เขาเดินมาที่ใต้ต้นฝูซัง นำเมล็ดน้ำเต้าพิภพเซียนฝังลงในดิน จากนั้นจึงใส่พลังวิญญาณหกสายของตนลงไปเพื่อหล่อเลี้ยงมัน
ของล้ำค่าระดับนี้จำต้องลงมือปลูกด้วยตนเอง ความสามารถในการเพาะปลูกของสวินฉางอันมีจำกัด เวลาส่วนใหญ่ต้องใช้ไปกับการดูแลต้นฝูซัง โชคดีที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นั้นแข็งแรง
“อาจารย์ นี่คืออะไรหรือ” สวินฉางอันเอ่ยถามด้วยความสงสัย
หานเจวี๋ยเอ่ยตอบว่า “น้ำเต้า ต่อไปนี้เจ้าก็ต้องดูแลมันด้วย”
สวินฉางอันแปลกใจ หานเจวี๋ยไปได้เมล็ดน้ำเต้านี้มาจากที่ใดกัน
ขณะที่ต้นฝูซังเติบโตขึ้นทุกทีๆ สวินฉางอันก็ค้นพบว่าต้นไม้นี้ไม่ธรรมดานัก พลังวิญญาณที่ถือกำเนิดกว้างใหญ่เป็นอย่างมาก ผลลัพธ์เหนือกว่าของล้ำค่าฟ้าดินทั้งหลายบนภูเขา
สวินฉางอันไม่ใช่คนเขลา ของล้ำค่าฟ้าดินเช่นนี้ก็มาจากสำนักหยกพิสุทธิ์จริงๆ หรือ
ยามที่หลี่ชิงจื่อผ่านทางมาก่อนหน้านี้ เขาก็มีท่าทีตื่นตะลึงไม่น้อย
เบื้องหลังของอาจารย์ก็น่ากลัวเกิดกว่าที่เขาจินตนาการ
หานเจวี๋ยสังเกตดูต้นฝูซังอยู่สักพัก ก่อนจะกลับเข้าถ้ำเทวาไป
เพิ่งทะลวงระดับรวมกายามา หานเจวี๋ยก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะฝึกฝนนัก
เขาหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เตรียมพร้อมสาปแช่งเฒ่าประหลาดอู้เต้าอย่างเต็มกำลัง
กล้าจะโค่นล้มข้า ทั้งยังไม่อยากรับผลที่ตามมาอย่างนั้นหรือ
หานเจวี๋ยลอบแผ่ไอชั่วร้าย พลังวิญญาณหกสายพคลุ้มคลั่งปกคลุมลงบนหนังสือแห่งความโชคร้าย
……
สำนักไร้ลักษณ์ สำนักบำเพ็ญเซียนสำนักใหญ่ที่สืบทอดมาเกือบหมื่นปี ความรู้ลึกซึ้งกว้างขวาง
ประตูทางเข้าสำนักราวกับแดนเซียน ขุนเขาเรียงรายเป็นทิวแถว ท่ามกลางเมฆหมอกที่รายล้อมสามารถมองเห็นหมู่นกกระเรียนขาวบินผ่านไปเป็นรูปตัวอักษรคน[1] พาดผ่านกลุ่มเมฆหลากสีไปอย่างเร็วรี่
ระหว่างสองยอดเขาสูงพันจั้งมีน้ำตกขนาดใหญ่ไหลลดผ่านประดุจม่านผืนใหญ่ทับซ้อนสายหนึ่ง เบื้องล่างน้ำตกปรากฏเงาร่างหนึ่งกำลังนั่งเข้าฌานอยู่บนผิวทะเลสาบ ต้านรับแรงปะทะอันน่าหวาดกลัวของม่านน้ำตก ลมแรงหมุนวนทั่วเรือนกาย สายน้ำที่สาดกระทบลงบนร่างให้ความรู้สึกราวกับคมมีด
เฒ่าประหลาดอู้เต้ายืนอยู่บนพื้นหญ้าริมทะเลสาบ สายตาทอดมองไปพร้อมมือที่ลูบเครา รอยยิ้มอันพึงใจปรากฏบนใบหน้าของเขา
“คุณสมบัติของเซียนเอ๋อร์นี้ คงถูกวังเทพธิดาเลือกอย่างแน่นอน”
เมื่อเฒ่าประหลาดอู้เต้านึกถึงตงหวางเซียนศิษย์ของตนที่จะสามารถเข้าไปอยู่ในวังเทพธิดาด้วยสถานการณ์ที่ยากลำบาก จนสุดท้ายได้กลายเป็นผู้บำเพ็ญใหญ่ในใต้หล้า สามารถแม้กระทั่งสำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์ เขาก็ไม่อาจที่จะหุบยิ้มได้
ความสามารถของเขาได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว ยากยิ่งนักที่จะบรรลุถึงระดับฝ่าด่านเคราะห์ เพราะอย่างนั้นเขาจึงฝากความหวังไว้กับลูกศิษย์คนนี้
ทันใดนั้นเอง!
