หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว หรือว่าจะมีคนอยู่นอกถ้ำเทวา
เขาตรวจดูที่มาของคนผู้นี้ทันที
[เฉินซานเทียน ตัวอ่อนมารแต่กำเนิด มีความเข้ากันได้ระดับสูงมากกับวิชายุทธ์สายมาร ตอนเยาว์วัยติดตามบิดามารดาพเนจรไปทั่ว เมื่อบิดามารดาถูกโจรเร่ร่อนสังหาร เขาปลุกตัวอ่อนมารให้ตื่นขึ้นโดยบังเอิญ อายุเพียงเจ็ดขวบก็สังหารโจรเร่ร่อนไปเกินร้อยคน จิตสังหารถูกปลดปล่อย และควบคุมไม่ได้ตั้งแต่นั้นมา จนกระทั่งได้เข้าร่วมกับลัทธิมารฟ้ามืด ก็ราวกับมัจฉาที่ได้น้ำ ขณะนี้เป็นศิษย์แกนหลักของลัทธิมารฟ้ามืด]
เป็นคนของลัทธิมารฟ้ามืดจริงๆ ด้วย!
ศิษย์แกนหลัก…
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ยังไม่ถึงระดับผู้อาวุโส!
ตามความเข้าใจของหานเจวี๋ย กำลังของลัทธิมารฟ้ามืดไม่ต่างไปจากสำนักหยกพิสุทธิ์
เฉินซานเทียนสูงค้ำฟ้าแค่ไหน ก็มีตบะระดับรวมแก่นปราณขั้นเก้าเท่านั้น!
‘คนผู้นี้มาทำอะไรที่สำนักหยกพิสุทธิ์ เขามาคนเดียว หรือว่าซ่อนกองทัพใหญ่เอาไว้’
หานเจวี๋ยลุกขึ้น เดินไปยังประตูถ้ำอย่างระมัดระวัง
เขามองออกไปด้านนอก เห็นเพียงชายชุดดำคนหนึ่งเดินออกมาจากป่าที่อยู่ไม่ไกล ท่าทางดูลับๆ ล่อๆ
หานเจวี๋ยกลับไม่อาจจับสัมผัสกลิ่นอายของเขาได้
หากไม่เห็นกับตาตัวเอง เขาอาจจะไม่พบตัวเฉินซานเทียน
นอกจากเฉินซานเทียนแล้วก็ไม่มีผู้อื่นอีก
เฉินซานเทียนเดินมาหน้าประตูถ้ำเทวา สายตาของเขาตกอยู่บนแถวอักขระบนผนังถ้ำ
“อดทนเพื่อทะเลกว้างฟ้ากระจ่าง…น่าขัน คนสำนักหยกพิสุทธิ์ล้วนเป็นเต่าหัวหดดังคาด!”
เฉินซานเทียนอดหัวเราะเยาะไม่ได้ หานเจวี๋ยที่อยู่ในถ้ำรู้สึกว่าตนเองถูกล่วงเกินเสียแล้ว
รนหาที่ตาย!
หานเจวี๋ยแสดงวิชาสามกระบี่แยกเงา เงากระบี่สามสายลอยอยู่ด้านหลัง พร้อมที่จะสังหารเฉินซานเทียนตลอดเวลา
เพราะมีค่ายกลอยู่ เฉินซานเทียนจึงมองไม่เห็นหานเจวี๋ย และไม่สามารถรับรู้กลิ่นอายของหานเจวี๋ยได้
ทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึงสิบก้าว
เฉินซานเทียนมองอยู่พักหนึ่ง ก็รู้สึกถึงความไม่ปกติ
“หรือว่าจะเป็นถ้ำเทวา?”
เฉินซานเทียนหรี่ตาลง เขาพลิกมือเรียกกระบี่ออกมาแทงผนังภูเขาเบาๆ
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
แสงกระบี่สว่างเจิดจ้า เฉินซานเทียนต้องหลับตาโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะกระโดดถอยหลังตามสัญชาตญาณ
เงากระบี่สามสายแทงทะลุร่างของเฉินซานเทียนราวสายฟ้าแลบ โลหิตสดสาดกระเซ็น
เฉินซานเทียนกระเด็นออกไปไกลสิบกว่าเมตรปานกระสอบทราย กระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ สะเทือนจนใบไม้ร่วงกราวลงมาดุจสายฝน
“เจ็บนัก…”
เฉินซานเทียนกัดฟันมองไป เห็นเงากระบี่สามเงาลอยอยู่เหนือศีรษะเขา พร้อมจะฟันลงมาได้ทุกเวลา ทำเอาเขาตกใจแทบขวัญกระเจิง
นี่คือสิ่งใดกัน
เขารีบร้องตะโกน “ผู้อาวุโส โปรดยั้งมือก่อน!”
