บทที่ 152 เซียนอิสระวัฏจักร จิตดั้งเดิมออกจากร่าง!
ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน
หลังจากหานเจวี๋ยบูรณาการตำราฝึกบำเพ็ญโลกมนุษย์ของวิชาวัฏจักรหกวิถีแล้ว ในที่สุดก็หยั่งถึงวิชายุทธ์ฝึกบำเพ็ญในระดับที่สูงยิ่งขึ้น
วัฏจักรหกระดับ!
เซียนอิสระ เซียนพิภพ เซียนสวรรค์ เซียนแท้ เซียนลึกล้ำ เซียนทอง!
ความรู้สึกถาโถมในใจของหานเจวี๋ย เริ่มโจมตีในระดับเซียนอิสระ!
นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนก็เป็นเซียนอิสระ!
รอให้เขาถึงระดับเซียนอิสระแล้วจะไม่ปลิดชีพนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนในพริบตาได้อย่างไร
อีกทั้งยังมีจูเชวี่ย!
ก็เพิ่งถึงขั้นเซียนพิภพ!
จู่ๆ หานเจวี๋ยก็รู้สึกว่าศัตรูทั้งสองนี้กลับไม่ได้แข็งแกร่งเท่าใดนัก อย่างน้อยสิ่งที่เหนือกว่าความคาดหมายของพวกเขาก็ได้พบเห็นมาแล้ว
หานเจวี๋ยไม่ได้คิดให้มากความอีก เพ่งสมาธิกับการทะลวงระดับ
ด้วยคุณสมบัติของเขา การทะลวงระดับย่อมไม่เสียเวลานานเกินไปแน่
…
ภายในถ้ำเทวาอันมืดสลัว
ปรมาจารย์มารโลหิต มารชีผมขาวและอรหันต์มารละโมบล้วนมารวมตัวกันอีกครั้ง
อรหันต์มารละโมบกำมือทั้งสองข้างแน่น สบถด่าออกมาเสียงขรึมว่า “เมื่อไรนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนถึงจะยอมลงมา มารแท้ของเผ่ามารบุกโจมตีจวนเซียนสวรรค์สิบปียังไม่อาจโค่นล้มลงได้ ได้ยินมาว่าจี้เซียนเสินเรียนวิชาศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในจวนเซียนสวรรค์แล้ว วิชาศักดิ์สิทธิ์นี้ก็ไม่มีใครเรียนได้มาหมื่นปี”
“เขาไร้ซึ่งศัตรูในใต้หล้า สิ่งที่รอคอยพวกเราอยู่คือหนทางสู่ความตาย!”
สีหน้าของปรมาจารย์มารโลหิตมืดทะมึน
มารชีผมขาวกัดฟันกล่าวว่า “ข้าไม่สนแล้ว ข้าอยากขึ้นสวรรค์!”
อรหันต์มารละโมบก็พยักหน้าว่าตาม เขาเองก็ไม่อยากรอแล้วเช่นกัน
“แต่หากขึ้นสวรรค์ตอนนี้ จะถูกสายหลักโจมตีหรือไม่” ปรมาจารย์มารโลหิตกล่าวอย่างลังเล
อรหันต์มารละโมบด่าทอว่า “ปรมาจารย์มารโลหิต เจ้าเลอะเลือนไปแล้วหรือ มารแท้โจมตีจวนเซียนสวรรค์ พวกเขาจะมีเวลาสนใจพวกเราได้อย่างไร หากเจ้าไม่ขึ้นสวรรค์ก็ช่าง ระวังจะนึกเสียใจภายหลัง!”
