สรุปเนื้อหา บทที่ 176 เทพปีศาจเอ้อไหล – ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet
บท บทที่ 176 เทพปีศาจเอ้อไหล ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 176 เทพปีศาจเอ้อไหล
จี้เซียนเสินมองไปทางดวงตาแดงฉานที่อยู่ท่ามกลางเมฆอัสนีข้างนั้น หัวใจเต้นแรงขึ้น
ในใจของเขามีเสียงหนึ่งบอกว่าให้รีบหนี!
ฟางเหลียงก็ตกใจเช่นกัน เหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มศีรษะ
บรรดาราชาปีศาจได้ยินแล้วก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก ที่แท้ก็เป็นผู้อาวุโสของเผ่าปีศาจนี่เอง
“ผู้อาวุโส มนุษย์สองคนนี้สังหารเผ่าปีศาจเราอย่างกำเริบเสิบสาน ท่านจะต้องสนับสนุนพวกเรานะ!”
“ปีศาจประหลาดที่ตายด้วยน้ำมือของพวกมันมีมากมายนับไม่ถ้วนเลย!”
“ผู้อาวุโส รีบสังหารพวกมันเสีย!”
“ใช่แล้ว!”
ราชาปีศาจหลายตนตะโกนพร้อมกัน
ดวงตายักษ์แดงฉานปราดมองไปทางพวกมันในฉับพลัน จากนั้นพายุคลั่งก็ม้วนตัวขึ้นจากพื้น ราชาปีศาจหลายตนถูกม้วนขึ้นไปบนฟ้าทันที พวกมันดิ้นรนสุดแรงแต่ก็ไร้ประโยชน์ ไม่นานก็ถูกม้วนเข้าไปในดวงตายักษ์สีแดงฉานนั้น
ฟางเหลียงกับจี้เซียนเสินยืนอึ้ง
นี่มันเรื่องอะไรกัน
ดวงตายักษ์แดงฉานหลับตาลง
ฟางเหลียงหมุนตัวหนีในทันที จี้เซียนเสินตามหลังไปติดๆ
ทั้งสองคนเหาะเร็วมาก พริบตาเดียวก็หายลับไปตรงขอบฟ้า
เมฆครึ้มบนท้องนภาปกคลุมพื้นที่กว้างไกล ราวกับว่าแดนปีศาจทั้งหมดถูกเมฆครึ้มปกคลุมไว้
อานุภาพกดดันอันน่าหวาดกลัวนั้นแผ่ขยายไปในฟ้าดิน
“ท่านบอกว่าในแดนปีศาจแข็งแกร่งสุดก็แค่ระดับมหายานมิใช่หรือ เหตุใดท่านถึงหนีล่ะ”
ฟางเหลียงกล่าวด้วยความโมโห ไหนบอกว่าจะปกป้องข้าอย่างไรเล่า
จี้เซียนเสินกัดฟันกล่าวด้วยสีหน้ามืดมน “ฝ่ายตรงข้ามมาจากโลกเบื้องบน ข้าไร้คู่ต่อกรแค่ในโลกมนุษย์ ศัตรูมาจากบนฟ้า ข้าจะสู้ได้อย่างไร”
ฟางเหลียงนิ่งเงียบ ทำได้แค่บินมุ่งไปข้างหน้าเท่านั้น
“พวกเจ้าคิดจะหนีไปไหน”
เสียงเย็นเยือกก่อนหน้านี้ดังมาจากด้านหลัง
ฟางเหลียงและจี้เซียนเสินต่างหน้าถอดสี พายุรุนแรงพลันโจมตีเข้ามา
ฟางเหลียงหันกลับไปมองตามจิตใต้สำนึก ก่อนถูกพายุแรงกล้าโจมตีจนกระอักเลือดกระเด็นออกไป เขาหล่นลงบนผืนดินรกร้าง ฝุ่นฟุ้งตลบตลอดทาง
จี้เซียนเสินหมุนตัวไป ยกมือทั้งสองระเบิดอัสนีบาตจนเกิดเสียงดังก้องไปทั่ว
เขารู้ดีว่าตนเองหนีไม่พ้น ถ้าอย่างนั้นก็สู้!
