เซียนซีเสวียนเอ่ยปากถาม “เจ้าเป็นแค่กระบวนท่าเดียวหรือ”
“ขอรับ”
หานเจวี๋ยเป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา เขาไม่อยากโอ้อวดเกินตัวจนเป็นโทษแก่ตัวเอง
“วิชากระบี่นี้ไม่เลวเลย ต่อไปก็อยู่ที่ยอดเขาหยกวิเวกเถอะ” เซียนซีเสวียนพยักหน้าเล็กน้อย
ผู้อาวุโสใหญ่หัวเราะยกใหญ่ “ถ้าอย่างนั้นข้าไม่รบกวนแล้ว”
เขาพยักหน้าให้หานเจวี๋ยแล้วจึงเดินจากไป
เซียนซีเสวียนจ้องมองหานเจวี๋ยพลางพูด “ยังไม่คุกเข่าคารวะอาจารย์อีก?”
หานเจวี๋ยได้สติคืนมา จากนั้นก็รีบคุกเข่าลง
“ศิษย์หานเจวี๋ยคารวะอาจารย์ ขออาจารย์อายุยืนหมื่นปี หมื่นๆ ปี”
เซียนซีเสวียนอดหัวเราะไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่ชอบใจนักว่า “เจ้าเห็นอาจารย์เป็นจักรพรรดินีหรือไร”
หานเจวี๋ยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา
เซียนซีเสวียนแอบพึมพำ “ศิษย์ผู้นี้ภาพลักษณ์และคุณลักษณะยอดเยี่ยม จิตใจก็ไม่เลวเลย”
นางควักป้ายคำสั่งอันหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ แล้วยื่นให้ฉางเยวี่ยเอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลัง
“พาศิษย์น้องของเจ้าไปบันทึกสถานะที่สำนักฝ่ายใน ถือโอกาสจัดแจงถ้ำที่พักให้เขาด้วย”
“เจ้าค่ะ อาจารย์”
ฉางเยวี่ยเอ๋อร์ลุกขึ้นอย่างว่าง่าย
หานเจวี๋ยลุกขึ้นมาคารวะตาม จากนั้นก็ตามฉางเยวี่ยเอ๋อร์ออกไป
พวกเขาเพิ่งเดินออกมาจากตำหนัก ประตูใหญ่ก็ปิดลงทันที
“ศิษย์น้องหาน ข้ามีนามว่าฉางเยวี่ยเอ๋อร์ ต่อไปเจ้าเรียกข้าว่าศิษย์พี่เถอะ เจ้าเพิ่งมาเป็นครั้งแรก มีอะไรที่ไม่เข้าใจก็สอบถามศิษย์พี่ได้ตลอดเวลา”
ฉางเยวี่ยเอ๋อร์ยิ้มกล่าว และสบตากับหานเจวี๋ยเข้าพอดี นางไม่ได้รู้สึกเขินอายเลย กลับจ้องเขาตาไม่กะพริบด้วยซ้ำ
หานเจวี๋ยก้มหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ขอบคุณศิษย์พี่มาก ศิษย์น้องไม่กล้ารบกวน แต่หากศิษย์พี่ต้องการความช่วยเหลือ ก็กำชับศิษย์น้องได้ทุกเมื่อ”
“ฮิๆ เจ้านี่ช่างดีจริงๆ”
หน้าตาดีกว่าศิษย์พี่ศิษย์น้องคนอื่นๆ ทีเดียว
เป็นครั้งแรกที่ฉางเยวี่ยเอ๋อร์พบเจอบุรุษรูปงามเช่นนี้ อีกทั้งลักษณะท่าทางและอุปนิสัยของเขาก็ทำให้นางสบายใจมาก
นางลอบสาบานกับตนเองว่าจะต้องปกป้องศิษย์น้องหานไว้ ไม่ให้โดนผู้ใดรังแก
ทั้งสองพูดคุยและหัวเราะไปตลอดทาง เมื่อมาถึงริมหน้าผาสูง ฉางเยวี่ยเอ๋อร์ก็เรียกกระบี่บินออกมา ให้หานเจวี๋ยยืนอยู่ด้านหลังและกอดเอวของนางไว้
หานเจวี๋ยลังเล
“นอกจากเจ้าแล้ว ศิษย์น้องคนอื่นๆ ไม่มีโอกาสกอดเอวศิษย์พี่หรอกนะ” ฉางเยวี่ยเอ๋อร์ทำเสียงฮึดฮัด
แท้จริงแล้วนางพบเจอแค่ศิษย์น้องหานเจวี๋ยผู้นี้เท่านั้น
ทั่วทั้งยอดเขาหยกวิเวก มีแค่หานเจวี๋ยที่นับว่าเป็นศิษย์น้องของนางได้ หลายปีมานี้ยากที่จะมีศิษย์ใหม่เข้ามาในยอดเขาหยกวิเวก
นางพูดถึงขนาดนี้แล้ว หานเจวี๋ยจึงไม่อาจปฏิเสธได้
ต้องบอกเลยว่าเอวของศิษย์พี่หญิงบางจริงๆ
……
หนึ่งชั่วยามผ่านไป
ฉางเยวี่ยเอ๋อร์พาหานเจวี๋ยมาถึงหน้าถ้ำแห่งหนึ่ง “ด้านในคือถ้ำเทวาของเจ้า ถ้ำเทวาของศิษย์พี่อยู่ข้างๆ นี่เอง เวลาปกติเจ้าสามารถฝึกฝนได้อย่างสบายใจ”
ใกล้ขนาดนี้เลย?
