บทที่ 534 จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ สมญาไร้พ่าย
หานเจวี๋ยเงียบไป
เมื่อฟังหลี่มู่อีจบ ปฏิกิริยาแรกของเขาคือตาเฒ่าคนนี้เป็นอะไรไป
อาศัยอะไรมาคิดว่าหานเจวี๋ยจะช่วยเขา
หลี่มู่อีคล้ายจะมองความคิดของหานเจวี๋ยออก กล่าวว่า “หากเจ้าช่วยข้า นับจากนี้ไป หากอริยะวางแผนปองร้ายเจ้า ข้าจะยืนหยัดเกื้อหนุนเจ้า และจะแนะนำเจ้าต่ออดีตบรรพชนแห่งนิกายเหริน วันหน้าหากมีโอกาสสามารถไปสดับธรรมได้”
เจ้าแม่หนี่ว์วาก้าวข้ามรรคาสวรรค์ไปได้ ตอนแรกหานเจวี๋ยยังสงสัยอยู่ว่าอริยะในอดีตเหล่านั้นบรรลุระดับที่สูงขึ้นไปแล้ว นิกายเหรินในฐานะสำนักดวงชะตาแห่งแรก รากฐานภูมิหลังย่อมลึกล้ำเกินหยั่งแน่นอน
เพียงแต่เท่านี้ไม่เพียงพอจะทำให้หานเจวี๋ยหวั่นไหวได้
อย่างไรก็เสี่ยงภัยอยู่ดี!
หานเจวี๋ยกล่าวสั้นๆ “ข้าจะพิจารณาดู”
หลี่มู่อีขมวดคิ้ว ตามความเข้าใจที่เขามีต่อเจ้าหนุ่มคนนี้ พิจารณาแปลว่าปฏิเสธ
เขาซักถามต่อ “เจ้าต้องการสิ่งใด พูดมาได้เลย”
หานเจวี๋ยกล่าวว่า “มิใช่ว่าต้องการสิ่งใด ข้าเพิ่งพิสูจน์มรรคได้ไม่นาน จะให้ไปจัดการศัตรูที่แม้แต่เจ้าก็สู้ไม่ได้ ซ้ำข้ายังต้องป้องกันบรรดาศิษย์น้องของเจ้าที่อาจมาโจมตีอาณาเขตเต๋าของข้าได้ทุกเมื่ออีก เป็นการฝืนสร้างความลำบากใจให้ผู้อื่น”
หลี่มู่อีได้ฟังประโยคนี้ก็รู้สึกละอาย
บรรยากาศแปรเปลี่ยนเป็นเงียบวังเวง
หลี่มู่อีมีคำพูดนับพันอยู่ในใจ ทว่าพูดไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “ให้ข้าคิดดูหน่อยเถอะ เรื่องนี้สำคัญมาก หากเปลี่ยนเป็นเจ้า ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะตอบรับทันทีกระมัง”
“ตกลง”
หลี่มู่อีเอ่ยอย่างหมดหนทาง
แดนความฝันสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้
จิตรับรู้หานเจวี๋ยกลับสู่ความเป็นจริง เขาเริ่มวิวัฒนาการดู ‘ข้าอยากรู้ว่าศัตรูที่หลี่มู่อีพูดถึงคือผู้ใด’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งหมื่นล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
เงาร่างหนึ่งผุดขึ้นมาในสมองของหานเจวี๋ย คนผู้นี้สวมชุดนักพรตเต๋าสีดำ แขนเสื้อกว้างปลิวไสว ผมยาวดั่งม่านน้ำตก มีดวงตาข้างหนึ่งตั้งเป็นแนวดิ่งอยู่กลางหว่างคิ้ว
[จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ: ไม่ทราบตบะ เทพมารฟ้าบุพกาล]
เทพมารฟ้าบุพกาล!
เชื่อเขาเลย!
หาเรื่องไม่ได้!