กล่าวจบ เขาและมารชีผมขาวก็หยัดตัวลุกขึ้นเดินออกไป
สีหน้าของปรมาจารย์มารโลหิตเปลี่ยนเป็นวูบไหวมืดทะมึน
กระทั่งหลังจากกลิ่นอายของอรหันต์มารละโมบและมารชีผมขาวไกลออกไปแล้ว ยามนี้ปรมาจารย์มารโลหิตจึงนำก้อนผลึกใสชิ้นหนึ่งออกมา เอ่ยถามเสียงเบาว่า “ผู้อาวุโส ท่านยังมีเวลาอีกนานเพียงใด”
เขาไม่ได้รับการตอบกลับ ทำเพียงเฝ้ารอต่อไป
เนิ่นนาน
น้ำเสียงอ่อนแรงสายหนึ่งดังลอยออกมาจากก้อนผลึกใสนั้น “ไม่ต้องรีบ…แค่กๆ…ใกล้แล้ว”
ใจของปรมาจารย์มารโลหิตเต้นระรัวเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “ท่านได้รับบาดเจ็บหรือ”
“หาไม่ การฝึกบำเพ็ญเกิดปัญหาเล็กน้อย ข้ากำลังรอผู้อาวุโสจากวังสวรรค์ท่านหนึ่ง เจ้าวางใจเถิด ขอเพียงเจ้าเชื่อข้า หลังจากขึ้นสวรรค์แล้วมีข้าดูแลเจ้า ไม่มีทางปล่อยให้เจ้าระหกระเหินเร่ร่อนแน่”
ปรมาจารย์มารโลหิตข่มกลั้นความดีใจเอาไว้ กล่าวว่า “เผ่ามารส่งมารแท้มาโจมตี แต่กลับสู้จวนเซียนสวรรค์ไม่ได้ ข้าเพียงแต่เกรงว่า…”
“จวนเซียนสวรรค์พวกเศษสวะ เจ้าจงชี้นำเผ่ามารให้ส่งมารแท้มุ่งหน้าเข้ามาเรื่อยๆ จำไว้ว่าเจ้าไม่ต้องเข้าไปมีส่วนร่วม เจ้าเพียงต้องพูดเกลี้ยกล่อมเท่านั้น หากตัวเจ้าเองตกอยู่ในอันตราย ถึงตอนนั้นข้าก็ไม่อาจคุ้มครองเจ้าได้”
“ผู้เยาว์เข้าใจ ผู้เยาว์เข้าใจแล้ว…”
“อืม”
“เช่นนั้นผู้อาวุโสสามารถเผยตัวสักระยะได้หรือไม่ ข้าเกรงว่าข้าจะเอาไม่อยู่…”
“อย่างมากที่สุดร้อยปี พอได้กระมัง”
“ร้อยปี…”
“ข้าจะพยายามให้เร็วกว่านี้ แค่ก!”
“ขอบคุณผู้อาวุโสยิ่งนัก…”
…
สองปีต่อมา
ถ้ำเทวาฟ้าประทานสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ส่งผลให้ทั่วทั้งเขาเพียรบำเพ็ญเซียนพลอยสั่นสะเทือนตามไปด้วย
ใต้ต้นฝูซัง พวกฟางเหลียงและสวินฉางอันต่างพากันเหลียวหน้าหันไปมองตามๆ กัน
หลี่ชิงจื่อ เซียนซีเสวียน สิงหงเสวียนและฉางเยวี่ยเอ๋อร์ที่กำลังฝึกบำเพ็ญอยู่ก็ตกใจจนพากันเดินออกมาจากถ้ำเทวาด้วยเช่นเดียวกัน
พวกเขาเดินตามกันมาจนถึงบนยอดเขา รวมตัวเข้ากับกลุ่มคนที่เหลือ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“เป็นถ้ำเทวาของอาจารย์!”
“อาจารย์กำลังทะลวงระดับหรือ”
“ก่อนหน้านี้ล้วนไม่เป็นเช่นนี้ นี่เป็นครั้งแรกเลยกระมัง”
“ยามนี้อาจารย์ปู่อยู่ขอบเขตใด หากทะลวงระดับเช่นนั้นต้องฝ่าด่านเคราะห์สิ! เหตุใดถึงเอาแต่อยู่ภายในถ้ำเทวามาโดยตลอด”
กลุ่มคนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์
หลี่ชิงจื่อเอ่ยปากกล่าวว่า “ผู้อาวุโสหานก็ต้องฝ่าด่านเคราะห์ ก่อนหน้านี้ข้ายังเคยพาเขาไปฝ่าด่านเคราะห์เลย ครั้งนี้ดูท่าคงหยั่งถึงพลังวิเศษบางอย่างกระมัง”
สิงหงเสวียนกล่าวหัวเราะอย่างได้ใจว่า “สามีข้าก็เก่งกาจเช่นนี้แหละ!”
สามี?
ถูหลิงเอ๋อร์อดมองไปทางนางไม่ได้ ท่านผู้นี้ก็คืออาจารย์หญิงหรือ
อู้เต้าเจี้ยนและฉางเยวี่ยเอ๋อร์เหลือบมองไปทางสิงหงเสวียน สายตามีเลศนัยล้ำลึก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...