บทที่ 444 ชะตากรรมอันน่าเศร้า ความประทับใจของปรมาจารย์
เมื่อฟังหานเจวี๋ยแล้ว ซูฉีก็พยักหน้าเป็นการตอบรับ
เขารู้สึกถึงความผิดปกติตั้งแต่ที่ครอบครองพลังวิเศษทลายมรรคาแล้ว
เหตุใดอริยะถึงต้องมอบพลังวิเศษสุดอันตรายเช่นนี้ให้กับเขาด้วย ต้องเป็นการหลอกใช้เขาอย่างแน่นอน!
เป็นไปไม่ได้ที่จะถ่ายทอดให้กับเขา โดยไม่ให้เขาใช้งาน!
หานเจวี๋ยเอ่ยถาม “ตอนนี้เจ้าอยากกลับมาหรือไม่”
หากซูฉียินดีกลับมา เขาก็พร้อมที่จะไปรับตัวอีกฝ่ายทันที ต่อให้ต้องผิดใจกับอริยะก็ช่างประไร อย่างไรเสียอริยะก็ค้นหาอาณาเขตเต๋าของเขาไม่เจอ
ซูฉีนิ่งเงียบ
หานเจวี๋ยเห็นว่าอีกฝ่ายไม่พูดไม่จา ก็คันปากอยากด่าคนสักที
‘คนพวกนี้เป็นอะไรไปกันหมดนะ รู้ทั้งรู้ว่าอาจจะตายอย่างทรมานก็ได้ แต่ก็ยังดึงดันจะสู้จนตัวตายอีก!’
หานเจวี๋ยถึงขั้นสงสัยว่าพวกเขาถูกมหาเคราะห์เปลี่ยนใจไปเสียแล้ว
ซูฉีถอนหายใจและกล่าว “อาจารย์ ข้ามีเป้าหมายของตนเอง มิได้ถูกชักนำแต่อย่างใด ที่ข้าหวนคืนสู่แดนเซียนในครั้งนี้ ก็เพื่อชำระล้างโชคชะตาของข้าด้วยแรงกุศลแห่งมรรคาสวรรค์ ข้าไม่อยากเป็นเทพแห่งความโชคร้าย หากข้ากลับไปกับท่าน แต่ไม่ต้องการให้กระทบต่อสหายร่วมสำนัก ข้าก็ต้องถูกค่ายกลสะกดเอาไว้ ข้าไม่อยากใช้ชีวิตเช่นนั้น”
หานเจวี๋ยตกสู่ความเงียบงันเช่นกัน
นี่คือเรื่องจริง หากเขาเป็นซูฉี ก็ไม่อยากเป็นเช่นนั้น
หานเจวี๋ยเมื่อครั้งเยาว์วัยก็เคยสุ่มได้ดวงชะตาแต่กำเนิดที่เหมาะสม แต่กลับถูกเขามองข้ามไป
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็สุดแล้วแต่เจ้าเถิด”
“แต่หากเจ้าตาย เจ้าจะเสียใจหรือไม่” หานเจวี๋ยถามด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงเป็นกันเอง
ซูฉีเองก็ระบายยิ้มออกมาเช่นกัน ไม่รู้สึกกดดันเช่นก่อนหน้านี้ รู้สึกราวกับได้ยกภูเขาออกจากอก
เขายิ้มและกล่าวว่า “เรื่องเสียใจมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่ไม่ต้องลำบากอาจารย์หรอกขอรับ ข้าทำใจไว้บ้างตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว ตายก็ไม่เสียดายอะไร เพียงแต่ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้ตอบแทนบุญคุณของอาจารย์อีกต่อไป”
เมื่อนึกย้อนกลับไปในอดีต ซูฉีก็พลันบังเกิดความรู้สึกหลากหลายผสมปนเปกันไป
หากเขาไม่ได้เจอกับหานเจวี๋ย เกรงว่าเขาอาจจะยังล่องลอยอยู่ในวัฏสงสาร
บางทีอาจจะตายในมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
อาจารย์และศิษย์พูดคุยกันอีกสักพัก และแล้วแดนความฝันก็สิ้นสุดลง
ก่อนที่แดนความฝันจะสลายไป ซูฉีส่งยิ้มน้อยๆ ให้กับหานเจวี๋ย
เมื่อกลับมาที่ถ้ำเทวาฟ้าประทาน
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น นัยน์ตาฉายแววเย็นชา
