ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 161

สรุปบท บทที่ 161 ยวนหวงหลง ฆ่าแม่ทัพและกองทัพสวรรค์เกลี้ยง!: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 161 ยวนหวงหลง ฆ่าแม่ทัพและกองทัพสวรรค์เกลี้ยง! – ตอนที่ต้องอ่านของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ตอนนี้ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 161 ยวนหวงหลง ฆ่าแม่ทัพและกองทัพสวรรค์เกลี้ยง! จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 161 ยวนหวงหลง ฆ่าแม่ทัพและกองทัพสวรรค์เกลี้ยง!

หลังจากถูหลิงเอ๋อร์ออกไปแล้ว หานเจวี๋ยก็เริ่มสำรวจวิญญาณมังกรภายในแผ่นเกล็ดตัวนั้น

เขาใช้พลังจิตปลุกเรียกวิญญาณมังกรขึ้นมา

“เจ้าเป็น…ใคร” วิญญาณมังกรเอ่ยถามอย่างอ่อนแรง

หานเจวี๋ยใช้พลังจิตสื่อสารกับมัน ไถ่ถามสถานะของมันว่าเหตุใดถึงได้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

วิญญาณมังกรก็ไม่ได้ปิดบังแต่อย่างใด เขาสิ้นไร้ไม้ตอกแล้ว การที่มีคนพบเขา นี่ก็ไม่ง่ายดายนัก

วิญญาณมังกรตัวนี้มาจากเผ่ามังกรแท้จากสวรรค์เบื้องบน เมื่อหลายแสนปีก่อนที่เพิ่งเริ่มบุกเบิกโลกมนุษย์แห่งนี้ เขาได้ลงมาท่องเที่ยวที่โลกมนุษย์ ผลกลับกลายเป็นว่าถูกโจมตี ตัวตายมรรคผลสลาย เหลือไว้เพียงเสี้ยววิญญาณร่อนเร่เวียนวน

เพื่อเลี่ยงไม่ให้ศัตรูพบเห็น วิญญาณมังกรจึงซ่อนตัวอยู่ในเกล็ดงูชิ้นหนึ่ง คิดอยากอาศัยอยู่บนร่างของสัตว์ปีศาจ ดูดซับพลังวิญญาณของสัตว์ปีศาจเพื่อหล่อเลี้ยงเสี้ยววิญญาณ แต่น่าเสียดายเวลาผ่านไปหลายแสนปี เกล็ดชิ้นนี้ล้วนถูกฝังไว้ใต้ดินเป็นเวลาเนิ่นนาน เพื่อลดการสิ้นเปลืองวิญญาณ เขาจึงทำได้เพียงเข้าสู่สภาวะหลับใหล

“หากเจ้าช่วยชีวิตข้า ข้าจะต้องตอบแทนเจ้าอย่างแน่นอน” วิญญาณมังกรกล่าวต่อไป

หานเจวี๋ยรับปากกล่าวว่า “ตกลง ข้าจะคิดหาวิธีช่วยชีวิตเจ้า”

“ทุกวันจงหล่อเลี้ยงวิญญาณของข้าด้วยพลังเซียนของเจ้า มุมานะบากบั่นอย่างต่อเนื่อง เช่นนี้ก็ช่วยข้าได้แล้ว”

“ตกลง!”

“ขอบคุณมาก…”

“ไม่เป็นไร”

ภายนอกหานเจวี๋ยดูเหมือนตกปากรับคำ แต่ในใจกลับไม่พอใจเป็นอย่างมาก

‘ข้าถึงขั้นรับปากจะช่วยเจ้าแล้ว เหตุใดเจ้าถึงยังไม่เกิดความประทับใจในตัวข้าอีก’

หานเจวี๋ยลองใช้พลังเซียนหล่อเลี้ยงวิญญาณมังกร

ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เจ้านี่ก็ยังไม่ได้เกิดความประทับใจในตัวเขา

หานเจวี๋ยตัดพลังเซียนในทันที

“เหตุใดเจ้าถึงหยุดเล่า” วิญญาณมังกรร้องตะโกนอยู่ภายในแผ่นเกล็ด

[ยวนหวงหลงเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 2 ดาว]

ไอ้สุนัขเลี้ยงไม่เชื่อง!

แค่นี้ก็ระดับความเกลียดชัง 2 ดาวแล้ว?

