ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 260

สรุปบท บทที่ 260 สะสางศัตรู ความพิโรธของจักรพรรดิปีศาจ: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ตอน บทที่ 260 สะสางศัตรู ความพิโรธของจักรพรรดิปีศาจ จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 260 สะสางศัตรู ความพิโรธของจักรพรรดิปีศาจ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 260 สะสางศัตรู ความพิโรธของจักรพรรดิปีศาจ

“ข้าก็คิดเช่นนั้น คุณสมบัติของข้าแข็งแกร่งจนเลยขอบเขตไปมากแล้ว แต่อาจารย์ปู่ยังคงทำให้พวกเรารู้สึกถึงความลึกล้ำจนยากจะคาดเดาได้ ที่สำคัญที่สุดก็คืออาจารย์ปู่ก็ไม่ออกไปฝึกประสบการณ์ด้วย ปิดด่านฝึกบำเพ็ญอยู่ทุกวัน”

ฟางเหลียงทอดถอนใจกล่าว สีหน้าเต็มไปด้วยความเคารพยำเกรง

ที่เขามีวันนี้ได้ล้วนเป็นเพราะหานเจวี๋ยฝืนลิขิตฟ้าพลิกชะตาให้เขา

เทพเซียนบอกว่าเขาคือบุตรแห่งโลกา เขากลับรู้ตัวว่าตนเองธรรมดามาก บุตรแห่งโลกาที่พูดถึงก็เป็นดวงชะตาที่อาจารย์ปู่ช่วยเขาช่วงชิงมา

ในใจของเขา หานเจวี๋ยเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดตลอดกาลสำหรับเขา

มู่หรงฉี่กล่าวหยอกล้อ “ไม่แน่อาจารย์ปู่อาจจะจะเป็นบรรพชนเต๋าที่แปลงร่างมาก็ได้ มีแต่ผู้ทรงพลังเลิศล้ำแห่งยุคเท่านั้นที่จำเป็นต้องปิดด่านฝึกบำเพ็ญตลอด เพราะพวกเราปิดด่านครั้งหนึ่งใช้เวลาหลายหมื่นปี หากคิดเช่นนี้ล่ะก็ ที่จริงแล้วอาจารย์ปู่ของพวกเราไม่นับว่ามุมานะฝึกบำเพ็ญ แม้กระทั่งยังไม่เริ่มปิดด่าน”

ฟางเหลียงคิดว่ามีเหตุผล และอดพยักหน้าไม่ได้

แน่นอน เขาแค่คิดว่าหานเจวี๋ยเป็นผู้ทรงพลังเลิศล้ำแห่งยุค แต่ไม่คิดว่าเป็นบรรพชนเต๋า บรรพชนเต๋าคือตำนานของการดำรงอยู่อันเพ้อฝัน อาจจะไม่มีอยู่จริงๆ

ศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองไม่มีคำพูดก็หาคำพูดมาพูดคุยกันเล่น

อีกด้านหนึ่ง

ในอุทยานหลวง

ตี้ไท่ไป๋มาถึงตรงหน้าจักรพรรดิสวรรค์ และแสดงความเคารพก่อนกล่าว “ฝ่าบาท ช่วงนี้เผ่ามังกรแท้กำลังก่อหวอดที่จะก่อการร้าย แม้กระทั่งมีรัชทายาทไปโลกเขย่าพิภพด้วย ด้วยนิสัยของเจ้าเด็กหานเจวี๋ยนั่น อาจจะ…”

แม้หานเจวี๋ยจะขี้ขลาดตาขาว แต่ก็เพราะเจ้าหมอนี่ขี้ขลาดตาขาวเกินไป จึงมักคิดที่จะกำจัดภัยพิบัติที่จะตามมาภายหลังให้สิ้นซาก

ทั้งหวาดกลัวทั้งเหี้ยมโหด!

จักรพรรดิสวรรค์ตรัสด้วยดวงพระเนตรที่เป็นประกาย “อย่าสนใจพวกเขา”

“ถ้าหากว่า…”

“หานเจวี๋ยเป็นคนของแดนสวรรค์ เผ่ามังกรแท้เพียงแค่มีสายสัมพันธ์ทางเครือญาติกับข้าเท่านั้น อะไรสำคัญ อะไรไม่สำคัญเจ้าคงรู้ดี ตอนนี้ข้าสังกัดแดนสวรรค์มิใช่เผ่ามังกรแท้”

“กระหม่อมรับทราบ!”