ยิ่งซูฉีเปิดใจกับเขามากขึ้นเท่าไร เขาก็ยิ่งปวดใจมากขึ้นเท่านั้น
แม้ว่าความรู้สึกปวดใจนี้จะไม่ถึงขั้นที่ทำให้หานเจวี๋ยขาดสติ หากแต่ก็ทำให้หานเจวี๋ยเดือดดาลได้พอสมควร
พูดกันตามตรง ซูฉีเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด
เพราะความโชคร้าย กำหนดให้ทุกคนที่เขาพบพานจำต้องเผชิญกับเคราะห์ร้าย และตัวเขาเองก็ต้องแบกรับความรู้สึกผิดบาปชั่วนิจนิรันดร์ เป็นเช่นนี้ไปจนกว่าจะถูกมรรคาสวรรค์ลงทัณฑ์
ตั้งแต่เกิดมา เขาก็ถูกกำหนดให้ถูกลงทัณฑ์ ไม่ว่าจะขัดขืนเพียงไร ก็เปล่าประโยชน์
ซูฉีคิดว่าหานเจวี๋ยเป็นคนที่ดีกับเขา แต่หานเจวี๋ยเองรู้ดีว่าที่เขาทำดีกับซูฉีนั้น ความจริงแล้วเป็นเพียงเรื่องหลอกลวง เริ่มแรกเขากีดกันซูฉีอย่างถึงที่สุด หรือแม้กระทั่งหลอกใช้ซูฉีด้วยซ้ำ
ซูฉีกำจัดศัตรูให้กับเขามากมาย เป็นเวลากว่าเจ็ดพันปี
จักรพรรดิสวรรค์อุทิศตนให้เขาได้อย่างไม่มีข้อกังขา ซูฉีเองก็เช่นกัน
ในสำนักซ่อนเร้นทั้งหมด นอกจากสิงหงเสวียนแล้ว ก็มีเพียงซูฉีเท่านั้นที่อุทิศตนให้กับหานเจวี๋ยมากที่สุด
‘เอาเถอะ หากช่วยได้ก็ช่วยไป หากช่วยไม่ได้ ข้าจะจดจำเจ้าไว้ในความทรงจำในฐานะอาจารย์ก็แล้วกัน’
หานเจวี๋ยคิดอย่างแน่วแน่ และในไม่ช้าความรู้สึกนี้ก็มลายหายไป
เขาถามขึ้นในใจ ‘ข้าอยากรู้จุดจบของซูฉีในมหาเคราะห์ครั้งนี้’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งพันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการ!
จากนั้นหานเจวี๋ยก็เข้าสู่ภาพลวงตาวิวัฒนาการ
เขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง หานเจวี๋ยมาอยู่ท่ามกลางทะเลทรายแห้งแล้งแห่งหนึ่ง ผืนทรายกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ไอโลหิตคละคลุ้งปกคลุมท้องฟ้า
มองแค่ปราดเดียว ก็เห็นเพียงความเวิ้งว้างกันดาร โดดเดี่ยว สิ้นหวัง
สายตาของหานเจวี๋ยจับจ้องไปยังร่างร่างหนึ่งอย่างรวดเร็ว
ซูฉี
เขาคุกเข่าอยู่บนเนินทราย ช่วงไหล่และแขนซ้ายของเขาหายไป อีกทั้งยังมีกลิ่นอายพลังสีดำทะมึนโอบล้อมอยู่บริเวณบาดแผล
เรือนผมของเขากระเซอะกระเซิง ดวงหน้าอาบโลหิต แววตาว่างเปล่า
หานเจวี๋ยสังเกตเห็นว่าร่างของเขากำลังกลายเป็นหิน เพลิงโทสะพลันดับมอดลงอย่างรวดเร็ว
หานเจวี๋ยขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นภาพนี้
‘ซูฉีกำลังจะตายอย่างนั้นหรือ’
ในตอนนี้เอง เหนือศีรษะของซูฉีก็ปรากฏกลิ่นอายพลังสีขาวดำขึ้น หมุนวนเป็นคลื่นวน และร่างของคนผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวออกมา นั่นคืออริยะมิ่งจี
อริยะมิ่งจีปรายตามองซูฉีจากที่สูง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...