สรุปตอน บทที่ 16 หันหน้าเข้ากำแพงสำนึกผิดร้อยปี และถ้ำเทวาฟ้าประทาน – จากเรื่อง ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet
ตอน บทที่ 16 หันหน้าเข้ากำแพงสำนึกผิดร้อยปี และถ้ำเทวาฟ้าประทาน ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
“ศิษย์น้อง เจ้าคิดจะทำอะไร”
หานเจวี๋ยตอบกลับ “ไม่ใช่ว่าบนตัวสัตว์ปีศาจมีวัตถุล้ำค่าอยู่มากมายหรือ ข้าต้องเก็บรวบรวมสักหน่อย”
การลงมือเมื่อสักครู่ ทำให้เขาพลันรู้สึกตัวว่าตัวเองลงมือรุนแรงไปหน่อย
สัตว์ปีศาจไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่เขาคิดไว้!
เมื่อความคิดนี้ปรากฏ หานเจวี๋ยสบายใจขึ้นมาทันที มีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม
“ใช่ ใช่แล้ว ศิษย์น้อง ให้ข้าช่วยเจ้าเถอะ ข้าเคยเรียนวิธีผ่าสัตว์ปีศาจมาก่อน ถือเสียว่าเป็นการตอบแทน” ฉางเยวี่ยเอ๋อร์เสนออย่างกระตือรือร้น
หานเจวี๋ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้ารับ
สองคนช่วยกันจะได้ไวขึ้นหน่อย
ผ่านไปราวห้านาที ทั้งสองก็จัดการซากศพของสัตว์ปีศาจทั้งเจ็ดจนหมดสิ้น และรีบจากไปโดยเร็ว
ตลอดทาง ฉางเยวี่ยเอ๋อร์รู้สึกตื่นเต้นมาก
แต่พอพูดถึงเมิ่งเหอ นางก็กัดฟันกรอด
“ศิษย์พี่เจ็ดทำเกินไปแล้ว! ไม่ใช่สิ! เขาไม่คู่ควรเป็นศิษย์พี่เจ็ดของพวกเราด้วยซ้ำ! รอข้ากลับไปก่อนเถอะ จะรายงานท่านอาจารย์แน่นอน!
หวังว่าเขาจะตายในปากสัตว์ปีศาจ!
ศิษย์น้อง ต่อไปพวกเราจะไปที่ใดกัน!”
หานเจวี๋ยเองก็ลังเลมาก
เช่นนี้อันตรายเกินไปจริงๆ!
ช่างเถอะ!
“กลับไปกันเถอะ อย่างมากก็แค่คุกเข่าสำนึกผิดกับอาจารย์” หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างจริงจัง
แม้ว่าสัตว์ปีศาจโดยทั่วไปจะทำอันตรายเขาไม่ได้ แต่หากราชาปีศาจกับลัทธิมารฟ้ามืดปรากฏตัวเล่า?
ฉางเยวี่ยเอ๋อร์ถามด้วยความลังเล “เช่นนี้จะดีจริงๆ หรือ”
“ถ้าท่านคิดว่าไม่ดีก็อยู่ต่อเถอะ!”
“ไม่! ข้าจะกลับไปกับเจ้า”
ทั้งสองรีบเดินไปยังค่ายกลส่งตัว
ไม่นานนัก พวกเขาก็หาค่ายกลส่งตัวที่พาออกไปจากที่นี่เจอ
ด้านหน้าค่ายกลส่งตัวมีผู้บำเพ็ญรวมตัวกันอยู่สิบกว่าคน
เมิ่งเหอก็อยู่ในนั้นด้วย
ครั้นเห็นหานเจวี๋ยกับฉางเยวี่ยเอ๋อร์ เมิ่งเหออึ้งงัน และรีบเผยรอยยิ้มตกใจออกมา “ศิษย์น้อง! ศิษย์น้องหญิง! ไม่นึกว่าพวกเจ้าจะยังมีชีวิตอยู่ ดียิ่งนัก!”
