงสัย

เรื่องนี้ห้ามบอกว่าข้าเป็นผู้กล่าว เจ้าเพียงบอกว่าถูกเทพเซียนพสุธาท่านหนึ่งชี้แนะมา”

หานเจวี๋ยกล่าวด้วยท่าทีเคร่งเครียด ฟางเหลียงได้ฟังก็เบิกตากว้าง อู้เต้าเจี้ยนที่กำลังฝึกฝนอยู่ก็ลืมตาขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

ใบหน้าของฟางเหลียงเปลี่ยนสีไปอย่างมาก เอ่ยถามขึ้นว่า “อาจารย์ปู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือ วังสวรรค์จะลงมือเมื่อใด”

“อย่างมากก็พันปี จำไว้ว่านั่นคืออย่างมาก ช่วงนี้บุตรแห่งสวรรค์จำนวนมากต่างก็ได้รับโอกาสวาสนา ถือว่าเป็นแสงสายัณห์ยามตะวันรอน[1]ของมรรคาสวรรค์ในโลกมนุษย์ ต้องการพึ่งพาพลังของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเพื่อปกป้องตัวเอง”

“ศิษย์จะรีบส่งข่าวให้จวนเซียนสวรรค์ จะไม่เปิดเผยว่าวาจานี้เป็นของอาจารย์ปู่เด็ดขาด!”

ฟางเหลียงจากไปอย่างรีบร้อน

อู้เต้าเจี้ยนเอ่ยถามด้วยความสงสัย “นายท่าน ท่านทราบเรื่องของสวรรค์เบื้องบนได้อย่างไร”

หานเจวี๋ยกล่าวว่า “ข้ามีความสัมพันธ์กับสวรรค์เบื้องบน”

“ความสัมพันธ์อันใดหรือ”

“ไม่อาจบอกได้”

หานเจวี๋ยหลับตาลง ไม่กล่าววาจาอีก

ในใจของอู้เต้าเจี้ยน ภาพลักษณ์ของเขาถูกยกขึ้นสูงอีกครั้ง

……

สองปีต่อมา

ฟางเหลียงได้รับสารตอบกลับว่า จวนเซียนสวรรค์ได้รับข้อเสนอของเขาแล้ว และเริ่มแจ้งสำนักต่างๆ ในใต้หล้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