ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 160

บทที่ 160 ระดับเซียนอิสระวัฏจักรขั้นกลาง ศิษย์น้องเล็ก

เซียนเมฆาแดง?

ผู้ใดกัน

หานเจวี๋ยนิ่งอึ้งไป รีบเรียกดูค่าความสัมพันธ์เพื่อตรวจสอบภาพประจำตัวในทันที

รูปร่างหน้าตาของเซียนเมฆาแดงก็เหมือนคนธรรมดาคนหนึ่ง ผมสีแดงชาดทั่วศีรษะ ใบหน้าไม่นับว่าหล่อเหลานัก แต่ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร นัยน์ตาสีเขียว ยากที่จะมองออกว่าเขาแปลงกายมาจากเผ่าพันธุ์ใด

[เซียนเมฆาแดง: เซียนสวรรค์ไท่อี่ระยะต้น ขุนนางเซียนขั้นหกแห่งวังสวรรค์ ควบคุมดูแลมรรคาสวรรค์ของโลกมนุษย์ เนื่องด้วยหยางซ่านนำเรื่องที่เจ้าฆ่าสังหารหยางเยี่ยนจวินไปบอกแก่จักรพรรดิสวรรค์แห่งวังสวรรค์ได้ฟัง จึงเกิดความไม่พอใจในตัวหยางซ่านเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็เกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 3 ดาว]

เซียนสวรรค์ไท่อี่ระยะต้น!

ออกจะโหดร้ายอยู่บ้าง!

หานเจวี๋ยลอบดีใจกับตนเอง

ขอบเขตพลังของการฝึกบำเพ็ญแบ่งออกเป็นเซียนอิสระ เซียนพิภพไท่อี่ เซียนสวรรค์ไท่อี่ เซียนแท้ไท่อี่ เซียนลึกล้ำไท่อี่ เซียนทองไท่อี่!

หรืออาจกล่าวได้ว่า เซียนเมฆาแดงนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าหยางซ่าน!

เขาควบคุมดูแลมรรคาสวรรค์ของโลกมนุษย์ หรือว่าจะเป็นเทพสวรรค์ของโลกมนุษย์ที่หานเจวี๋ยอาศัยอยู่

หากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นหานเจวี๋ยก็พอเข้าใจแล้ว เท่ากับว่าหยางซ่านกำลังจ้องเล่นงานถิ่นอาศัยของเซียนเมฆาแดง แล้วเซียนเมฆาแดงจะยอมทนหรือ

เพียงแต่นี่ก็เป็นเพียงการคาดเดาของหานเจวี๋ยเท่านั้น หากวังสวรรค์คิดอยากล้างบางโลกมนุษย์แห่งนี้จริง ขุนนางเซียนขั้นหกอย่างเซียนเมฆาแดงจะกล้าคัดค้านหรือ

หานเจวี๋ยไม่ได้คิดให้มากความอีก ทำการสาปแช่งหยางซ่านต่อ

หกวันต่อมา หานเจวี๋ยหยุดการสาปแช่ง เริ่มต้นฝึกบำเพ็ญ

ไม่ว่าอย่างไร เขาต้องช่วงชิงเวลาที่ทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้นให้ได้

สามปีต่อมา

[ตรวจพบว่าท่านมีอายุครบแปดร้อยปี ชีวิตก้าวหน้าไปอีกขั้น ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง ขึ้นสวรรค์ทันที กลายเป็นเทพเซียน จะได้รับยอดสมบัติหนึ่งชิ้น]

[สอง ยังไม่ขึ้นสวรรค์ชั่วคราว อยู่ฝึกบำเพ็ญบนโลกมนุษย์ จะได้สืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง]

หานเจวี๋ยมองดูอักขระสามแถวที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ไม่ได้ตัดสินใจเลือกในทันที

โดยไม่รู้ตัว เขาก็อายุแปดร้อยปีแล้ว

เขาอดรู้สึกหดหู่ใจไม่ได้

ชีวิตมนุษย์ช่างผ่านไปเร็วเสียจริง

หานเจวี๋ยเลือกตัวเลือกที่สองอย่างเงียบๆ

[ท่านเลือกยังไม่ขึ้นสวรรค์ชั่วคราว ได้สืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง]

[ยินดีด้วย ท่านได้รับพลังวิเศษ–สามเศียรหกกร]

[สามเศียรหกกร: เมื่อสำแดงวิชาท่าร่างสามเศียรหกกร จะสามารถใช้ของวิเศษหกชิ้นได้ในเวลาเดียวกัน ระดับความแข็งแกร่งของกายเนื้อจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก]

