บทที่ 545 เมืองฟ้าบุพกาล ตี้จวิน
ทำให้ทั้งแดนเซียนตกเป็นทาส คิดๆ แล้วช่างน่าอภิรมย์ยิ่ง
แต่แค่บรรพจารย์ซานชิงก็ทำเขาเสียเวลาไปแปดร้อยปีแล้ว แดนเซียนมีผู้บำเพ็ญมากมายเพียงใดกันเล่า
อีกอย่าง ต่อให้สยบทั้งแดนเซียนให้เป็นทาสได้ แล้วจะมีประโยชน์ต่อหานเจวี๋ยสักเท่าไรกันเชียว
ตอนนี้ ถึงทั้งแดนเซียนจะมาปิดล้อมโจมตี เขาก็สามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน เหตุใดต้องทำให้การบำเพ็ญล่าช้าเพราะเรื่องนี้ด้วยเล่า
บรรพจารย์ซานชิงอยู่ด้านข้าง หานเจวี๋ยก็ไม่อาจสงบใจบำเพ็ญได้
คิดไปคิดมา หานเจวี๋ยลุกขึ้นยืน
‘เอาตามนี้แล้วกัน ใช้คุกสวรรค์อนธการให้น้อยหน่อย ยิ่งใช้มากเท่าไร ก็ยิ่งเผยไต๋ได้ง่ายๆ ต้องใช้อย่างมีชั้นเชิง’
หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ ระบบก็มีขีดจำกัดเช่นกัน หากว่าเผชิญกับตัวตนแข็งแกร่งที่เหนือกว่าระบบ มองระบบอย่างทะลุปรุโปร่งได้ในคราเดียว เช่นนั้นคงไม่ดีแน่
หานเจวี๋ยยืดเส้นยืดสาย เดินออกมาจากอารามเต๋า เรียกศิษย์ทั้งหมดมารวมตัว เตรียมแสดงธรรม
นี่เป็นการแสดงธรรมครั้งแรกของหานเจวี๋ย หลังจากมหันตภัยมารสวรรค์สิ้นสุดลง
เหล่าศิษย์นับล้านล้วนตื่นเต้นยิ่ง เคยได้ยินสิ่งมีชีวิตในละแวกเขตเซียนร้อยคีรียกย่องเทิดทูนหานเจวี๋ย ทำให้พวกเขาเกิดอยากพบหานเจวี๋ยขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าในช่วงหลายปีมานี้ แม้แต่ศิษย์สืบทอดหรือผู้พิทักษ์ต่างก็ไม่มีใครได้พบหานเจวี๋ยทั้งสิ้น
สถานที่แสดงธรรมยังคงเป็นที่เดิม หานเจวี๋ยนั่งบนยอดเขาสูง รออยู่สักพักถึงได้เริ่มแสดงธรรม
ศิษย์นับล้านเข้าสู่สมาธิอย่างรวดเร็ว เริ่มตระหนักมรรค
….
แสดงธรรมหนึ่งร้อยปี วสันต์และสารทฤดูสับเปลี่ยนหมุนเวียน โลกมนุษย์เปิดฉากขึ้นใหม่อีกครั้ง
หลังสิ้นสุดการแสดงธรรม หานเจวี๋ยเดินมาหยุดหน้าต้นฝูซัง
เขาให้ต้นฝูซังเปิดวังวนมิติของโลกพันอนันต์ เขาส่งจิตศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในโลกพันอนันต์
โลกพันอนันต์ไม่ได้เผชิญกับการโจมตีจากมารสวรรค์ แต่ถูกสิ่งอัปมงคลเข้ารุกราน
เนื่องจากผสานรวมกับดวงจิตประหลาด หานเจวี๋ยจึงมองเห็นสิ่งอัปมงคล ทุกหนทุกแห่งทั่วโลกพันอนันต์ล้วนเต็มไปด้วยสิ่งอัปมงคล มากมายนับไม่ถ้วน ราวกับฉากเทพมารของแดนเซียนในอดีต อย่างไรก็ตามฝูงชนมองไม่เห็นสิ่งอัปมงคล ตายโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว ทำให้โลกพันอนันต์ตกอยู่ในความหวาดผวาและสิ้นหวังยิ่งกว่าสรรพสิ่งในแดนเซียนก่อนหน้านี้
หลี่มู่อีกำลังต่อสู้กับตัวตนลึกลับตนหนึ่งในโลกพันอนันต์
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ!
