บทที่ 355 มรรคาสวรรค์กลับชาติมาเกิด จดหมายประหลาด
เมื่อเห็นสีหน้าอันแข็งกร้าวของหานมิ่ง หานเจวี๋ยก็รู้สึกไขว้เขวเล็กน้อย
จะว่าไป ดูๆ แล้วเด็กนี่ก็หน้าตาคล้ายคลึงกับเขาอยู่เหมือนกัน แต่เป็นตัวเขาฉบับที่เตี้ยกว่าและไม่หล่อเหลาเท่า
ทีแรกเขาคิดว่าหานมิ่งจะเลือกอยู่ที่เกาะสำนักซ่อนเร้น แต่ไม่คิดว่าเจ้าเด็กคนนี้จะหยิ่งในศักดิ์ศรีจนถึงขั้นเลือกที่จะกลับชาติไปเกิดใหม่แทน
ในเมื่อเป็นเช่นนี้…ก็สนองตามที่เขาต้องการก็แล้วกัน!
หานเจวี๋ยกล่าว “ได้ แต่ว่าช่วงนี้วัฏจักรโกลาหลวุ่นวาย ยังไม่เหมาะแก่การกลับชาติไปเกิดใหม่ เจ้ารอไปก่อน” พูดจบ เขาก็นำดวงวิญญาณของหานมิ่งเก็บไว้ในแขนเสื้อของตน
ตั้งแต่ต้นจนจบ ความประทับใจที่หานมิ่งมีต่อเขาไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะไม่ได้เกลียดหานเจวี๋ย เพียงแต่ไม่ค่อยเชื่อฟังก็เท่านั้น นั่นทำให้หานเจวี๋ยมองเขาให้แง่ดีขึ้นเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้หานเจวี๋ยมักจะระแวดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เขารู้สึกว่าหานมิ่งพยายามจะผูกสัมพันธ์กับเขา หรือแม้กระทั่งสร้างความเดือดร้อนให้กับเขาเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เมื่ออยู่ๆ หานมิ่งก็เกิดความประทับใจในตัวเขาขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล เขาก็ยิ่งปักใจเชื่อเรื่องนี้
ตอนนี้กลับทำตัวเองขายหน้าเสียแล้ว
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จู่ๆ หานเจวี๋ยก็นึกถึงโจวฝานขึ้นมา เขาถูกพี่ชายผู้ทรงพลังช่วยชีวิต และถูกเข้าใจผิดคิดว่าตนเองอยากยกตนเสมอพี่ชายผู้ทรงพลัง จนเลือกว่าจะกลับชาติไปเกิดใหม่อย่างแน่วแน่…
หืม? ทำไมถึงได้ฟังดูเหมือนเรื่องของตัวเอกที่เป็นจอมยุทธ์ในเรื่องแฟนตาซีขนาดนี้กัน หานเจวี๋ยไม่อยากมีชีวิตที่ผกผันและไม่แน่ไม่นอนใดๆ ทั้งนั้น
หานเจวี๋ยไม่คิดฟุ้งซ่านอีก เขาหยิบป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมาเพื่อติดต่อกับจักรพรรดิสวรรค์
จักรพรรดิสวรรค์เชื่อมต่อจิตกับเขาอย่างรวดเร็ว
“มีอะไรหรือ”
“ยมโลกเกิดความโกลาหล ข้าต้องการให้คนคนหนึ่งกลับชาติมาไปเกิดใหม่ วังสวรรค์มีวิธีบ้างหรือไม่”
“ใช่ว่าไม่มีวิธี เพียงแต่คนผู้นี้เป็นใครกัน”
หานเจวี๋ยก็ไม่ได้หมกเม็ด เขาเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของตนและหานมิ่ง รวมถึงแผนการของจักรพรรดิเซียนด้วย
จักรพรรดิสวรรค์กล่าวชื่นชม “ไม่ยอมให้ความสัมพันธ์ทางสายเลือดที่ไม่ต้องการมาฉุดรั้ง เรามองเจ้าไม่ผิดจริงๆ”