หานเจวี๋ยมองตามทิศทางที่นางชี้ ประตูถ้ำเทวาของนางอยู่ห่างออกไปแค่ร้อยเมตรเท่านั้น
หานเจวี๋ยแอบทอดถอนใจ แต่แสดงสีหน้าขอบคุณฉางเยวี่ยเอ๋อร์
ทั้งสองคนกล่าวลากัน
หลังจากเข้าไปในถ้ำ หานเจวี๋ยเห็นว่าบนผนังถ้ำมีกลไกอยู่อันหนึ่ง ทันทีที่บิดมัน ประตูหินก็ปรากฏขึ้นตรงปากถ้ำ และปิดปากถ้ำเอาไว้ ทางเดินในถ้ำพลันสว่างขึ้นตามมา
เขาเดินไปจนสุดทางเดิน ตรงนั้นเป็นห้องขนาดราวๆ ร้อยตารางเมตร มีเตียง โต๊ะเก้าอี้ ทั้งยังมีตู้ไม้ ได้รับการปฏิบัติไม่เลวเลย
หานเจวี๋ยเดินไปนั่งบนเตียง และนำถุงเก็บของของสำนักฝ่ายในออกมา
ถุงเก็บของของสำนักฝ่ายในมีพื้นที่มากกว่าสำนักฝ่ายนอกสิบเท่า ด้านในสามารถใส่สิ่งของได้ร้อยลูกบาศก์เมตร
เขาได้รับชุดคลุมของยอดเขาหยกวิเวก กระบี่บินหนึ่งเล่ม เคล็ดวิชาขี่กระบี่ ป้ายคำสั่งยอดเขาหยกวิเวก หินวิญญาณชั้นกลางหนึ่งร้อยก้อน และโอสถรวมปราณหนึ่งขวดมา
หานเจวี๋ยรู้จากฉางเยวี่ยเอ๋อร์ว่าหินวิญญาณชั้นสูงหนึ่งก้อนเท่ากับหินวิญญาณชั้นกลางหนึ่งร้อยก้อน หินวิญญาณชั้นกลางหนึ่งก้อนเท่ากับหินวิญญาณชั้นต่ำหนึ่งร้อยก้อน
หินวิญญาณสามารถนำมาฝึกฝนและใช้เป็นเงินตราได้
เขารีบเรียกหินวิญญาณชั้นสูงหนึ่งพันก้อนที่เก็บไว้บนจอแสดงคุณสมบัติออกมา จากนั้นใส่ลงไปในถุงเก็บของ
หินวิญญาณจำนวนนี้เพียงพอจะทำให้หานเจวี๋ยกลายเป็นคนร่ำรวยมากบารมีแล้ว
สมกับเป็นดวงชะตาทายาทจักรพรรดิเซียน เปิดเกมก็ได้หินวิญญาณชั้นสูงมาหนึ่งพันก้อนแล้ว
หานเจวี๋ยเลื่อนหน้าจอแสดงคุณสมบัติ ตรวจสอบค่าความสัมพันธ์
[ฉางเยวี่ยเอ๋อร์: ระดับสร้างฐานขั้นสอง ศิษย์พี่ของท่าน ปฏิบัติกับท่านเหมือนน้องชาย ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 1 ดาว]
[เซียนซีเสวียน: ระดับปราณก่อกำเนิดขั้นสาม อาจารย์ของท่าน ชื่นชมอุปนิสัยของท่านมาก ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 1 ดาว]
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...