เขาตั้งใจฝึกฝนทุกวัน
ใช้เตียงไม้ของตนเองเป็นเขตอาคม ขณะที่ฝึกฝนเฉินซานเทียนไม่รู้สึกถึงคลื่นพลังวิญญาณของเขาแม้แต่น้อย
ภาพลักษณ์ของหานเจวี๋ยในสายตาเฉินซานเทียนยิ่งลึกล้ำเกินหยั่งกว่าเดิม
พริบตาเดียว
หนึ่งปีก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ด้วยการปลูกหญ้าวิญญาณ พลังวิญญาณภายในถ้ำเทวาหนาแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ รากวิญญาณอัสนีของหานเจวี๋ยก็บรรลุถึงระดับรวมแก่นปราณขั้นสี่แล้ว
หนึ่งปีหนึ่งขั้น ความเร็วระดับนี้นับว่าไม่เลว!
หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่รู้ว่าจะทำให้สักกี่คนต้องตื่นตกใจ
เฉินซานเทียนสงบลงแล้ว
เขาพบว่าหานเจวี๋ยไม่ได้กลั่นแกล้งเขา แต่เขาก็ไม่กล้าหลบหนี ได้แต่ฝึกฝนตามเท่านั้น
หานเจวี๋ยฝึกบำเพ็ญอยู่ตลอด และไม่เคยออกจากถ้ำเลย ทำให้เฉินซานเทียนวุ่นวายใจขึ้นเรื่อยๆ
‘แม้จะฝึกฝนอย่างสบายใจ แต่หากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะพลาดข่าวได้’
เฉินซานเทียนหันหลังให้หานเจวี๋ยพลางขมวดคิ้วครุ่นคิด
เขาเป็นถึงศิษย์แกนหลัก ทว่าไม่ได้กลับไปสักที ลัทธิมารฟ้ามืดจะต้องเป็นกังวลแน่ กระทั่งอาจเกิดความสับสนอลหม่านได้
‘ทำอย่างไรดี’
‘แอบทำร้ายเขาสักครั้งดีหรือไม่’
เฉินซานเทียนกลัดกลุ้มไม่หยุด ครั้นนึกถึงภาพที่ถูกหานเจวี๋ยโจมตีจนพ่ายเมื่อหนึ่งปีก่อน เขาก็ขนลุกซู่ขึ้นมา
พลังห่างชั้นมากเกินไป หานเจวี๋ยกล้าฝึกฝนอย่างไม่เกรงกลัวใครเช่นนี้ จะต้องจัดการเขาได้แน่
บัดซบ!
‘เจ้าหมอนี่คิดจะทำอะไรกันแน่ ถึงขังข้ามาโดยตลอด
หากไม่ใช่เพราะพลังของข้าใช้การไม่ได้ ข้าจะให้เจ้าชดใช้คืนเป็นร้อยเท่า!’
เฉินซานเทียนเผยแววตาเย็นเยือก
เขาเป็นใคร
เขาเป็นถึงตัวอ่อนมารในลัทธิมารฟ้ามืดที่คนได้ยินชื่อแล้วต้องขวัญหนีดีฝ่อ!
[ความเกลียดชังที่เฉินซานเทียนมีต่อท่านเพิ่มขึ้น ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 4 ดาว]
หานเจวี๋ยที่กำลังฝึกฝนขมวดคิ้วขึ้นมา
มารดาเจ้าสิ!
เพิ่มขึ้นอีกแล้ว!
หานเจวี๋ยอยากจะกระอักเลือด
ในหนึ่งปีนี้ เขาไม่ได้ทรมานเฉินซานเทียนเลย เฉินซานเทียนดูเหมือนจะว่านอนสอนง่าย แต่ระดับความเกลียดชังที่มีให้เขากลับเพิ่มขึ้นเสมอ ตอนนี้ขึ้นมาถึง 4 ดาวแล้ว
เป็นระดับที่ไม่ตายไม่ยอมเลิกรา!