ฉางเยวี่ยเอ๋อร์โกรธจนกัดฟันกรอด อยากจะด่าเมิ่งเหอเต็มทน
หานเจวี๋ยยกมือขึ้น สื่อให้นางไม่ต้องพูดอะไรมาก
ทันใดนั้นเขาก็มองเห็นโม่ฟู่โฉว
“สหายหาน เหตุใดท่านถึงมาอยู่ที่นี่” โม่ฟู่โฉวยิ้มถาม
เขาสังเกตเห็นสีหน้าของฉางเยวี่ยเอ๋อร์ จึงปรายตามองเมิ่งเหออย่างอดไม่ได้
เมิ่งเหอรับรู้ได้ถึงสายตาของเขา รู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างหาที่เปรียบมิได้ จึงฝืนยิ้มออกมา
“อาจารย์ให้ข้ามาน่ะ จริงสิ! โม่จู๋น้องสาวของท่านเจอปัญหาแล้ว นางไปหาสมบัติที่ถ้ำเทวาของหลี่เฉียนหลง ข้าเคยเกลี้ยกล่อมแล้วแต่นางก็ยังไป”
หานเจวี๋ยเอ่ยปาก พูดจบก็เดินไปยืนบนค่ายกล
ฉางเยวี่ยเอ๋อร์ตามไปติดๆ ทั้งสองคนนำหินวิญญาณออกมาแล้วเปิดค่ายกลจากไป
โม่ฟู่โฉวขมวดคิ้ว สีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่หยุด
คนที่อยู่ด้านข้างถามขึ้นว่า “คนผู้นี้คือใครกัน ศิษย์ยอดเขาหยกวิเวกหรือ เหตุใดข้าไม่เคยเห็นเลย”
เมิ่งเหอตอบกลับ “เป็นศิษย์ยอดเขาหยกวิเวกเหมือนกับข้า นามว่าหานเจวี๋ย อาจารย์ให้ความสำคัญมาก ก่อนหน้านั้นอาจารย์ยังคิดจะส่งเขาเข้าร่วมแผนการบ่มเพาะของสำนัก แต่ว่าเขาปฏิเสธ”
เมื่อเอ่ยมาเช่นนี้ ทุกคนต่างก็มีสีหน้าประทับใจ
โม่ฟู่โฉวพูดด้วยดวงตาเป็นประกาย “เขาคู่ควรแล้ว!”
……
หลังจากกลับถึงสำนักฝ่ายใน หานเจวี๋ยกับฉางเยวี่ยเอ๋อร์ไปขายส่วนประกอบของสัตว์ปีศาจ
สำนักฝ่ายในมีสถานที่สำหรับซื้อขายส่วนประกอบของสัตว์ปีศาจโดยเฉพาะ สิ่งที่ทำให้หานเจวี๋ยตื่นเต้นดีใจก็คือ ของเหล่านี้แลกหินวิญญาณชั้นสูงได้มากถึงสามร้อยเก้าสิบเจ็ดก้อน
“สังหารสัตว์ปีศาจได้หินวิญญาณมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ”
หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างตื่นเต้น เขาอยากจะกลับไปสังหารสัตว์ปีศาจต่อเลยทันที
ฉางเยวี่ยเอ๋อร์รีบห้ามไว้ พูดเบาๆ ว่า “ศิษย์น้อง เลิกคิดเถอะ แดนหมื่นปีศาจเป็นพื้นที่เล็กๆ ที่สำนักเราบ่มเพาะดูแลเป็นพิเศษ สัตว์ปีศาจในนั้นล้วนมีมูลค่าไม่น้อย ในสถานการณ์ปกติ ลูกศิษย์ไม่อาจสังหารสัตว์ปีศาจด้านในได้ ครั้งนี้สถานการณ์ไม่ปกติ พวกเราอาจจะไม่โดนซักไซ้ไล่เลียง แต่ว่าครั้งหน้าต้องมีปัญหามากแน่นอน”
หานเจวี๋ยได้ยินแล้ว ก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนจะคิดมากไป
ปิดด่านฝึกฝนเงียบๆ เหมือนเดิมดีกว่า
คนทั้งสองกลับมาที่ยอดเขาหยกวิเวกแล้วไปคารวะเซียนซีเสวียนก่อน
“ศิษย์เข้าใจดี แต่ศิษย์อยากเพิ่มตบะให้แข็งแกร่งก่อน เมื่อมีพลังเพียงพอแล้วค่อยไปช่วงชิงโอกาสวาสนา”
‘ท่านอาจารย์เอ๋ย!
ท่านไม่เข้าใจหรอก!
คุณสมบัติรากวิญญาณของศิษย์อยู่ในระดับสูงสุด ทั้งยังมีดวงชะตาแต่กำเนิดชั้นยอดอีกสี่อย่าง!’
