สรุปตอน บทที่ 726 พลังแห่งอันธการ มาเยือนไม่ขาดสาย – จากเรื่อง ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet
ตอน บทที่ 726 พลังแห่งอันธการ มาเยือนไม่ขาดสาย ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 726 พลังแห่งอันธการ มาเยือนไม่ขาดสาย
พูดคุยกับจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายอยู่พักใหญ่ แดนความฝันถึงสิ้นสุดลง
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น สูดหายใจเข้าลึกๆ
เขามองสองมือของตน รับรู้ได้ถึงพลังเวทอันแข็งแกร่งของตัวเอง
เขาแข็งแกร่งมากจริงๆ ในชั่วขณะนั้น เขาถึงขั้นที่นึกไปว่าตนไร้พ่ายในใต้หล้านี้แล้ว
แต่เขานึกถึงเจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลขึ้นมา นึกถึงสภาพน่าอนาถของปรมาจารย์ลัญจกรสรวง
จะหลงลำพองไม่ได้!
หานเจวี๋ยเข้าสู่แบบจำลองการทดสอบทันที เตรียมจะดึงสติตัวเองสักเล็กน้อย
ครึ่งชั่วยามผ่านไป
เขาวางมือจากแบบจำลองการทดสอบ
ไม่ไหว ไม่ได้ทำให้เยือกเย็นขึ้นเลย กลับทำให้หลงลำพองยิ่งกว่าเดิมเสียอีก!
‘เมื่อถึงเวลานั้นจะใช้แบบจำลองการทดสอบตรวจสอบมิ่งดูก่อนสักเล็กน้อย หากว่าเป็นระดับยอดมหามรรค ข้าค่อยพาลูกชายหนีตรงๆ เสียเลย’
หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ
เขารู้สึกว่ามิ่งน่าจะอยู่ในระดับอริยะมหามรรค มิเช่นนั้นหากต้องการสยบวังสวรรค์ ไยต้องอาศัยการเดิมพันด้วยเล่า?
หานเจวี๋ยปรับอารมณ์ ฝึกบำเพ็ญต่อ
….
ฟ้าบุพกาล ณ วังสวรรค์
ภายในพระราชวังเทียมเมฆา โจวฝานเดินนำเหล่าแม่ทัพนายพลเดินเข้ามา ในบรรดานั้นมีฉินหลิงรวมอยู่ด้วย
หลังจากศึกในครั้งนั้น เขารู้สึกพอใจในตัวฉินหลิงเป็นพิเศษ มักจะให้ติดตามอยู่ข้างกายเสมอ ด้วยความช่วยเหลือของเขา ตบะของฉินหลิงเพิ่มพูนขึ้นเร็วยิ่ง ยามนี้เป็นเซียนทองต้าหลัวแล้ว หากอ้างอิงจากความเร็วในการฝ่าทะลวงก่อนหน้านี้ คาดว่าอีกไม่กี่หมื่นปีก็น่าจะพิสูจน์ครึ่งอริยะได้แล้ว เลิศล้ำอย่างยิ่ง!
เมื่อหานทั่วมองเห็นฉินหลิง เขาพยักหน้าให้นิดๆ
ฉินหลิงก็ทำเช่นเดียวกัน
ความรู้สึกที่ฉินหลิงมีต่อหานทั่วนั้นซับซ้อนอย่างยิ่ง อาจารย์ปู่หานอวี้คาดหวังให้เขาเหนือกว่าหานทั่ว เดิมทีเขาคิดว่าหานทั่วเป็นคนชั่วร้าย ไม่นึกเลยว่าหานทั่วจะคอยดูแลเขาเป็นพิเศษ ทำให้เขารู้สึกขัดแย้งยิ่งนัก
แน่นอน หากว่ากันในแง่คุณสมบัติแล้ว ฉินหลิงรู้สึกว่าตนไม่ด้อยไปกว่าหานทั่วเลย!
เขายังคงพยายามจะทำความหวังของอาจารย์ปู่หานอวี้ให้สำเร็จ เหนือกว่าหานทั่วให้ได้!
