ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 52

บทที่ 52 รองเท้าวิเศษเก้าดารา สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น
หวงจุนเทียนผู้นำลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณและนักพรตเต๋าอาวุโสซั่นขุยเดินทางไปยังสำนักหยกพิสุทธิ์ แต่ผลสุดท้ายไร้ข่าวคราว เงียบหายหลายขวบปี

ลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณที่ถูกล้อมโจมตีจากสำนักหยกพิสุทธิ์และสำนักกระบี่วิหคชาดเริ่มเกิดความหวาดประหวั่น

โดยเฉพาะระดับผู้อาวุโส

ด้วยความสามารถของพวกหวงจุนเทียนควรจะกลับมาตั้งนานแล้ว เหตุใดถึงกินเวลาเนิ่นนานเพียงนี้

หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?

พวกเขาเริ่มนึกถึงความกังวลใจของหวงจุนเทียน หวาดกลัวขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

เช่นนั้นพวกเขาจึงออกคำสั่ง ให้ศิษย์ทั้งหมดที่อยู่ด้านนอกรีบกลับลัทธิโดยเร็ว พร้อมกับป้องกันการรุกล้ำของสำนักหยกพิสุทธิ์และสำนักวิหคชาด

การต่อกรกับทั้งสองสำนักก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย ใช้เพียงกองกำลังผู้บำเพ็ญในลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณต้านทานก็เพียงพอแล้ว

แต่ยามนี้พวกเขารู้สึกกลัวขึ้นมาแล้ว

กลัวการปรากฏตัวของศัตรูที่ลึกลับและทรงพลัง

การต่อสู้ดำเนินมาอย่างยาวนาน สำนักหยกพิสุทธิ์และสำนักกระบี่วิหคชาดได้รับการอ้อนวอนและข้อเสนอจากลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณ โดยลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณจะยอมปล่อยเชลยของทั้งสองสำนักทั้งหมด ซึ่งรวมถึงหวงจี๋เฮ่า เพราะเหตุนี้สำนักหยกพิสุทธิ์และสำนักกระบี่วิหคชาดจึงยอมร่นถอย กลับสำนักของตนเอง

ต่อสู้ยาวนานหลายปีเช่นนี้ แน่นอนก็ต้องเหนื่อยอยู่แล้ว

……

นับตั้งแต่ที่หวงจุนเทียนแพ้พ่าย วันเวลาได้ล่วงเลยไปห้าปี

หานเจวี๋ยพึ่งพาโอสถ ทะลวงไปถึงระดับเปลี่ยนวิญญาณขั้นสามอย่างรวดเร็ว

โอสถของเขาก็ใช้หมดไปแล้ว

ไม่มีโอสถสำหรับการฝึกบำเพ็ญระดับเปลี่ยนวิญญาณ เขาพบว่าพลังวิญญาณในถ้ำเทวาฟ้าประทานสำหรับเขากลับค่อนข้างบางเบาอยู่บ้าง

หากฝึกบำเพ็ญต่อไปเช่นนี้ อยากจะทะลวงถึงระดับสุญตา ต้องใช้เวลากี่ปีกัน

แม้วิชายุทธิ์จะแข็งแกร่งมากกว่านี้ก็ต้องอาศัยพลังวิญญาณฟ้าดินรอบกายด้วย

ขณะที่หานเจวี๋ยกำลังกลัดกลุ้มอยู่นั้นเอง ทันใดนั้นหยางเทียนตงก็กลับมา

หลังจากเข้ามาในถ้ำเทวา เขากระโจนเข้ามาตรงหน้าหานเจวี๋ย เริ่มร้องไห้คร่ำครวญ

“ท่านอาจารย์! อดทนมาหลายปีเพียงนี้ ในที่สุดข้าก็ได้พบกับท่าน!”

“ท่านรู้หรือไม่ หลายปีมานี้ศิษย์ได้รับความทุกข์ทรมานเพียงใด!”

“ข้าเชื่อมาตลอดว่าท่านอาจารย์จะต้องมาช่วยข้ามา เจ้าสำนักก็บอกกับข้าหมดแล้ว หากไม่ใช่เพราะมีท่านปกป้องอยู่ที่สำนักหยกพิสุทธิ์ เขาก็ไม่กล้าวางใจไปช่วยพวกเราออกมา!”

หยางเทียนตงร้องไห้คร่ำครวญราวฟ้าถล่มดินทลาย ด้วยความโศกเศร้าดีใจระคนกัน

ไก่คุกรัตติกาลเอียงคอ กะพริบตาจ้องมองคนแปลกหน้าผู้นี้

หานเจวี๋ยฟังจนรู้สึกละอายใจ

เหตุผลหลักๆ ที่เขาไม่ไปช่วยหยางเทียนตงนั่นเป็นเพราะเขากลัว

หานเจวี๋ยเอ่ยปากกล่าวขึ้นว่า “ศิษย์เอ๋ย เจ้าทำได้ดีมาก ต่อจากนี้อาจารย์จะถ่ายทอดวิชาเวทให้เจ้า”

[ความประทับใจที่หยางเทียนตงมีต่อท่านเพิ่มขึ้น ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 5 ดาว]

หยางเทียนตงซาบซึ้งจนน้ำตาไหลพราก ก้มลงคำนับไม่หยุด

หลังจากนั้นหานเจวี๋ยแนะนำไก่คุกรัตติกาลให้กับหยางเทียนตงได้รู้จัก

หยางเทียนตงเห็นไก่คุกรัตติกาลตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่เขาไม่ทันได้เอ่ยถาม

“เจ้าคือศิษย์ของนายท่านสินะ ต่อไปนี้เรียกข้าว่าพี่ไก่ก็พอ” ไก่คุกรัตติกาลเอ่ยปากขึ้น

พี่ไก่?

หานเจวี๋ยหมดวาจา

หยางเทียนเองก็ตะลึงงัน

ไก่คุกรัตติกาลแค่นเสียงกล่าว “แต่ข้าก็เป็นถึงหงส์ อีกไม่ช้าไม่นานข้าจะพานายท่านโบยบินไปถึงสวรรค์ชั้นฟ้า!”

ไม่รู้ว่าเพราเหตุใด เพียงได้เห็นหยางเทียนตง มันก็รู้สึกถึงความประสงค์ร้ายอย่างไม่ทราบสาเหตุ

มันไม่ชอบกลิ่นอายพลังของหยางเทียนตงเลย

เป็นครั้งแรกที่หยางเทียนตงเห็นไก่ที่ตัวใหญ่เช่นนี้ จึงรู้สึกร้อนรนอยู่บ้าง แต่เกรงว่าหากกล่าวผิดไปจะล่วงเกินหานเจวี๋ยเข้า

“เอาเถิด เจ้าไปฝึกบำเพ็ญด้านข้าง อีกไม่กี่วันข้าจะถ่ายทอดวิชาเวทให้เจ้า” หานเจวี๋ยกล่าวกับหยางเทียนตง

ได้ยินแล้ว หยางเทียนตงก็รู้สึกประหลาดใจ พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ก่อนรีบร้อนเดินไปนั่งขัดสมาธิลงฝึกบำเพ็ญที่ด้านข้าง

หานเจวี๋ยเองก็เริ่มฝึกบำเพ็ญต่อ

ดูเหมือนว่า พวกหลี่ชิงจื่อก็กลับมาแล้ว

เป็นอย่างที่คิดไว้

เที่ยงตรงของวันต่อมา หลี่ชิงจื่อก็เข้ามาเยี่ยมเยือน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