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการผู้นี้ไม่ด้อยไปกว่ามารมรรคาสวรรค์เลย!
แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่ามารมรรคาสวรรค์สักเท่าไร
หานเจวี๋ยไม่มีความคิดจะให้ความช่วยเหลือหลี่มู่อี ปล่อยให้พวกเขาสู้กันต่อไป
จากนั้น เขาไปสอดส่องดินแดนที่ศิษย์ในนามหนึ่งพันคนอาศัยอยู่ นับว่าสงบสุขดี ไม่มีมารสวรรค์ ไม่มีสิ่งอัปมงคล ก่อตัวเป็นโลกใบหนึ่ง พัฒนาไปอย่างมั่นคง
จักรพรรดิเซียนหนึ่งพันคน สูญเสียไปบ้างจำนวนหนึ่ง ก็ถือเป็นเรื่องปกติ จะไม่มีอันตรายเลยได้อย่างไร
หานเจวี๋ยมองอยู่พักหนึ่ง ก็หันหลังเตรียมจากไป
ในเวลานี้เอง จู่ๆ ไก่คุกรัตติกาลก็โผล่ขึ้นตรงหน้าหานเจวี๋ย
มันหัวเราะแหะๆ เอ่ยว่า “นายท่าน ข้าไม่ได้พบท่านนานมากแล้ว มิใช่ว่า…”
หานเจวี๋ยเอ่ยสั้นๆ “ตามข้าเข้าไปในอาราม”
ไก่คุกรัตติกาลพลันตื่นเต้นขึ้นมา
หนึ่งคนหนึ่งไก่เดินกลับไปที่อารามเต๋า
ไก่คุกรัตติกาลอยากให้หานเจวี๋ยถ่ายทอดพลังวิเศษมรรคกระบี่ให้ สำหรับเรื่องนี้ หานเจวี๋ยไม่ได้ปฏิเสธ ถึงขั้นที่ค่อนข้างปลื้มใจเสียด้วยซ้ำ
สำหรับไก่คุกรัตติกาล หานเจวี๋ยรู้สึกสนิทชิดเชื้อมากที่สุด ใกล้ชิดยิ่งกว่าบุตรชาย คู่บำเพ็ญเพียรหรือลูกศิษย์
ไก่คุกรัตติกาลอยู่กับเขามาตลอด ถึงแม้จะไร้ยางอายยิ่งนัก แต่มันคอยช่วยศิษย์ใหม่ปรับตัวอยู่เสมอ สลายช่องว่างและความแตกแยกระหว่างเหล่าศิษย์ได้อย่างรวดเร็ว
จนปัญญาที่ถึงแม้ปกติไก่คุกรัตติกาลจะฝึกบำเพ็ญ แต่ความคิดที่อยากแข็งแกร่งขึ้นกลับอ่อนด้อยนัก
หานเจวี๋ยถ่ายทอดพลังวิเศษมรรคกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดของตนให้ไก่คุกรัตติกาล
หมื่นกระบี่ก่อกำเนิด!
พลังวิเศษมหามรรค!
ห้าปีผ่านไป
ไก่คุกรัตติกาลออกจากอารามเต๋าด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง ยามที่เดินผ่านจางเจี่ยว มันหัวเราะเหอะๆ เอ่ยว่า “เจ้าเฒ่า ท่านไก่จะผงาดแล้ว ว่างมาประลองกันตัวต่อตัวหรือไม่”
จางเจี่ยวหลับตาพักผ่อน ไม่สนใจมันเลย
ไก่คุกรัตติกาลทำสีหน้าเบื่อหน่าย จากนั้นมันก็มองเห็นจิ้งจอกชาดอยู่ไม่ไกล จึงเอ่ยยิ้มๆ “จิ้งจอกน้อย เจ้ากล้าประลองตัวต่อตัวกับข้าหรือไม่”
จิ้งจอกชาดเอ่ยด้วยความไม่สบอารมณ์ “ไก่จะเอาชนะจิ้งจอกได้อย่างไร”
ไก่คุกรัตติกาลโมโหแทบตายแล้ว ร้องว่า “มาสิ!”
จิ้งจอกชาดเอ่ยว่า “เจ้าอยากรบกวนการบำเพ็ญของนายท่านหรืออย่างไร”
ไก่คุกรัตติกาลไหนเลยจะกล้า จึงได้แต่จากไปด้วยความฉุนเฉียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...