ในความคิดของเขา ความเป็นครอบครัวของมนุษย์ไม่มีค่าใดให้พูดถึง นับประสาอะไรกับพี่น้องที่ไม่เคยมีความรู้สึกผูกพันธ์กันเลยมาตั้งแต่ต้น
“เราจะช่วยเจ้าเอง”
“ขอบพระทัย เอ่อ…ให้เขาไปเกิดในภพภูมิที่ดีเถิด ข้าชื่นชมจิตใจของเขามากทีเดียว”
“ฮ่าๆๆ วางใจเถิด เรามีแผนอยู่แล้ว อันที่จริงไม่จำเป็นต้องตัดความสัมพันธ์ของพวกเจ้าก็ได้ เพียงแค่ซ่อนเอาไว้ก็พอ บนเส้นทางแห่งการฝึกบำเพ็ญนี้ มีคนคอยช่วยเหลือย่อมดีที่สุด บางทีในอนาคตเขาอาจจะช่วยชีวิตเจ้าไว้ก็เป็นได้”
“ข้าไม่ขอให้ตัวเองประสบกับวันนั้น เพราะนั่นหมายความว่าข้ายังไม่แข็งแกร่งพอ”
“ไม่เอาน่า ทีเมื่อก่อนตอนมาขอความช่วยเหลือจากเราทำไมไม่คิดเช่นนี้บ้างล่ะ”
“อะแฮ่ม”
หานเจวี๋ยแสร้งกระแอมไอหนึ่งที แล้วจึงพูดต่ออย่างหน้าด้านหน้าทน ไม่รู้จักอายว่า “ฝ่าบาททรงช่วยเหลือข้า ข้าก็จะช่วยเหลืออนาคตของวังสวรรค์”
จักรพรรดิสวรรค์พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “พอได้แล้ว ส่งดวงวิญญาณของเด็กคนนั้นมาให้ข้าเสีย”
“โดยใช้ป้ายคำสั่งนี้หรือ”
“ใช่ เจ้าอยู่ในระดับเทพแล้ว สามารถใช้จิตนึกคิดปกป้องดวงวิญญาณของเขาและส่งมาได้ แม้ว่ากระบวนการนี้จะลำบากสำหรับเขาสักหน่อย แต่เจ้ากลัวการมาเยือนแดนเซียนมิใช่หรือ”
“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเอ่ยเตือนข้า!”
“เจ้าไม่แก้ต่างเสียด้วย ก็ได้ เรามองเจ้าไม่ผิดจริงๆ”
หานเจวี๋ยยิ้มเผล่ เขาห่อหุ้มดวงวิญญาณของหานมิ่งด้วยจิตนึกคิด และส่งเข้าไปในป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ จากนั้นเขารู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่นำดวงวิญญาณของหานมิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จู่ๆ หานเจวี๋ยก็เกิดความรู้สึกโศกเศร้าเล็กๆ ขึ้นในใจโดยไม่มีสาเหตุ ในหัวของเขานึกย้อนไปถึงสีหน้าของหานมิ่งในตอนที่ตัดสินใจเมื่อครู่อย่างอดไม่ได้
‘นี่ข้าทำผิดไปหรือเปล่า ข้าไม่ผิด! ใครหน้าไหนก็อย่าหวังจะก่อกวนมรรคจิตของข้า!’
หานเจวี๋ยดวงตาแน่วแน่ จากนั้นจึงเอ่ยว่า “ฝ่าบาท ขอให้เขาได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี ขออย่าให้เขาต้องประสบพบเจอกับการถูกทอดทิ้งจะดีที่สุด”
ความหมายโดยนัยคืออย่าส่งไปอยู่ในกลุ่มอิทธิพลอันยิ่งใหญ่ที่กำลังจะแตกสลาย ในสถานการณ์เช่นนี้ แม้พื้นฐานทางครอบครัวจะดีเยี่ยม แต่โชคชะตาอาจจะย่อยยับได้
“เราเข้าใจ” จักรพรรดิสวรรค์ตอบ
ทั้งคู่ตัดการเชื่อมต่อของจิตนึกคิดอย่างรวดเร็ว
หานเจวี๋ยหลับตา และฝึกบำเพ็ญต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...