โจวฝานหัวเราะฮ่าๆ พลางกล่าวว่า “ฝ่าบาท ท่านช่างอยู่นิ่งไม่เป็นเลยจริงๆ เพิ่งจบศึกเทพมารฟ้าบุพกาลตนหนึ่งมา ก็ตีกับมิ่งต่อเลยหรือ เดิมพันการต่อสู้ของพวกท่านเรียกได้ว่าแพร่กระจายไปทั่วฟ้าบุพกาลแล้ว”
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายส่ายหน้าก่อนเอ่ยว่า “หาใช่เราที่ก่อเรื่องไม่ เป็นมิ่งที่มาท้าทายก่อน คาดว่าคงเป็นเขาเช่นกันที่แพร่กระจายข่าวลือออกไป”
รอยยิ้มบนใบหน้าโจวฝานเลือนหายไป เอ่ยอย่างเคร่งขรึมว่า “ข้าก็รู้สึกว่าผิดปกติเช่นกัน จึงพาเหล่ายอดฝีมือทั้งหมดของเจดีย์มรรคายิ่งใหญ่มาด้วย ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ข้าล้วนจะสนับสนุนท่าน!”
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายลุกขึ้นมา เดินมาหยุดตรงหน้า ตบไหล่เขาพร้อมเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้รู้ใจของเราจะเคยเป็นทหารสวรรค์ในสังกัดเรามาก่อน”
โจวฝานกลอกตาใส่เขา คนผู้นี้ชมชอบเอ่ยเรื่องนี้ต่อหน้าผู้อื่นนัก กดให้โจวฝานอยู่ต่ำกว่าตนเสมอ
“จะว่าก็ว่าเถอะ รอจนเจดีย์มรรคายิ่งใหญ่ของข้าเผชิญอันตราย วังสวรรค์ของท่านก็ต้องมาเช่นกัน”
“นิสัยของเรา เจ้ายังไม่รู้กระจ่างอีกหรือ จะไม่ให้การสนับสนุนได้อย่างไร”
ทั้งสองสบตากัน เปล่งเสียงหัวเราะดังลั่น
เหล่าเเม่ทัพนายพลของเจดีย์มรรคายิ่งใหญ่และเหล่าเทพเซียนของวังสวรรค์ล้วนเผยรอยยิ้มออกมา
ฟ้าบุพกาลกว้างไกลไร้สิ้นสุด สองกลุ่มอิทธิพลเคยเผชิญศึกร่วมกันมาหลายต่อหลายครั้ง คอยพึ่งพาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ต่างนับถือกันเป็นพี่เป็นน้องแล้ว
โจวฝานเอ่ยว่า “ระยะนี้อาจจะมีผู้ทรงพลังของกลุ่มอิทธิพลมรรคาสวรรค์อื่นๆ มุ่งหน้ามา เมื่อถึงเวลานั้นวังสวรรค์จะปล่อยพวกเขาเข้ามาหรือไม่”
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายตอบด้วยรอยยิ้ม “ปล่อยสิ ย่อมปล่อยแน่อยู่แล้ว ผู้ที่ถูกคุกคามมิได้มีเพียงวังสวรรค์ หากมีชัย วังสวรรค์ของเราจะมีชื่อเสียงเลื่องลือ หากว่าพ่าย จะทำให้กลุ่มอิทธิพลอื่นๆ รู้สึกสะท้านไปด้วย”
โจวฝานพยักหน้ารับ ลอบสะท้อนใจอยู่ภายใน
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายสิถึงจะเป็นผู้กระทำการใหญ่อย่างแท้จริง ตัวเขาโจวฝานถึงแม้จะก่อตั้งกลุ่มอิทธิพลขึ้น แต่กลับเหมือนราชาตราตั้งเท่านั้น ไม่ได้มีรัศมีเยี่ยงจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย และยิ่งไม่สันทัดการวางแผนเหมือนเขา
หากเขาเป็นจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย คงกังวลว่ากลุ่มอิทธิพลอื่นจะมาสร้างปัญหาซ้ำเติม
เมื่อเป็นเช่นนี้ เหล่าผู้บำเพ็ญของเจดีย์มรรคายิ่งใหญ่จึงพักอยู่ที่วังสวรรค์