หานเจวี๋ยเริ่มสืบทอดสามเศียรหกกรทันที

หลายวันต่อมา เขาควบคุมพลังวิเศษสามเศียรหกกรได้อย่างสมบูรณ์ ทว่าตอนที่เขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสามเศียรหกกรนั้น ทำเอาอู้เต้าเจี้ยนตกใจจนสะดุ้งโหยง

เมื่อรู้ว่านี่คือพลังวิเศษ อู้เต้าเจี้ยนก็แสดงท่าทีว่านางเองก็อยากเรียน

หานเจวี๋ยมองประเมินนาง กล่าวว่า “เจ้ารูปร่างหน้าตาสะสวยถึงเพียงนี้ หากเรียนมันแล้วอาจกระทบต่อรูปร่างหน้าตาก็เป็นได้”

อู้เต้าเจี้ยนถูกปฏิเสธ กลับไม่ได้เศร้าใจแต่อย่างใด ตรงกันข้ามนางค่อนข้างดีใจอยู่บ้าง

‘ข้าหน้าตาดีมากหรือ’

วินาทีต่อมา นางก็นึกถึงปัญหาข้อหนึ่งขึ้นมาได้

รูปร่างหน้าตาของนางจำลองมาจากนายท่านเทพเซียนคนก่อน หานเจวี๋ยชอบนาง หรือว่าชอบนายท่านเทพเซียนคนก่อนของนางกันแน่

เมื่อคิดเช่นนี้ อู้เต้าเจี้ยนก็เศร้าใจขึ้นมาอีกครั้ง

หานเจวี๋ยไม่ได้สนใจสีหน้าที่เปลี่ยนไปของนางเลยแม้แต่น้อย เขาตั้งหน้าตั้งตาฝึกบำเพ็ญต่อ

ในขณะที่อู้เต้าเจี้ยนเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ นางเองก็มีความรู้สึกรักโลภโกรธหลงเช่นมนุษย์แล้วเช่นกัน มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพจิตใจของตนเองก็เป็นเรื่องปกติ

ดังคำกล่าวที่ว่า หัวใจของหญิงสาวลึกล้ำเหมือนเข้มก้นสมุทร

หานเจวี๋ยฝึกบำเพ็ญไปพลาง เรียกดูค่าความสัมพันธ์เพื่อตรวจสอบไปพลาง

เขาอายุตั้งแปดร้อยปีแล้ว เซียนซีเสวียนจะต้องอายุนับพันปีแล้วแน่ๆ ก็ไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดของอายุขัยจะมาถึงเมื่อใด

ยามนี้ เซียนซีเสวียนทะลวงถึงระดับเปลี่ยนวิญญาณขั้นห้าแล้ว นับว่ามีการพัฒนาที่ไม่เลว ได้รับอานิสงส์จากพลังวิญญาณของเขาเพียรบำเพ็ญเซียน รวมถึงโอกาสวาสนาที่ตนเองบังเอิญพบเจอ

สิงหงเสวียนและฉางเยวี่ยเอ๋อร์ยังคงอยู่ในระดับปราณก่อกำเนิด แต่ระยะห่างก็เริ่มใกล้ระดับเปลี่ยนวิญญาณเข้าทุกที

โม่จู๋ก็อยู่ในระดับเปลี่ยนวิญญาณแล้วเช่นกัน ตระกูลโม่นับว่ายังพอมีของอยู่บ้าง

หลี่ชิงจื่อยังค้างอยู่ที่ระดับเปลี่ยนวิญญาณขั้นสอง ผ่านไปเนิ่นนานก็ไม่สามารถพัฒนาขึ้นมาได้ ของจำพวกคุณสมบัติช่างหนักหนาจริงๆ

ซูฉีก้าวเข้าสู่ระดับสุญตาแล้ว ไก่คุกรัตติกาลเองก็อยู่ในระดับสุญตาเช่นกัน ระยะห่างจากระดับรวมกายายังอีกไกล ส่วนหยางเทียนตง สวินฉางอันและสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นยังอยู่ระดับเปลี่ยนวิญญาณ เริ่มเข้าใกล้ระดับสุญตาเข้ามาแล้ว

ฟางเหลียงและมู่หรงฉี่ต่างก็ใกล้เข้าสู่ระดับสุญตา พรสวรรค์ของศิษย์ทั้งสามรุ่นล้วนน่ากลัวไม่ต่างกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