“ฮึ! เฉาเชาสังหารเทพเซียนจากสวรรค์เบื้องบนได้ เหตุใดข้าจะทำไม่ได้”
จี้เซียนเสินกัดฟัน จ้องมองออกไป
เห็นเพียงมารปีศาจรูปร่างสูงใหญ่ที่มีหัวเป็นพยัคฆ์ร่างเป็นมนุษย์ตนหนึ่งกำลังเหยียบเมฆปีศาจบุกเข้ามา กรงเล็บทั้งสองของมารปีศาจตนนี้คล้ายเล็บลิง หางเหมือนหางวัว มีปีกอยู่ตรงหลัง แปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง
จี้เซียนเสินขมวดคิ้วแอบกล่าว “เป็นการผสานร่างของราชาปีศาจหลายตนก่อนหน้านี้หรือ”
เขารู้สึกคลื่นเหียนอย่างอดไม่ได้
ผู้อาวุโสเผ่าปีศาจตนนี้โหดเหี้ยมกับสหายร่วมเผ่าของตนเองเช่นนี้ คำพูดเมื่อครู่ยังดูเหมือนจะออกหน้าให้เผ่าปีศาจอยู่เลย
ตอนนี้ดูท่าทางแล้ว ฝ่ายตรงข้ามต้องการพุ่งเป้ามาที่พวกเขาสองคน!
จักรพรรดิปีศาจจิ้งจอกดำก็มีโลกเบื้องบนคอยหนุนหลังจริงๆ ด้วย!
“ท่านจะไม่บอกนามหน่อยหรือ” จี้เซียนเสินตะโกนเสียงสูง
มารปีศาจร่างสูงใหญ่แค่นเสียงหยันตอบกลับ “มนุษย์ธรรมดาคู่ควรรู้ชื่อข้ารึ”
เขาซัดหนึ่งฝ่ามือไปทางจี้เซียนเสิน พลังเวทน่าหวาดกลัวกลายเป็นศรโลหิตพุ่งออกไปจำนวนมาก
สายฟ้าพันรอบตัวจี้เซียนเสิน คิดจะต้านทานไว้ แต่สุดท้ายกลับถูกศรโลหิตนับไม่ถ้วนแทงทะลุจนกลายเป็นมนุษย์โลหิตในพริบตา
ไร้ซึ่งแรงต้านทาน!
ฟางเหลียงที่นอนอยู่ในหลุมขนาดใหญ่บนพื้นเบิกตากว้าง สีหน้าเผยความเหลือเชื่อ
แม้ว่าจี้เซียนเสินจะเสแสร้งโอ่อวด ฟางเหลียงก็นับถือความแข็งแกร่งของเขาจริงๆ
แทบจะไม่มีราชาปีศาจตนใดที่สามารถรอดจากหนึ่งกระบวนท่าของจี้เซียนเสินได้
ครั้นเห็นจี้เซียนเสินถูกสังหารภายในพริบตาเช่นนี้ ฟางเหลียงก็ลนลานแล้ว
‘ทำอย่างไรดี?’
ฟางเหลียงใช้กระบี่ยันตัวลุกขึ้นแล้วแหงนหน้ามองไป
มารปีศาจร่างสูงใหญ่ก้มมองฟางเหลียง ดวงตาเป็นประกาย พูดเบาๆ ว่า “เจ้าเด็กนี่มีดวงชะตามรรคาสวรรค์เสียด้วย หรือจะเป็นบุตรแห่งฟ้าดินในโลกมนุษย์?”
เขาบินไปทางฟางเหลียง ทว่าไม่ได้ลงมือ
ขณะนั้นเอง กระแสอัสนีสวรรค์กลายเป็นสายน้ำหลากม้วนกวาดเข้ามา มารปีศาจร่างสูงใหญ่โบกมือสลายกระแสอัสนีไป
มองเห็นแค่จี้เซียนเสินที่กลายเป็นมนุษย์โลหิตกำลังพุ่งเข้าใส่มารปีศาจ
มารปีศาจร่างสูงใหญ่ทำเสียงขึ้นจมูกเหยียดหยาม และโบกมือขวาทันที
ตู้ม!