โจวฝานดึงตัวหานทั่ว ฉู่ซื่อเหรินและฉินหลิงไปพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว ใช้คำกล่าวอ้างสวยหรูว่าเป็นการรวมตัวของศิษย์ร่วมสำนัก
เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง มีกลุ่มอิทธิพลทยอยมาเยี่ยมเยือน จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายก็ปล่อยพวกเขาเข้ามาในวังสวรรค์ ใจกว้างผ่าเผยยิ่ง
ไม่รู้ว่าจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายจะใช้วิชาอัญเชิญเทพตอนใด สำหรับศึกใหญ่ที่กำลังจะมาถึง เขารู้สึกประหม่ายิ่งนัก ทั้งยังตื่นเต้นและกังวลเล็กน้อย
ตอนที่มาเข้าฝันก่อนหน้านี้ เขาได้ถ่ายทอดวิชาอัญเชิญเทพให้จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย เมื่อถึงเวลาจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายจะเรียกหาเขา
หานเจวี๋ยสงบใจฝึกบำเพ็ญต่อไม่ได้ จึงเริ่มใช้แบบจำลองการทดสอบ
เขาตั้งค่าให้ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงหนึ่งร้อยคนเข้าโจมตีตนพร้อมกัน อยากเห็นว่าตนจะเอาชนะได้หรือไม่
ต่อให้มิ่งแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ยังต้องสู้กับอริยะมหามรรคแบบตัวต่อตัว แต่จะกล้าเผชิญหน้ากับการปิดล้อมโจมตีของอริยะมหามรรคหนึ่งร้อยคนหรือไม่
จากนั้น…
หานเจวี๋ยเผชิญกับการรุมสังหารอย่างน่าอนาถ
ปรมาจารย์ลัญจกรสรวงหนึ่งร้อยคนลงมือพร้อมกัน ความแข็งแกร่งเกินเรื่องราวไปมากจริงๆ
แต่นั่นก็ยิ่งกระตุ้นจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขา
ด้วยเหตุนี้ หานเจวี๋ยจึงรอคอยการเข้าฝันจากจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายพลางหมกตัวอยู่ในแบบจำลองการทดสอบไปด้วย
และในเวลาเดียวกันนี้
ภายในมิติลึกลับ หลี่เต้าคงและสือตู๋เต้าที่ยังคงนั่งสมาธิอยู่ในสระน้ำพลันลืมตาขึ้นพร้อมกัน
มองเห็นหมอกแสงผืนหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา ภายในลำแสงปรากฏฉากสถานการณ์ของวังสวรรค์
“ข้าจะสยบวังสวรรค์ และถือโอกาสทำให้พวกเจ้าได้เห็นว่าพลังแห่งอันธการแข็งแกร่งมากแค่ไหน!”
เสียงของมิ่งดังขึ้นมา น้ำเสียงสะท้อนเลื่อนลอย ไม่สามารถสืบสาวไปถึงตัวจริงได้
หลี่เต้าคงฟังแล้วขมวดคิ้ว
ความสัมพันธ์ระหว่างวังสวรรค์และสำนักซ่อนเร้น เขารู้ดีที่สุด อีกทั้งไมตรีส่วนตัวที่เขามีต่อจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายก็ดียิ่ง
จู่ๆ สือตู๋เต้าก็ถามขึ้นมาว่า “เอาแต่เอ่ยถึงพลังแห่งอันธการอยู่ตลอด นอกจากมิ่งอย่างพวกเจ้าแล้ว อันธการยังมีกลุ่มอิทธิพลด้วยใช่หรือไม่”
………………………………………………………………
[a1]ชื่อนี้ถูกแล้วใช่หรือไม่คะ ไม่ใช่สำนักพุทธเฉยๆ ใช่มั้ยคะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...