หานเจวี๋ยอยากด่าเขายิ่งนัก แต่ก็ยังตรวจดูข้อมูลของยวนหวงหลงอย่างรอบคอบ

[ยวนหวงหลง: เซียนพิภพไท่อี่ระยะกลาง มาจากเผ่ามังกรแท้ นิสัยฉ้อฉลคิดเล็กคิดน้อย เคยล่วงเกินเซียนเมฆาแดง จนถูกเซียนเมฆาแดงสังหาร เนื่องจากไม่พอใจที่ท่านตัดการหล่อเลี้ยงวิญญาณของเขากลางคัน จึงเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 2 ดาว]

หานเจวี๋ยเห็นเช่นนี้ก็เข้าใจขึ้นมาในทันที ที่แท้คนที่ฆ่าเขาก็คือเซียนเมฆาแดง

เช่นนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะล่วงเกินเผ่ามังกรแท้แล้ว

หานเจวี๋ยรีบส่งพลังจิตเข้าไปภายในแผ่นเกล็ดทันที กำจัดจิตรับรู้ของวิญญาณมังกรทิ้งไป เหลือไว้เพียงเสี้ยววิญญาณที่ไร้จิตรับรู้เสี้ยวหนึ่ง

กลืนกินเสี้ยววิญญาณ สามารถเสริมความแข็งแกร่งของวิญญาณได้ นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ยึดร่างได้อย่างคล่องแคล่วถึงเพียงนั้นด้วยเช่นกัน

การที่ผู้ทรงพลังบางคนสามารถรุ่งเรืองได้ ก็เป็นเพราะตอนสมัยเยาว์วัยถูกผู้ทรงพลังยึดร่าง ผลจึงถูกเขาแว้งกัด สืบทอดความทรงจำของผู้ทรงพลังต่อ จิตวิญญาณถอดคราบ ถึงจะบินขึ้นสู่สวรรค์ในคราเดียวได้

ตัวอย่างเช่นนี้มีจำนวนไม่น้อย

หานเจวี๋ยไม่ได้กลืนกินวิญญาณมังกร หากแต่เหลือเอาไว้ รอให้ราชามังกรสามหัวแสดงฝีมือให้ดีก่อน แล้วจะมอบให้กับราชามังกรสามหัว

เขาตรวจดูค่าความสัมพันธ์ พบว่ารูปประจำตัวของยวนหวงหลงหายไปแล้ว หมายความว่าเขาดับสูญไปอย่างสมบูรณ์แล้วจริงๆ

หานเจวี๋ยวางใจอย่างสิ้นเชิง จากนั้นก็เริ่มฝึกบำเพ็ญต่อ

อู้เต้าเจี้ยนรู้สึกสงสัย ในสายตาของนางเห็นว่าหานเจวี๋ยถือแผ่นเกล็ดแผ่นนั้นด้วยสีหน้าที่แปรเปลี่ยนอยู่ตลอด ความรู้สึกเปลี่ยนแปลงไปมากมาย ดูแปลกพิกลเป็นอย่างมาก

แต่ว่านางไม่ได้เอ่ยถาม

หานเจวี๋ยเองก็ไม่ได้เป็นเช่นนี้ครั้งแรก

สี่ปีต่อมา

ฟางเหลียงและมู่หรงฉี่ออกไปหาประสบการณ์ข้างนอก ส่วนคนอื่นๆ ยังคงฝึกบำเพ็ญอยู่ใต้ต้นฝูซัง

วันนี้ กลางคืนดึกสงัด

หานเจวี๋ยที่กำลังฝึกบำเพ็ญอยู่นั้นจู่ๆ ก็สัมผัสได้ถึงพลังจิตแข็งแกร่งหอบหนึ่งที่จู่โจมเข้ามา เขาลืมตาในทันที พบว่าจิตรับรู้ของตนกลับมาอยู่ท่ามกลางทะเลดาราเวิ้งว้างผืนหนึ่ง จักรวาลมืดมิด ประดับประดาไปด้วยดวงดาวนับล้าน เห็นได้ชัดว่างดงามโดดเด่นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

เบื้องหน้าของหานเจวี๋ยมีเงาร่างสายหนึ่ง รอบกายวนเวียนโคจรไปด้วยพยับเมฆสีแดงชาด

หานเจวี๋ยมองปราดเดียวก็จำเขาได้

หานเจวี๋ยขมวดคิ้วกล่าวว่า “เช่นนั้นข้าสามารถพาเหล่าลูกศิษย์ของข้าไปด้วยได้หรือไม่”

เซียนเมฆาแดงส่ายหน้ากล่าวว่า “เกรงว่าจะไม่ได้ ตบะของพวกเขาอ่อนแอ หากไปยังวังสวรรค์ก็คงทนแรงกดทับของไอเซียนที่วังสวรรค์ไม่ได้ อีกอย่างคนธรรมดาเข้าสู่วังสวรรค์ เดิมทีก็เป็นการฝ่าฝืนกฎสวรรค์แล้ว”

“ข้าสามารถพาเพียงเจ้าเข้าสู่วังสวรรค์เท่านั้น เมื่อออกจากวังสวรรค์แล้ว หากจูเชวี่ยมาหาเรื่องเจ้า ข้าเองก็เข้าไปยุ่งไม่ได้เช่นกัน”