หานเจวี๋ยที่ยืนอยู่ตรงปากถ้ำส่ายศีรษะ
‘อ่อนเพียงนี้เชียว
โจมตีทีเดียวก็รับไม่ไหวแล้ว!
หรือจะบอกว่า สามกระบี่แยกเงาของเราแข็งแกร่งเกินไป?’
หานเจวี๋ยเอามือลูบคางพลางครุ่นคิด
หลังจากเผชิญกับการโจมตีของสามกระบี่แยกเงา กลิ่นอายพลังวิญญาณของเฉินซานเทียนก็ปรากฏออกมา
หานเจวี๋ยเปรียบเทียบอยู่ครู่หนึ่ง พลังวิญญาณของเฉินซานเทียนไม่แข็งแกร่งเท่าเขา
เพียงแต่เขามองขอบเขตพลังของเฉินซานเทียนไม่ออก
หรือก็คือ ขอบเขตพลังของเฉินซานเทียนสูงกว่าเขา แต่พลังวิญญาณแข็งแกร่งไม่เท่าเขา
ในที่สุดความร้ายกาจของวัฏจักรหกวิถีก็ปรากฏให้เห็นแล้ว
หานเจวี๋ยเอ่ยปากถามอย่างอารมณ์ดี “เจ้าคิดจะมาทำอะไรที่สำนักหยกพิสุทธิ์”
เฉินซานเทียนตอบ “บังเอิญผ่านมาทางนี้ ข้าไม่ได้อยากเข้าสำนักหยกพิสุทธิ์”
โกหกได้ไหลลื่นดีจริงๆ!
เงากระบี่สามสายร่วงลงมาอีกครั้ง!
เฉินซานเทียนหน้าเปลี่ยนสี กระโดดไปด้านข้างทันที แต่เท้าขวาของเขาก็ยังถูกเงากระบี่แทงทะลุ และถูกตรึงไว้กับพื้น ก่อนจะล้มคว่ำเหมือนสุนัขบ้ากระโจนเข้าหาอุจจาระ
“บัดซบ…”
เฉินซานเทียนหงุดหงิดจนระเบิดอารมณ์ออกมา
เขาเป็นถึงศิษย์แกนหลักของลัทธิมารฟ้ามืด แต่กลับถูกฝ่ายตรงข้ามกำราบโดยที่ยังไม่ทันได้ลงมือด้วยซ้ำ
เงากระบี่สามสายราวกับภูตผี รวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ ขณะที่ตรึงเท้าของเขา ก็ยังกัดกร่อนพลังวิญญาณในร่างเขาด้วย
นี่คือวิชาเวทใดกันแน่
เฉินซานเทียนตื่นตระหนกมาก
เขาเคยสืบเรื่องสำนักหยกพิสุทธิ์มาแล้ว สำนักหยกพิสุทธิ์ไม่ใช่สำนักที่ฝึกฝนกระบี่โดยเฉพาะ ในบรรดาผู้อาวุโสก็ไม่มีใครมีวิชาเวทสายกระบี่ที่ร้ายกาจเช่นนี้
หรือว่าจะเป็นผู้อาวุโสสูงสุดที่ลึกลับ?
“เฉินซานเทียน ตัวอ่อนมารแต่กำเนิด ศิษย์เอกลัทธิมารฟ้ามืด หากส่งตัวเจ้าให้กับสำนักหยกพิสุทธิ์ เจ้าคิดว่าเจ้าจะมีจุดจบเช่นไร” เสียงของหานเจวี๋ยดังมาอีกครั้ง
เฉินซานเทียนหน้าเปลี่ยนสี เกิดคลื่นโหมกระหน่ำในจิตใจ
ฝ่ายตรงข้ามรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเขาได้อย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...