กระบี่ยักษ์ที่ก่อตัวขึ้นจากปราณโลหิตพุ่งลงมาจากฟ้า แทงทะลุเมฆอัสนี จัดการกำราบจี้เซียนเสินทันใด คมกระบี่ตกอยู่บนที่ราบรกร้าง ก่อให้เกิดฝุ่นตลบสูงร้อยจั้ง จี้เซียนเสินไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร
ฟางเหลียงกัดฟัน ดวงตาแดงก่ำ
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงพลังวิเศษลึกลับที่อาจารย์ปู่เคยถ่ายทอดให้
หากไม่วิกฤตถึงชีวิต อย่าได้ใช้เด็ดขาด!
มารปีศาจเอ่ยปาก “ข้าคือ…”
หานเจวี๋ยยกนิ้วชี้ขวาขึ้นมาทันที ปราณกระบี่สายหนึ่งพุ่งออกไป
ดรรชนีกระบี่โลกาสวรรค์ทลายภพ!
ตู้ม…
ปราณกระบี่กลายเป็นสายรุ้งยาวแฉลบผ่านเหนือศีรษะของฟางเหลียง
ชั่วขณะนี้ วิญญาณของฟางเหลียงหยุดสั่นสะท้าน สีหน้าเหม่อลอย
เขายังไม่ทันหันหน้าไป มารปีศาจร่างยักษ์ก็ถูกสังหารเสียแล้ว
ตลอดทางที่ปราณกระบี่พุ่งผ่าน พื้นที่รกร้างถูกกรีดกลายเป็นร่องลึกประหนึ่งหุบเขา ยาวต่อเนื่องไปจนสุดขอบฟ้า
“เจ้าเป็นใคร”
เสียงของมารปีศาจร่างสูงใหญ่ดังขึ้นมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นกลัว
กายเนื้อเมื่อครู่ไม่ใช่ร่างจริงของเขา
หานเจวี๋ยกล่าวอย่างสงบ “วังสวรรค์ เหวินชวีซิง!”
“เป็นไปไม่ได้! วังสวรรค์จะมายุ่งเรื่องนี้ได้อย่างไร เลิกสวมรอยเหวินชวีซิงเสีย!”
หานเจวี๋ยขี้เกียจต่อปากต่อคำด้วย เขายกมือชี้นิ้วไป
ปราณกระบี่พุ่งทะลุฟ้า!
เมฆครึ้มถูกทะลวง อานุภาพกดดันมหาศาลที่ปกคลุมไปทั่วผืนฟ้าปฐพีสลายไปอย่างไร้ร่องรอย
[เทพปีศาจเอ้อไหลเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 5 ดาว]
อักขระแถวหนึ่งเด้งขึ้นมาตรงหน้าหานเจวี๋ย
“เหวินชวีซิง! เจ้ารอข้าก่อน! คิดจริงหรือว่าวังสวรรค์จะกระทำผิดอย่างกำเริบเสิบสานได้? ฮึ! ข้าจะทำให้วังสวรรค์พินาศย่อยยับ!”
ฝ่ายตรงข้ามคำรามอย่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรง
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว
คำพูดวางโตมาก!
หรือว่าจะมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่?
เขารีบตรวจสอบข้อมูลของเทพปีศาจเอ้อไหลทันที
[เทพปีศาจเอ้อไหล: ระดับเซียนสวรรค์ไท่อี่ระยะกลาง เทพปีศาจของแดนเซียนฟากหนึ่ง เพราะท่านขัดขวางการจับตัวบุตรแห่งฟ้าดิน จึงเกิดความอาฆาตแค้นต่อท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 5 ดาว]
ในหัวของหานเจวี๋ยมีคำพูดสองสามคำผุดขึ้นมา
‘แค่นี้เอง?’
……………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...