ภายในถ้ำเทวา
ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ลืมตาขึ้น คิ้วขมวดแน่น
ตั้งแต่เขาไปที่สำนักหยกพิสุทธิ์ ฝันร้ายของเขาก็จบลง เพราะอย่างนั้นเขาจึงใช้โอกาสนี้รักษาอาการบาดเจ็บอย่างเต็มกำลังจนกระทั่งวันนี้
ทว่าช่วงนี้เขากลับมีความรู้สึกไม่สบายใจบางอย่าง
เป็นความไม่สบายใจแบบที่อธิบายไม่ได้ แม้กระทั่งเลือดปีศาจของเขาก็ยังปั่นป่วน
“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ หรือว่าเซียนท่านนั้นต้องการจะทำร้ายข้าอีกแล้ว?”
ราชาปีศาจเตี่ยนซู่คิดขึ้นอย่างหวาดวิตก ยิ่งเขาคิดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทุกข์มากขึ้นเท่านั้น
ถูกผนึกมาสองพันปี หลังจากฟื้นคืนชีพยังไม่ทันจะได้แก้แค้นก็ต้องมาบาดเจ็บหนักเช่นนี้ ราชาปีศาจรู้สึกว่าเหล่าปีศาจใต้อาณัติจะต้องกำลังหัวเราะเยาะเขาเป็นแน่
ยิ่งคิดเขายิ่งหงุดหงิด เกิดเป็นเปลวเพลิงชั่วร้ายเผาไหม้อยู่ในอก
เขาอยากฆ่าล้างบางเผ่ามนุษย์ในต้าเยี่ยนจริงๆ!
ช่างเถอะ!
ทนเอาหน่อยก็แล้วกัน
เฮ้อ
ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ทอดถอนใจ ปิดตาลงฝึกฝนต่อ
……
เหนือทะเลหมอก มีทะเลสาบกว้างใหญ่ราวกระจกใส รอบด้านรายล้อมด้วยหมู่เมฆสวยงามราวกับม้วนภาพ
เซวียนฉิงจวินนั่งเข้าฌานอยู่ริมทะเลสาบพร้อมกับสตรีอาภรณ์ม่วงผู้หนึ่ง สตรีอาภรณ์ม่วงนางนี้ก็คือผู้ทรงพลังที่ช่วยชีวิตโจวฝานไว้
“ศิษย์พี่หญิง ท่านยังไม่สำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์อีกหรือ” สตรีอาภรณ์ม่วงหันหน้ามาเอ่ยถาม
เซวียนฉิงจวินเอ่ยตอบขณะที่ยังไม่ลืมตาว่า “ยังไม่ถึงเวลา”
สตรีอาภรณ์ม่วงเดาะลิ้นเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ “ข้าก็ไม่เข้าใจพวกท่านจริงๆ ขั้นฝ่าด่านเคราะห์สามารถสำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์ได้ อีกทั้งตอนนี้ท่านก็อยู่ระดับมหายานแล้ว หลังจากบินขึ้น ท่านก็จะได้ถือกำเนิดเกิดใหม่ ที่แดนเซียนท่านก็สามารถอยู่อย่างสุขสบาย แล้วท่านยังรออะไรอีก”
เซวียนฉิงจวินไม่ตอบ กลับเอ่ยถามว่า “โจวฝานเป็นอย่างไรบ้าง”
“อย่าพูดถึงเลย เจ้าเด็กนี่เมื่อเทียบกับชาติก่อนแตกต่างกันราวกับเป็นคนละคน อารมณ์ร้อนเป็นอย่างยิ่ง ไม่แน่ว่าวันใดยังคงเป็นข้าที่ต้องไปช่วยเขา แต่เขาเชื่อข้าสนิทใจแล้ว”
“อืม เจ้าเด็กคนนี้เป็นส่วนสำคัญในแผนการของพวกเรา อย่าปล่อยให้เขาตกตาย และอย่าให้เขาต่อต้านเจ้า”
“ไม่มีทางหรอก เจ้าเด็กนี่ขาดความรักตั้งแต่เด็ก ทำดีกับเขาหน่อย เขาก็ตายใจแล้ว”
“จะว่าไปแล้ว ที่สำนักหยกพิสุทธิ์ข้าก็มีคู่บำเพ็ญเพียรคนหนึ่ง”
“หา? ศิษย์พี่หญิง ท่านกลับหาคู่บำเพ็ญเพียรได้ด้วย!”