หานเจวี๋ยคิดในใจเงียบๆ
ช่วงชิงโอกาสวาสนาเป็นเรื่องของผู้ที่มีพรสวรรค์ไม่เพียงพอต่างหาก
เซียนซีเสวียนกล่าวต่อว่า “เดิมทีอาจารย์จัดหาโอกาสให้เจ้าแล้ว หากครั้งนี้เจ้าสร้างผลงานในแดนหมื่นปีศาจได้ ภายหน้าจะต้องได้เป็นศิษย์แกนหลักแน่นอน การปฏิบัติที่ได้รับก็จะดีกว่าตอนนี้มาก น่าเสียดายที่เจ้าละทิ้งมันไป”
“ขอบคุณท่านอาจารย์มาก มีแต่ต้องโทษที่ศิษย์ไร้วาสนา”
“วิชายุทธ์ที่เจ้าฝึกฝนลึกล้ำยากจะคาดเดา อาจารย์ก็ไม่มีสิ่งใดจะสอนเจ้า เอาเช่นนี้เถิด อยากมีถ้ำเทวาที่ไม่ด้อยไปกว่าสระวิญญาณอัสนีหรือไม่ นอกจากจะมีพลังวิญญาณอัสนีภายใน ยังมีพลังวิญญาณธาตุอื่นๆ ด้วย”
ครั้นได้ยินเช่นนี้ หานเจวี๋ยรีบเงยหน้าขึ้นมาทันที และถามด้วยความดีใจ “อยู่ที่ใดหรือขอรับ”
เซียนซีเสวียนเอ่ยด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “ช่วงนี้สำนักหยกพิสุทธิ์พบถ้ำเทวาฟ้าประทานสามแห่ง ถ้ำเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้บำเพ็ญสร้างขึ้นมา แต่ถือกำเนิดมาจากฟ้าดิน ตั้งอยู่ในบริเวณสำนักหยกพิสุทธิ์ หากต้องการถ้ำเทวาฟ้าประทานมาครอบครอง จะต้องเข้าร่วมการทดสอบของสำนักฝ่ายในที่จัดขึ้นทุกๆ สิบปี ศิษย์ที่ฐานะต่ำกว่าศิษย์แกนหลักสามารถเข้าร่วมได้ทุกคน ถ้าคว้าสามอันดับแรกมาได้ ก็จะได้รับถ้ำเทวาฟ้าประทาน และเลือกได้ตามอันดับ”
หายเจวี๋ยขมวดคิ้ว
เซียนซีเสวียนถลึงตามองเขา พูดอย่างไม่ชอบใจเท่าไรว่า “หรือว่าเจ้ากลัวแม้แต่กระทั่งการประลอง? ไม่ได้อันตรายถึงชีวิตเสียหน่อย!”
หานเจวี๋ยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามว่า “อาจารย์ขอรับ ในสถานการณ์โดยทั่วไป จะมีศิษย์ระดับรวมแก่นปราณเข้าร่วมด้วยหรือไม่”
“เจ้าคิดว่าระดับรวมแก่นปราณมีดาษดื่นหรือ ศิษย์ที่ฝึกฝนจนบรรลุระดับรวมแก่นปราณ ถ้าไม่กลายเป็นศิษย์แกนหลัก ก็กลายเป็นผู้อาวุโสและผู้ดูแลแล้ว”
“หมายความว่าผู้ที่เข้าร่วมการทดสอบของสำนักฝ่ายในล้วนเป็นผู้บำเพ็ญระดับสร้างฐานหรือ”
“ไม่ผิด”
“อย่างนั้นก็มั่นใจแล้ว”
“หือ?”
“ขอบคุณอาจารย์ที่ชี้แนะ ศิษย์จะทำอย่างสุดความสามารถ เพื่อเกียรติของยอดเขาหยกวิเวก!”
ในที่สุดเซียนซีเสวียนก็เผยรอยยิ้มออกมา สายตาที่มองหานเจวี๋ยเต็มไปด้วยแววขบคิด
เจ้าเด็กบ้า!
อาจารย์ไม่เชื่ออยู่แล้วว่าเจ้าจะไม่หวั่นไหว!
[ความประทับใจที่เซียนซีเสวียนมีต่อท่านเพิ่มขึ้น ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 2.5 ดาว]
……………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...