ไม่ทราบตบะ แปลว่าอย่างน้อยๆ ก็อยู่ในระดับที่สูงกว่าหานเจวี๋ย
หานเจวี๋ยอาจจะเอาชนะอีกฝ่ายได้ แต่อีกฝ่ายก็อาจฆ่าเขาได้เช่นกัน
ถ้าไม่สามารถสังหารในเสี้ยววินาทีได้ ก็ห้ามตั้งตัวเป็นศัตรู
หานเจวี๋ยปล่อยเรื่องนี้ไว้ชั่วคราวก่อน
‘วันหน้าหากส่งเหล่าศิษย์ออกไป ต้องไม่ส่งไปที่โลกพันอนันต์ของหลี่มู่อีเด็ดขาด’
หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ หากต่อไปหลี่มู่อีมาขอเข้าฝันอีก เขาจะทำเมินไปเสีย
เขาไม่กลัวที่จะล่วงเกินหลี่มู่อี หากจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการประสบความสำเร็จ มรรควิถีของหลี่มู่อีต้องลดฮวบเป็นแน่ ถึงขั้นที่อาจได้รับความเสียหายอย่างหนัก หรืออาจกลายเป็นอริยะที่อ่อนแอที่สุดไปเลย
อริยะที่พึ่งพาดวงชะตามรรคาสวรรค์เหล่านี้ รากฐานไม่มั่นคงเลย
ไม่ควรค่าให้กริ่งเกรง!
….
วันเวลาผันผ่าน
จู่ๆ มีข่าวหนึ่งแพร่ไปทั่วแดนเซียน สะท้านฟ้าสะเทือนดิน
วังสวรรค์มีชัยเหนือเผ่ามังกร นับจากนี้เผ่ามังกรจะตกเป็นบริวารของวังสวรรค์ เผ่ามังกรในที่นี้ได้รวมเผ่ามังกรแท้รวมถึงเผ่าพันธุ์มังกรอื่นๆ ไว้ด้วย
หลังจากมรรคาสวรรค์เริ่มต้นขึ้นใหม่ เผ่ามังกรเผยตัวผงาดขึ้นมา อาศัยว่ามีคุณสมบัติด้านกายภาพแกร่งกล้าทำตัวเกะกะระราน วางอำนาจอย่างยิ่ง
การก้มหัวศิโรราบของเผ่ามังกรทำให้สรรพสิ่งจับตามองวังสวรรค์ เทพเซียนแต่ดั้งเดิม!
ขณะที่สรรพสิ่งตื่นตะลึงกับการลงมือครั้งใหญ่ของวังสวรรค์ ทางเขตเซียนร้อยคีรีที่ตัดขาดกับโลกภายนอกกลับไร้ซึ่งคลื่นลม เงียบสงบเสมอมา
พริบตาเดียว เวลาผ่านไปอีกห้าร้อยปี
หานเจวี๋ยเพิ่งสิ้นสุดการแสดงธรรม เขาถ่ายทอดวิชาอัญเชิญเทพให้สิ่งมีชีวิตนับล้านในสำนักซ่อนเร้น ประกาศว่าพลังวิเศษนี้เป็นวิชาลับ ห้ามใช้ส่งเดช หากสถานการณ์ปกติแล้วใช้มั่วซั่ว จะเผชิญผลสะท้อนกลับ
สำหรับคำพูดของหานเจวี๋ย ศิษย์ทั้งหมดต่างเชื่อถืออย่างไม่มีข้อแม้
ในหมู่ศิษย์สืบทอดก็มีศิษย์น้อยคนนักที่เคยใช้วิชาอัญเชิญเทพ ดังนั้นศิษย์ส่วนใหญ่จึงมีความยำเกรงต่อวิชาอัญเชิญเทพ
หานเจวี๋ยเดินมาหยุดหน้าต้นฝูซัง ให้ต้นฝูซังเปิดวังวนมิตินับร้อย
เขาใช้จิตรับรู้กวาดผ่าน ห้วงมิติเหล่านี้อ่อนแอยิ่ง ส่วนที่อ่อนแอที่สุดคือโลกพันอนันต์ของหลี่มู่อี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...