ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 279

บทที่ 279 กระดานแต่งตั้งเทพ เจตนาฆ่าของจักรพรรดิปีศาจ

หลังจากไม่มีทหารสวรรค์มารายงานข่าวอีกต่อไป ไม่นานพระราชวังลอยฟ้าก็ตกอยู่ท่ามกลางความโกลาหล

มีเทพเซียนบางคนวางแผนบางอย่าง เทพเซียนบางคนถอนหายใจ และเทพเซียนบางคนสาปแช่งด้วยความโกรธ พวกเขาในขณะนี้สูญเสียความเคร่งขรึมและความสงบนิ่งของเทพเซียนไปแล้ว

“เฮอะ!”

จู่ๆ จักรพรรดิสวรรค์ก็แค่นเสียงเย็นออกมา ราวกับค้อนหนักอึ้งกระทบหัวใจของเทพเซียนทั้งหมด

เหล่าเทพเซียนทั้งหมดพากันเงียบปาก ไม่กล้าพูดอะไรอีก

ในวังสวรรค์ จักรพรรดิสวรรค์มีอานุภาพยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง!

“เทพสวรรค์จะกลับมาเร็วๆ นี้ พวกเจ้าประคองไปอีกสักระยะ ตอนนี้วังปีศาจคงกระวนกระวายใจมากกว่าพวกเรา วังสวรรค์แพ้ไม่ได้ และวังปีศาจก็แพ้ไม่ได้เช่นกัน แทนที่จะมานึกเสียใจ ไม่สู้คิดว่าจะฆ่าศัตรูอย่างไรดีกว่า!”

จักรพรรดิสวรรค์กล่าวอย่างไม่ยี่หระ

การต่อสู้ของกองกำลังหลักทั้งสี่ในอดีตล้วนดำเนินต่อไป แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน จักรพรรดิปีศาจบ้าคลั่งไปแล้ว หากวังสวรรค์พ่ายแพ้ จักรพรรดิปีศาจจะล้างวังสวรรค์ด้วยเลือดอย่างแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เป็นมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตระยะต้น!

ตี้ไท่ไป๋ถามว่า “แล้วโลกมนุษย์จะทำอย่างไร?”

“เปิดใช้งานกระดานแต่งตั้งเทพ ประกาศต่อปวงสวรรค์ และบอกมนุษย์ว่าถ้าพวกเขาสามารถบุกฝ่าจากโลกมนุษย์สู่วังสวรรค์ได้ จะสามารถเป็นเทพเซียน โลกมนุษย์สามารถต่อสู้ได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ หลอมรวมศิลามรรคาสวรรค์ของวังสวรรค์กับมรรคาสวรรค์หลัก”

จักรพรรดิสวรรค์กล่าวสั่งการ สีหน้าเคร่งขรึม

เหล่าทวยเทพต่างพากันฮือฮา

นี่จักรพรรดิสวรรค์คิดจะสู้แบบไม่สนใจทุกสิ่งอย่างแล้ว!

เหนือโลกเขย่าพิภพ ห้วงอากาศว่างเปล่า

หานเจวี๋ยมองลงไปที่โลกเขย่าพิภพ ยกแขนสองข้างขึ้น กางพลังเวทของตนออก หมายจะปิดครอบโลกเขย่าพิภพทั้งหมด

หลังจากปิดครอบแล้ว เขาอยากดูดซับโลกเขย่าพิภพทั้งหมดเข้าสู่โลกอนธการของตน

อย่างไรก็ตาม มีพลังลึกลับวูบหนึ่งที่แยกมันออก ทำให้เขาไม่สามารถลากโลกเขย่าพิภพเข้าสู่โลกอนธการของตน หรือแม้กระทั่งไม่สามารถทำให้โลกเขย่าพิภพเคลื่อนย้ายได้

มรรคาสวรรค์!

หานเจวี๋ยเก็บพลังเวทกลับมา ถอนหายใจ

ไม่ได้จริงๆ ด้วย

หากทำได้จริงๆ คงไม่มีโลกมนุษย์ถูกทำลายมากมายขนาดนั้นหรอก

หานเจวี๋ยจมสู่ภวังค์ยุ่งเหยิงอีกครั้ง แล้วควรทำอย่างไร?

สละโลกเขย่าพิภพ?

ไม่ได้!

กลับไปสาปแช่งอีกสักเที่ยว

หานเจวี๋ยหันตัวกลับมาที่ถ้ำเทวาฟ้าประทาน

เขามีอายุขัยมากกว่าเจ็ดสิบล้านล้าน สามารถลองสาปแช่งจักรพรรดิเทพอีกาทองด้วยพละกำลังทั้งหมดของเขาได้

อย่างน้อยก็ทำให้เจ้าหมอนี่ไม่สามารถมาทำอะไรเขาในช่วงเวลาสั้นๆ ได้!

หานเจวี๋ยหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาและเริ่มสาปแช่ง

สิบวันต่อมา ดวงตาสองข้างของหานเจวี๋ยเริ่มหลั่งเลือด

หนึ่งเดือนต่อมา

ทั่วหน้าของหานเจวี๋ยเต็มไปด้วยเลือด แต่เขาก็ยังไม่เห็นข่าวที่จักรพรรดิเทพอีกาทองถูกสาปสำเร็จแจ้งเตือนขึ้นมาเลย

แม่งเอ๊ย!

โหดขนาดนี้เลย?

หานเจวี๋ยไม่เคยเชื่อในความชั่วร้าย และยังคงสาปแช่งต่อไป

เขาต้องสาปแช่งให้เกิดผลลัพธ์สักอย่างให้จงได้

ผ่านไปอีกหนึ่งเดือน

มือสองข้างของหานเจวี๋ยเริ่มแตก เลือดสดไหลซิบ เขาสูญเสียอายุขัยไป สิบล้านปีแล้ว

ในที่สุด!

[จักรพรรดิเทพอีกาทองศัตรูของท่านมรรคจิตได้รับความเสียหายเพราะคำสาปของท่าน แต่โชคดีที่มีกลิ่นอายซ่อมแซม]

หานเจวี๋ยเบิกตากว้าง อยากกระอักเลือด

กลิ่นอายคือของเฮงซวยอะไร?

หานเจวี๋ยวางหนังสือเรื่องโชคร้ายลง เช็ดคราบเลือดทั่วหน้า สภาพจิตใจหดหู่สุดขีด

เขาหยิบคำสั่งป้ายมรรคาสวรรค์ออกมา ซักถามตี้ไท่ไป๋

“กลิ่นอาย? มันเป็นกลิ่นอายในตำนาน ว่ากันว่าเป็นพลังเหนือธรรมชาติที่สร้างขึ้นโดยผู้เป็นอริยะ ในโ,กนี้มีเพียงจักรพรรดิเทพอีกาทองเท่านั้นที่เข้าใจพลังเหนือธรรมชาตินี้ได้ ข้าเองก็ไม่รู้แน่ชัดนัก” ตี้ไท่ไป๋ตอบกลับ

เขากล่าวเกลี้ยกล่อมตาม “เจ้าอยากพุ่งเป้าเล่นงานจักรพรรดิเทพอีกาทองสินะ ขอแนะนำให้เจ้ายอมแพ้ซะ เขาเกือบจะไร้ศัตรูทัดเทียมในหมู่จักรพรรดิเซียน และอาจก้าวเข้าสู่ระดับเทพได้ตลอดเวลา ปัจจุบันวังสวรรค์เข้าขั้นวิกฤต เทพเซียนเตรียมพร้อมสละโลกมนุษย์แล้ว”

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว ลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