บทที่ 725 วันวาน วางแผน
เมื่อเผชิญหน้ากับคำท้าทายของจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย มิ่งตอบตกลงทันที “มีอันใดต้องไม่กล้าเล่า! เจ้ากำหนดเวลามาได้เลย!”
มิ่งเองก็มั่นใจมากเช่นกัน
เขาแค่อยากทำลายความมั่นใจของจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายและวังสวรรค์ ต้องการสยบวังสวรรค์ให้ได้อีกครั้ง!
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายเอ่ยอย่างทระนงว่า “อีกหนึ่งหมื่นปีให้หลัง เจอกันที่วังสวรรค์!”
“ได้! ข้าจะรอเจ้าหนึ่งหมื่นปี ข้าอยากจะเห็นนักว่าวังสวรรค์ของเจ้าจะส่งบุตรแห่งสวรรค์เช่นใดมา!”
มิ่งหัวเราะอย่างโอหัง เสียงหัวเราะเบาลงเรื่อยๆ ราวกับกำลังถอยห่างออกไป
จนกระทั่งเสียงหัวเราะของเขาเลือนหายไปอย่างสมบูรณ์ เหล่าเทพเซียนถึงได้หันกลับมามองจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย
อี๋เทียนก้าวออกมา เอ่ยว่า “ดูเหมือนวังสวรรค์จะต้องการข้า เช่นนั้นข้า…”
“ทั่วเอ๋อร์ ศึกครานี้ต้องพึ่งเจ้าแล้ว”
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายไม่รอให้อี๋เทียนได้พูดจบ ก็เอ่ยขัดทันที
รอยยิ้มของอี๋เทียนพลันแข็งค้างไป
เหล่าแม่ทัพสวรรค์อดที่จะขบขันไม่ได้
หานทั่วก้าวออกมา ประสานหมัดก่อนกล่าวว่า “ต่อให้ร่างแหลกกระดูกสลาย ข้าก็จะเอาชนะเขาให้ได้พ่ะย่ะค่ะ!”
แววตาของเขาหนักแน่น เปี่ยมด้วยความมั่นใจเช่นกัน
เขาต่างไปจากในอดีตแล้ว
เทพเซียนทั้งหมดของวังสวรรค์ก็ล้วนเป็นเช่นนี้ หานทั่วพิสูจน์ตัวเองด้วยสงครามหลายต่อหลายครั้ง!
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายพยักหน้าด้วยความพอใจ จากนั้นก็หารือปัญหาที่ค้างอยู่ก่อนหน้านี้ต่อ พระราชวังเทียมเมฆามีเสียงเอะอะเซ็งแซ่ขึ้นมาอีกครั้ง
ทั่วทั้งวังสวรรค์ราวกับไม่เห็นมิ่งอยู่ในสายตาเลย
….
หนึ่งหมื่นปีดุจหมอกควัน เวลาค่อยๆ ไหลผ่านไป ทว่าก็ราวกับฝันตื่นหนึ่ง หายวับไปในทันใด
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น
เขาอายุสามแสนห้าหมื่นปีแล้ว แต่รู้สึกราวกลับเพิ่งอายุสามแสนปีเมื่อวานนี้
หานเจวี๋ยเริ่มคาดหวังตั้งตารอคอยรางวัลทางเลือกจากระบบตอนอายุครบสี่แสนปี
เขาเริ่มสอดส่องมรรคาสวรรค์
เขาพบว่าดวงชะตาของตนเพิ่มขึ้นฉับพลัน ในแดนเซียนและปวงสวรรค์หมื่นโลกามีการก่อตั้งเทวรูปของอริยะสวรรค์เกรียงไกรเปี่ยมกุศลรวมถึงศาลสักการะขึ้นมากมายนับไม่ถ้วน
เขานับนิ้วทำนายดู ที่แท้เป็นเหล่าอริยะที่เผยแพร่ตำนานของเขา
ในการเทศนาธรรมครั้งหนึ่งของจอมอริยะเสวียนตู ได้บอกเล่าต่อเหล่าบุตรแห่งสวรรค์ว่าหานเจวี๋ยคือบุตรแห่งสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดในมรรคาสวรรค์ อายุสามหมื่นปีก็พิสูจน์มรรคสำเร็จแล้ว
หลังสิ้นสุดการเทศนาธรรม เรื่องนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วแดนเซียนและปวงสวรรค์หมื่นโลกาอย่างรวดเร็ว
ชื่อเสียงของสำนักซ่อนเร้นก็ดังระบือนามขึ้นด้วยเหตุนี้
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว
เขาไม่คิดจะคุยโวโอ้อวดเช่นนี้
เขาทำนายชะตาต่อ ทราบว่าที่แท้ก็ทำไปเพื่อสะกดข่มผานกู่ หัวคิ้วของเขาจึงคลายตัวลง
ต้องกล่าวเลยว่า แผนนี้ไม่เลวเลย!
เบี่ยงเบนความสนใจ เป็นวิธีสะกดข่มที่ดีที่สุด!
หานเจวี๋ยพบว่าหลี่เสวียนเอ้ากำลังมุ่งหน้ามายังเขตเซียนร้อยคีรี คาดว่าต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วยามกว่าจะมาถึง
เขาจึงเคลื่อนย้ายหลี่เสวียนเอ้าเข้ามาในอารามเต๋าโดยตรง
เมื่อหลี่เสวียนเอ้าร่วงลงสู่พื้น ก็อดตกตะลึงไม่ได้
เขากำลังเหาะมาด้วยความเร็วสูงสุด เพียงรู้สึกวูบโหวงเล็กน้อยเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าจะมาโผล่ตรงหน้าหานเจวี๋ยแล้ว
ฝีมือระดับนี้…
ในใจหลี่เสวียนเอ้าเปี่ยมด้วยความเคารพเลื่อมใส รีบทำความเคารพทันที
ทุกครั้งที่ได้พบหานเจวี๋ย เขารู้สึกว่าหานเจวี๋ยนั้นลึกล้ำเกินหยั่งยิ่งขึ้นไปอีก
ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินโจวฝานเล่าว่า อย่างน้อยๆ หานเจวี๋ยก็น่าจะเป็นอริยะมหามรรคแล้ว!
“มีเรื่องใด” หานเจวี๋ยถาม
หลี่เสวียนเอ้าเอ่ยขึ้นว่า “ข้าและโจวฝานได้จัดตั้งกองประสานงานร่วมมือกันอย่างสมบูรณ์แล้ว วันนี้ได้สร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายสามร้อยแห่งขึ้นเรียบร้อยแล้ว สามารถเคลื่อนย้ายไปยังเจดีย์มรรคายิ่งใหญ่ได้โดยตรง…”
เขารายงานความก้าวหน้าของสำนักซ่อนเร้นในช่วงที่ผ่านมาออกมาก่อน สุดท้ายถึงได้เอ่ยเน้นว่า “ระยะนี้นายแดนเซียนปรากฏบุตรแห่งสวรรค์ที่สืบทอดสายเลือดผานกู่ขึ้นมากมาย บุตรแห่งสวรรค์เหล่านี้ล้วนเลือกเส้นทางสายฝึกฝนร่างกายให้แข็งแกร่ง สำนักซ่อนเร้นก็รับตัวชนรุ่นหลังของผานกู่ไว้กลุ่มหนึ่งเช่นกัน ข้าอยากใช้เขตเซียนร้อยคีรีซื้อใจพวกเขาขอรับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...