บทที่ 280 มาเยือนยมโลก จักรพรรดิเทพโกรธจัด
ท่ามกลางห้วงอากาศว่างเปล่า เบื้องหน้าหานเจวี๋ยไม่มีสิ่งใด โลกเขย่าพิภพก็ไม่มีอยู่อีกต่อไป เพระถูกเขารับเข้าสู่โลกอนธการแล้ว
หานเจวี๋ยระบายยิ้ม
คราวนี้สามารถเผ่นหนีได้แล้ว!
เมื่อคิดถึงว่าเขาเสียอายุขัยหลายพันหมื่นปีไปกับจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุต เขาก็ไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก
รอให้เขาไปถึงเกาะสำนักซ่อนเร้นก่อน จะต้องคอยสาปแช่งจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตแน่นอน
เจ้านกเส็งเคร็ง อย่าคิดว่าจะอยู่สงบสุขอีกเลย!
หานเจวี๋ยลอบสบถด่า จากนั้นก็นั่งสมาธิบำเพ็ญตบะ
เหตุที่เขาไม่ไปยมโลกในทันที ก็เพราะรอเผ่าหงส์คุกรัตติกาล
จอมปีศาจคุกรัตติกาลกระจายข่าวไปยังเผ่าของตนแล้ว แต่หนทางยังอีกยาวไกล
ในห้วงอวกาศไม่มีไอเซียน ไม่มีพลังวิญญาณ สิ่งมีชีวิตธรรมดาไม่สามารถฝึกบำเพ็ญอยู่ที่นี่ได้
หานเจวี๋ยฝึกบำเพ็ญได้ก็เพราะโลกเขย่าพิภพอยู่ในส่วนลึกวิญญาณของเขา เขาสามารถดูดซับไอเซียนของโลกเขย่าพิภพได้โดยตรง
เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า
สี่ปีต่อมา
ในที่สุดเผ่าหงส์คุกรัตติกาลก็มาถึง
มีหงส์คุกรัตติกาลทั้งหมดเจ็ดตัว ตัวที่แข็งแกร่งที่สุดคือระดับเซียนทองไท่อี่ อีกหกตัวเป็นเซียนแท้ไท่อี่
หลังจากเห็นหานเจวี๋ยพวกเขาก็ประหม่ายิ่งนัก และกำลังจะทำความเคารพ
“ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว ไปกันก่อน!”
หานเจวี๋ยสะบัดแขนเสื้อ ใช้พลังวิเศษภูษาเอกภพหอบเอาหงส์คุกรัตติกาลทั้งเจ็ดตัวเข้าไปในแขนเสื้อ จากนั้นกระโดดตามเข้าไปในยมโลก ค้นหาตราประทับหกวิถี ไม่นานก็หาเกาะสำนักซ่อนเร้นพบ
เมื่อเข้าไปในเกาะ จอมปีศาจคุกรัตติกาลเข้ามาต้อนรับทันที
“เจ้าสำนัก…”
เขายังพูดไม่ทันจบ หานเจวี๋ยก็โบกมือปล่อยหงส์คุกรัตติกาลเจ็ดตัวออกมา
คนตระกูลเดียวกันได้พบหน้า เรียกได้ว่าน้ำตาคลอเบ้า
หานเจวี๋ยไม่ได้สนใจพวกเขา ปลีกตัวเดินออกมาคนเดียว
เขาเดินไปพลาง ถามในใจไปพลางว่า ‘ถ้าข้าย้ายเขาเพียรบำเพ็ญเซียนออกมา อาณาเขตเต๋าจะปกคลุมทั้งเกาะได้หรือไม่’
อาณาเขตเต๋าไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ มันถูกผูกติดไว้กับเขาเพียรบำเพ็ญเซียนแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะขยายอาณาเขตได้หรือไม่
[ได้]
คำคำนี้ปรากฏขึ้นตรงหน้าหานเจวี๋ย ทำให้เขาพึงพอใจในทันที
เขาสำรวจเกาะสำนักซ่อนเร้นก่อนเป็นสิ่งแรก ที่นี่ยังคงรกร้างอยู่มาก แต่ไม่มีไอหยิน คิดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับค่ายกลที่จอมปีศาจคุกรัตติกาลวางไว้
เวลาหนึ่งก้านธูปต่อมา หานเจวี๋ยย้ายเขาเพียรบำเพ็ญเซียนออกมาวางไว้ท่ามกลางกลุ่มภูเขา
เหล่าศิษย์สำนักซ่อนเร้นใต้ต้นฝูซังรู้สึกเพียงว่าท้องฟ้าพลันมืดลง จากนั้นภูเขาก็สั่นสะเทือนอยู่ครู่หนึ่ง
ตอนที่พวกเขามองเห็นหานเจวี๋ยกับจอมปีศาจคุกรัตติกาล ต่างก็พากันบินลงจากภูเขามาเดินเล่นทั่วทิศ
“ที่นี่คือยมโลกหรือ”
“มืดมิดไร้แสงตะวันจริงๆ ด้วย!”
“แล้วโลกเขย่าพิภพเล่า”
“สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ไม่ได้ออกมาด้วยหรือ”
“จากนี้ไปพวกเราก็เป็นคนของยมโลกแล้ว!”
“ฮ่าๆๆ หากจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตบุกมาอีกครั้งต้องโกรธเจียนตายแน่”
เหล่าศิษย์ตื่นเต้นกันมาก ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นครั้งแรกที่พวกเขามายังยมโลก
สิงหงเสวียน เซียนซีเสวียน และฉางเยวี่ยเอ๋อร์ที่กำลังปิดด่านฝึกฝนอยู่ก็ออกมาจากถ้ำเทวา ต่างมองไปรอบๆ ด้วยความประหลาดใจ
หานเจวี๋ยมาเบื้องหน้าต้นฝูซัง ส่งพลังจิตแทรกเข้าไปสังเกตการณ์ภายในต้นไม้
ในไม่ช้า เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าต้นฝูซังสามารถดูดซับพลังปราณในยมโลกแล้วแปลงเป็นไอเซียนได้
สมกับเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ!
คราวนี้หานเจวี๋ยโล่งอกได้อย่างสมบูรณ์ หนีห่างจากมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตได้แล้ว!
หากมีต้นฝูซังอยู่ ก็ไม่ต้องกลัวว่าไอเซียนและพลังวิญญาณของเขาเพียรบำเพ็ญเซียนจะขาดไปกลางคัน
เขาขยายอาณาเขตเต๋าออกไป ให้ปกคลุมเกาะสำนักซ่อนเร้นทั้งหมด
สิงหงเสวียนบินมาหยุดข้างกายเขา ถามด้วยความสงสัยว่า “ที่นี่คือยมโลกหรือ”
หานเจวี๋ยพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าเจ้าเผชิญกับขีดจำกัดใหญ่ในอนาคต เจ้ากลับชาติเกิดใหม่ก็สะดวก”
สิงหงเสวียน “…”
นางมองหานเจวี๋ยอย่างขุ่นเคือง แค่นเสียงฮึกล่าวว่า “แค่คุณสมบัติดียังไม่พอหรือ พวกเรามนุษย์ปุถุชนผู้ฝึกเซียนก็สามารถไปถึงปลายทางของการบำเพ็ญเพียรได้เช่นกัน!”
“อืม เจ้าตั้งใจเข้า ข้าจะรอ”
“สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์เล่า ท่านทอดทิ้งไปแล้วหรือ”
“ไม่ใช่ ทั้งโลกมนุษย์ถูกข้าซ่อนไว้ในส่วนลึกของวิญญาณ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...