คิ้วของหานเจวี๋ยยิ่งขมวดมุ่นมากกว่าเดิม

เซียนเมฆาแดงทอดถอนใจกล่าวว่า “เผ่ามารเข้ามารุกรานมากเกินไป กอรปกับหยางซ่านที่เป็นแม่ทัพสวรรค์ก็เอาแต่ยื่นฎีกาอยู่ตลอด แม้ตำแหน่งเซียนของข้าจะสูงกว่าเขา แต่ในวังสวรรค์ ในสายตาของจักรพรรดิสวรรค์ บุ๋นไม่สู้บู๊ ต้องโทษที่ข้าปิดด่านฝึกฝนนานปี ละเลยภาระหน้าที่ที่มีต่อโลกมนุษย์”

หานเจวี๋ยเอ่ยถามว่า “โลกมนุษย์นี้ยังมีเผ่ามารอีกหรือ”

“มี มีทายาทเผ่ามารอยู่ไม่น้อย แม้กระทั่งแฝงตัวอยู่ในสำนักสายหลักและตระกูลชั้นสูง พวกเขาไม่ได้มีนิสัยชั่วร้าย เพียงแต่มีสายเลือดของเผ่ามารเท่านั้น หากฆ่าเสียให้สิ้นซาก เกรงว่าใต้หล้าจะวุ่นวายเป็นอย่างมาก ในฐานะที่ข้าเป็นขุนนางเซียนมรรคาสวรรค์ จะต้องไม่ลงมือต่อสรรพชีวิตมรรคาสวรรค์ใต้ปกครองของข้า มิเช่นนั้นจะต้องประสบพบเจอกับการย้อนกลับของมรรคาสวรรค์ จึงได้แต่ปล่อยให้แม่ทัพสวรรค์และทหารสวรรค์มาดำเนินการ”

วาจาของเซียนเมฆาแดงทำให้หานเจวี๋ยนึกถึงตระกูลโม่ขึ้นมา

คิดไม่ถึงว่าตระกูลอย่างเช่นตระกูลโม่จะยังมีอยู่ไม่น้อยเลย

คนรุ่นหลังของเผ่ามารมากมายใช้ได้จริงๆ!

“อันที่จริงก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธี” จู่ๆ เซียนเมฆาแดงก็กล่าวพร้อมกลั้วหัวเราะ

หานเจวี๋ยเอ่ยถามว่า “วิธีใดกัน”

“สังหารแม่ทัพสวรรค์และทหารสวรรค์ที่มารุกรานให้สิ้นซาก!”

วาจาของเซียนเมฆาแดงชวนให้ตกใจไม่หยุดหย่อน

หานเจวี๋ยมองไปทางเขาด้วยความแปลกประหลาด

เจ้านี่คงจะไม่ใช่…

มนุษย์หมาป่า?

เซียนเมฆาแดงกล่าวว่า “ที่นี่เป็นโลกพลังจิตของข้า ไม่มีผู้ใดสามารถรับรู้บทสนทนาของเจ้ากับข้าได้ อันที่จริงแม้วังสวรรค์จะปกครองดูแลดินแดนเทพเซียนมากมายหลายหมื่นแดนทั่วสวรรค์ แต่ศัตรูก็มีจำนวนมากยิ่งนัก หากเจ้าสังหารแม่ทัพสวรรค์และทหารสวรรค์จนสิ้นซาก ก็เป็นการพิสูจน์ศักยภาพของเจ้า บางทีวังสวรรค์อาจจะนิรโทษกรรมให้เจ้าก็ได้!”

“พร้อมๆ กับการผงาดขึ้นของวังเทพและสำนักพุทธ วังสวรรค์ก็ปรารถนาบุตรแห่งสวรรค์ที่แข็งแกร่งมากเกินไป โดยเฉพาะบุตรแห่งสวรรค์ที่บุกสังหารมาจากโลกมนุษย์ ไม่มีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง แต่กลับสามารถสังหารเซียนพิฆาตเทพ คุณสมบัติเช่นนี้ก็เพียงพอจะทำให้วังสวรรค์บ้าคลั่งได้แล้ว!”

“เมื่อล้านปีก่อน ยอดแม่ทัพเทพของวังสวรรค์ก็บุกสังหารออกมาเช่นนี้ ยังไม่ทันขึ้นสวรรค์ ก็ล้างบางสังหารเทพเซียนทั้งหมดที่ลงไปยังโลกมนุษย์ ทำให้วังสวรรค์สะท้านสะเทือน ยามนี้ ยอดแม่ทัพเทพก็เป็นผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดในบรรดาแม่ทัพสวรรค์! และยังเป็นเทพเซียนที่มีผลงานการต่อสู้โดดเด่นที่สุดทั่วทั้งวังสวรรค์!”

……………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