“ต่อไปรายงานสถานการณ์ของโลกเขย่าพิภพให้ข้าได้ตลอดเวลา”

“น้อมรับพระบัญชา!”

ตี้ไท่ไป๋จากไปอย่างรวดเร็ว

จักรพรรดิสวรรค์วางจอกสุราลง และตรัสด้วยพระสุรเสียงฮึดฮัด “เผ่ามังกร ดูท่าพวกเจ้ายังไม่ลืมความทะเยอทะยานในอดีต ในเมื่อพวกเจ้าไม่ยอมสนับสนุนข้า ก็อย่าโทษว่าข้าใจคอโหดเหี้ยมเลย!”

……

พุทธะอาภรณ์ขาวต่อสู้กับเผ่ามังกรต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน ในที่สุดพุทธะอาภรณ์ขาวและเซียนทองไท่อี่ที่เป็นแกนนำของเผ่ามังกรในครั้งนี้ ก็บอบช้ำด้วยกันทั้งสองฝ่าย เผ่ามังกรถอนทัพ พุทธะอาภรณ์ขาวรีบมาหาหานเจวี๋ย

ทั้งสองพบกันในหมู่บ้านเล็กๆ

พุทธะอาภรณ์ขาวกล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “ผู้อาวุโส ที่มาในครั้งนี้คือองค์ชายสิบสามของเผ่ามังกรแท้ คนผู้นี้ก็เป็นบุตรแห่งสวรรค์ หากมาอีกในครั้งหน้าข้าไม่อาจต้านทานได้”

หานเจวี๋ยถาม “เหตุใดพวกเขาถึงมา”

“อยากครอบครองโลกเขย่าพิภพ ขณะนี้ดวงชะตาของโลกเขย่าพิภพเข้มแข็งเกรียงไกรมาก อีกไม่นานระดับสูงสุดในโลกมนุษย์ จะยกระดับถึงระดับเซียนพิภพ”

“ไม่เป็นไร มาครั้งหน้าข้าจะสังหารเขา”

“ตกลง ผู้อาวุโส”

พุทธะอาภรณ์ขาวโล่งใจไปเปราะหนึ่ง เพียงแค่หานเจวี๋ยยอมลงมือก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว

หานเจวี๋ยถามกล่าวด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง “เจ้าจะกลับสำนักพุทธเมื่อใดหรือกลับนิกายฉ่านตอนไหน”

พุทธะอาภรณ์ขาวกล่าวโดยไม่ต้องคิด “สำนักพุทธจะต้องกลับไปไม่ได้อย่างแน่นอน บรรพชนพุทธได้ส่งคนมาล่าสังหารข้าแล้ว ส่วนนิกายฉ่านนั้นมันผ่านไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่อยากช่วงชิงอำนาจ ต่อไปข้าจะอยู่ในโลกเขย่าพิภพ”

เขาได้สติกลับมาและนึกอะไรขึ้นมาได้จึงรีบคุกเข่าตรงหน้าหานเจวี๋ยทันที

“ผู้อาวุโส! โปรดรับข้าไว้ ข้ายอมอุทิศตนรับใช้ท่าน!”

หานเจวี๋ยกล่าว “ได้ ตั้งแต่วันนี้ไปเจ้าก็คือคนของสำนักซ่อนเร้นเรา ส่วนตำแหน่งสถานะนั้น ดูการแสดงออกของเจ้าในภายหลัง”

‘สำนักซ่อนเร้น?’

พุทธะอาภรณ์ขาวราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ หรือว่าหานเจวี๋ยยังมีกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่หนุนหลังอยู่

มิน่าล่ะ!

เขาฮึกเหิมขึ้นมาทันที รีบกล่าวรับรองว่าตนเองจะพยายามอย่างแน่นอน

ทั้งสองพูดจาเป็นพิธีรีตองอยู่สองสามประโยคก็แยกย้ายไป

หานเจวี๋ยกลับถึงถ้ำเทวาฟ้าประทานด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

‘เผ่ามังกร!’

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป มหาเคราะห์ไร้ขอบเขตก่อตัวขึ้นมา เขาจำเป็นต้องเข้าร่วมเคราะห์ด้วย ต่อให้เขาไม่อยากจะช่วงชิงกับผู้คน ศัตรูก็จะมาหาเขาถึงที่เอง

รอศัตรูทั้งหมดของเขาสังหารเข้ามา เขาจะต้านทานได้อย่างไร

‘ไม่ได้!