เฉินซานเทียนไม่รู้ว่าหานเจวี๋ยคิดอะไรอยู่ในใจ ยังวางแผนว่าจะสังหารหานเจวี๋ยอย่างไรและหาวิธีหลบหนี
‘มีแต่ต้องรอให้เขามีเรื่องแล้วออกไปข้างนอก จากตบะของเขา จะต้องเป็นผู้อาวุโสหรือผู้อาวุโสสูงสุดแน่นอน ช่วงนี้ลัทธิมารฟ้ามืดก่อกวนสำนักหยกพิสุทธิ์อยู่เรื่อยๆ เขาไม่อาจสงบใจฝึกฝนได้ตลอดแน่
รอข้าหนีออกไปได้ จะนำลัทธิมารมาเหยียบสำนักหยกพิสุทธิ์ให้ราบ ถึงตอนนั้นจะสับร่างเจ้านี่เป็นหมื่นชิ้น แล้วสูบวิญญาณมาหลอมพลัง!’
ในใจของเฉินซานเทียนเต็มไปจิตสังหาร แต่ไม่กล้าแสดงออกมาสักนิด
พอนึกว่าตนเองจะได้ทรมานหานเจวี๋ยจนต้องคุกเข่าร้องขอชีวิต เขาก็เบิกบานใจยิ่งนัก
ในขณะนั้นเอง!
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
เสียงแหวกอากาศที่คุ้นเคยดังขึ้น เฉินซานเทียนยังไม่ทันได้โต้ตอบ สามกระบี่แยกเงาก็แทงทะลุหน้าอกเขาจนเลือดกระจายทั่วพื้น
เฉินซานเทียนเบิกตาโพลง ในดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย เขาหันหน้าไปมองอย่างไม่อยากเชื่อ
หานเจวี๋ยกวักมือขวา ใบหน้าไร้ความรู้สึก
สามกระบี่แยกเงาวนกลับมาโจมตีศีรษะของเขาจนระเบิด
ตัวอ่อนมารแต่กำเนิดเฉินซานเทียน ดับดิ้น!
ครั้งนี้เด็ดขาดกว่าเมื่อหนึ่งปีก่อนมาก เฉินซานเทียนไม่ทันหลบเลยด้วยซ้ำ
จนกระทั่งเฉินซานเทียนตายไป หานเจวี๋ยก็ยังไม่แน่ใจว่าพลังของเขาเป็นอย่างไรกันแน่
เฉินซานเทียนลดความระแวดระวังนานแล้ว นึกไปว่าหานเจวี๋ยจะเก็บเขาไว้ใช้การใหญ่ ไหนเลยจะคิดว่าจะถูกสังหารในวันนี้
ศพของเฉินซานเทียนล้มลงพื้น แสงลูกหนึ่งพุ่งออกจากร่างของเขา
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว
หรือว่านั่น…
ลูกแสงเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ก่อนกลายเป็นเงาร่างของคนผู้หนึ่ง คนผู้นี้มีใบหน้าแก่หง่อม ดวงตาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
เขาปรายตามองร่างของเฉินซานเทียนแวบหนึ่ง จากนั้นจึงจ้องหานเจวี๋ยตาไม่กะพริบ
ภายในถ้ำเทวาตกอยู่ในความเงียบ
หานเจวี๋ยทอดถอนใจ
ไม่คิดว่าจะมีชายชรามาเยือนจริงๆ
ชายชราแค่นเสียงหยัน “ทอดถอนใจเพราะเสียใจภายหลังหรือ สังหารศิษย์ของข้า เจ้าต้องตายสถานเดียว บอกชื่อเจ้ามา!”
หานเจวี๋ยกล่าวด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง “ข้าน้อยเฉาเชา (โจโฉ) ท่านล่ะ”
“จางคุ่นหมัว ลัทธิมารฟ้ามืด!”
“อ๋อ”
“ฮึ เจ้าจงรอความตายเสีย!”
จางคุ่นหมัวเอ่ยจบก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...