เลือดลมของเฒ่าประหลาดอู้เต้าพลันปั่นป่วน จิตดั้งเดิมสั่นสะท้าน พื้นดินเบื้องหน้าหมุนวน เรือนกายโคลงเคลงไปมาจนเกือบจะล้มลง
โลหิตเสียสายหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากลำคอ เขาจำต้องบ้วนมันลงพื้นอย่างกลั้นไม่ไหว
เขารีบนั่งลง ก่อนจะเริ่มเคลื่อนย้ายลมปราณรักษา
ตงหวางเซียนที่อยู่เบื้องล่างธารน้ำตกพลันลืมตาขึ้น ประกายแสงสองสายพุ่งออกมาจากดวงตา พุ่งทะลุสายน้ำตกเบื้องหน้า
เขารีบลุกขึ้นในทันที เคลื่อนย้ายร่างไปยังข้างกายเฒ่าประหลาดอู้เต้าด้วยความรวดเร็ว
ภายใต้แสงแดดที่ทอประกายสาดส่อง ร่างกายท่อนบนของตงหวางเซียนเปลือยเปล่า ลายกล้ามเนื้อปรากฏออกมาอย่างเห็นได้ชัด ไม่อวบอ้วน ไม่ผอมบาง เป็นความงามที่ยากจะพรรณนาชนิดหนึ่ง เครื่องหน้าทั้งห้าหล่อเหลาได้รูป คิ้วคมตาเป็นประกาย ละอองน้ำที่ทำให้เส้นผมสีดำขลับเปียกชื้นเริ่มระเหิดระเหย เรือนผมสีดำพลิ้วไสว เริ่มที่จะแห้งหมาด
ตงหวางเซียนขมวดคิ้วเอ่ยถาม “อาจารย์ ท่านเป็นอะไรไป”
เฒ่าประหลาดอู้เต้าไม่ได้ลืมตาขึ้น ทว่ากัดฟันกรอด เอ่ยว่า “มีคนกำลังสาปแช่งข้า!”
อย่างไรเสียเฒ่าประหลาดอู้เต้าก็เป็นถึงผู้บำเพ็ญใหญ่ระดับรวมกายา ย่อมพบเจอโลกมามากกว่าเซียวเอ้อร์ นักพรตเต๋าชิงเสียน และราชาปีศาจเตี่ยนซู่
เขาเข้าใจพลังมรรคของตนเองเป็นอย่างดี ไม่มีทางจะประสบกับความเสียหายครั้งใหญ่อย่างไร้เหตุผลเช่นนี้
ต้องมีใครบางคนสาปแช่งเขาลับหลัง!
คิ้วของตงหวางเซียนยิ่งขมวดเข้าหากันแน่น เอ่ยถามว่า “เป็นผู้ใดได้บ้าง บอกกล่าวแก่ศิษย์ ศิษย์จะไปสังหารมันเดี๋ยวนี้!”
“อาจารย์เองก็ไม่แน่ใจนัก ไม่สามารถคาดเดาที่มาของพลังคำสาปนี้ได้เลย เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวล เจ้าจงตั้งใจฝึกฝน พยายามบรรลุพลังวิเศษให้ได้โดยเร็ว”
หลังจากที่เฒ่าประหลาดอู้เต้ากล่าวจบก็ไม่ได้เอ่ยอะไรไปมากกว่านี้ หันไปจดจ่อรักษา
ระหว่างที่ตงหวางเซียนกำลังจะจากไป เฒ่าประหลาดอู้เต้ากลับกระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง
สามารถทำให้ผู้บำเพ็ญระดับรวมกายาขั้นเจ็ดมีสภาพน่าเวทนาเช่นนี้ได้ อีกฝ่ายจะต้องแข็งแกร่งเพียงใด
ตงหวางเซียนมีท่าทีครุ่นคิด
……
ใช้กำลังทั้งหมดสาปแช่งมาครึ่งค่อนวัน กระทั่งระบบแจ้งเตือนสัญญาณอันตราย หานเจวี๋ยถึงได้หยุดลง เริ่มรักษาอาการบาดเจ็บ
หลายวัยต่อมา อาการบาดเจ็บของหานเจวี๋ยก็ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ
“ตาแก่นั่นคงลำบากไม่น้อย”
หานเจวี๋ยลอบคิดอย่างพึงพอใจ ไม่นาน เขาก็เข้าสู่การฝึกฝนอีกครั้ง
ตอนนี้เขาไม่กลัวว่าเฒ่าประหลาดอู้เต้าจะมาสังหารแล้ว อย่างไรเสียเขาก็เป็นผู้บำเพ็ญระดับรวมกายา
หานเจวี๋ยเริ่มฝึกฝนพลังภายในของวิชาวัฏจักรหกวิถีขั้นเจ็ดก่อน
พลังภายในขั้นเจ็ดสูงล้ำกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก เมื่อเริ่มฝึกฝนก็ยิ่งซับซ้อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...