ดวงตางามของสตรีอาภรณ์ม่วงเบิกกว้าง เกิดความสนใจขึ้นมาโดยพลัน ไต่ถามต่อไม่หยุด
เซวียนฉิงจวินนึกย้อนกลับไป มุมปากยกโค้งขึ้นเล็กน้อย พลางยิ้มเอ่ย “ข้าไปเยือนสำนักหยกพิสุทธิ์ครานั้น จุดประสงค์หลักเพียงเพื่ออยากจะไปดูสำนักที่โจวฝานอาศัยอยู่ คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับเด็กหนุ่มที่ต้องตาเป็นอย่างมาก เด็กคนนี้เป็นผู้บำเพ็ญที่เพียรพยายาม ผ่านมานานหลายปีเพียงนี้ ไม่แน่ว่าจะบรรลุระดับเปลี่ยนวิญญาณแล้วก็ได้”
สตรีอาภรณ์ม่วงเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “เช่นนั้นคุณสมบัติของเขาไม่อ่อนแอกว่าโจวฝานหรอกหรือ”
“นั่นย่อมแน่นอน ภายหน้าหากมีโอกาสข้าจะพาเจ้าไปดูเขา”
เมื่อเซวียนฉิงจวินพูดถึงหานเจวี๋ย บนใบหน้าก็ปรากฏเป็นรอยยิ้ม
เดินทางไปทั่วโลกมนุษย์ นางพบว่าหานเจวี๋ยยังคงเป็นบุรุษที่หล่อเหลาที่สุดเท่าที่นางเคยพบเจอ นิสัยเองก็ทำให้คนชื่นชอบได้ง่าย
ทันใดนั้นเอง!
กระจกถูกแผดเผาด้วยเปลวเพลิงมหาศาลอย่างรวดเร็ว เสียงลมคำรามโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง คลื่นความร้อนปกคลุมแผ่กระจายไปทั่วทะเลหมอก
เซวียนฉิงจวินและสตรีอาภรณ์ม่วงลุกขึ้นทันที ก้มหน้ามองลงมา เห็นเพียงวิหคเพลิงตัวมหึมาที่มีระยะห่างระหว่างปลายปีกทั้งสองกว้างถึงหนึ่งร้อยจั้งโฉบบินผ่านไป
สตรีอาภรณ์ม่วงเอ่ยถามด้วยความตกตะลึง “สัตว์เทพจูโต้ว? สัตว์เทพในตำนานที่กล่าวขานว่าเป็นตัวแทนของภัยพิบัติ!”
เซวียนฉิงจวินขมวดคิ้วเอ่ย “จูโต้วตัวนี้ยังไม่เติบโตเต็มที่ แต่ว่าจัดว่าอยู่ในสถานะแห่งความโชคร้ายแล้ว คาดว่าคงจะมีบางสิ่งที่ดึงดูดมัน”
“จึ๊ๆ ก็ไม่รู้สถานที่ใดช่างโชคร้ายเพียงนี้ ดึงดูดจูโต้วให้มาได้”
……
หลังจากที่พบว่าต้นฝูซังสั่นไหวทุกคืน หานเจวี๋ยก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ
เขามักจะรู้สึกว่าต้นฝูซังกำลังร้องเรียกบางสิ่งบางอย่างให้เข้ามา
หรือจะเป็นอีกาทองคำในตำนาน?
เป็นไปไม่ได้กระมัง!
อีกาทองคำไม่ได้อยู่บนสวรรค์หรอกหรือ?
ไม่เคยเห็นพระอาทิตย์ที่นับวันยิ่งต่ำลง!
หานเจวี๋ยหยุดความคิดเอาไว้ ยามฝึกฝนปกติ เขาไม่กล้าทุ่มเทความคิดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...