ต้องหาวิธีสาปแช่งเจ้าพวกนี้ให้ตายจนหมดสิ้น’

หานเจวี๋ยเกิดความเหี้ยมโหดในจิตใจ เขาตัดสินใจเล่นใหญ่สักครั้ง

“ข้ามีอายุขัยห้าสิบสี่ล้านล้านปี นำอายุขัยร้อยล้านปีมาเดิมพัน จะทำไมล่ะ”

หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ และนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาโดยตรง

เขาไม่ได้สาปแช่งต่อ และวางแผนจะหยุดพักปรับปรุงกำลังสองสามเดือน

……

ภายในตำหนักใหญ่สูงตระหง่าน หญิงรับใช้กลุ่มหนึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้นตัวสั่นเทิ้ม

ตรงหน้าพวกนางมีเงาร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ ซึ่งก็คือจักรพรรดิปีศาจนั่นเอง

จักรพรรดิปีศาจสูงสิบจั้ง คลุมชุดสีแดงลายมังกร ใบหน้าเคร่งขรึม ด้านข้างของมงกุฎเทพทั้งสองด้านมีเขาอยู่ครู่หนึ่ง ด้านหลังมีพระอาทิตย์เล็กๆ เก้าดวงลอยอยู่ เปล่งประกายเจิดจ้าอย่างหาที่เปรียบมิได้

จักรพรรดิปีศาจมีสีหน้าเย็นชา สายตาเต็มไปด้วยแววสังหาร และกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม “ข้าออกไปครู่เดียว จักรพรรดินีก็แตกดับเองหรือ ช่วงระหว่างเวลานี้ไม่มีศัตรูแฝงเข้ามาจริงๆ หรือ”

“ไม่มี…สภาพของจักรพรรดินีไม่…”

หญิงรับใช้นางหนึ่งกล่าวด้วยเสียงที่สั่นสะท้าน น้ำเสียงยังไม่สิ้นสุดลง จักรพรรดิปีศาจสะบัดแขนเสื้ออย่างรุนแรง และสังหารหญิงรับใช้เหล่านี้โดยตรง

พวกนางทั้งหมดกลายเป็นเถ้าธุลี โดยไม่ทันได้ส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา!

จักรพรรดิปีศาจเปี่ยมไปด้วยไอสังหาร ทำให้ตำหนักใหญ่สั่นสะเทือน

เขางอนิ้วนับคำนวณ คำนวณไม่ได้ว่าใครเป็นคนทำให้จักรพรรดินีชิงชิวตาย

เขาคำนวณได้แค่หนังสือเล่มหนึ่ง

หนังสือลึกลับที่ไม่มีอักขระเลย

‘ยอดสมบัติ!’

มีคนใช้สมบัตินี้สาปแช่งจักรพรรดินีของเขา!

จักรพรรดิปีศาจขมวดคิ้วแน่น เขาไม่อาจคำนวณถึงเจ้าของหนังสือได้

“อย่าให้ข้าหาเจ้าพบ มิเช่นนั้นเจ้าอยากตายก็ตายไม่ได้!”

จักรพรรดิปีศาจตาเป็นประกาย เขาพูดพึมพำ คำพูดเต็มไปด้วยจิตสังหาร

……

หลังจากพักผ่อนไปครึ่งปี หานเจวี๋ยถือหนังสือแห่งความโชคร้ายและนำค่าความสัมพันธ์ออกมา เขาเริ่มคัดกรองศัตรูคนต่อไป

จักรพรรดิปีศาจอยู่เหนือจักรพรรดิเซียน ไม่อาจเสี่ยงสาปแช่งได้ ยากต่อการสาปแช่งให้ตาย ไม่แน่อาจจะถูกค้นพบด้วย

‘เช่นนั้นก็มหาจักรพรรดิอมตะก็แล้วกัน!’

ตอนแรกเจ้าหมอนี่ถูกแม่ทัพมหาเทพสังหาร แต่มีเสี้ยววิญญาณอยู่ส่วนหนึ่ง ไม่รู้ว่าหลบอยู่ที่ไหน

จำต้องรีบสังหารให้สิ้นซาก!

……………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