ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 830

สรุปบท บทที่ 830 อำนาจศักดิ์สิทธิ์สั่นคลอนฟ้าบุพกาล: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 830 อำนาจศักดิ์สิทธิ์สั่นคลอนฟ้าบุพกาล – ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet

บท บทที่ 830 อำนาจศักดิ์สิทธิ์สั่นคลอนฟ้าบุพกาล ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 830 อำนาจศักดิ์สิทธิ์สั่นคลอนฟ้าบุพกาล

ถึงอย่างไรหงหยวนก็เป็นอริยะมหามรรค ไม่สามารถสยบทาสให้สำเร็จในระยะเวลาสั้นๆ ได้ ถึงแม้หงหยวนจะสงบนิ่งยิ่ง แต่หานเจวี๋ยก็ไม่กล้าชะล่าใจ จึงผนึกนางเอาไว้ตลอด

หานเจวี๋ยเริ่มตรวจดูจดหมาย อ่านอย่างได้อรรถรส

ผ่านไปนานยิ่ง

หงหยวนทนไม่ไหวถามไปว่า “สหายเต๋าหาน เจ้าว่าเทพมารปฐมภพไปซ่อนตัวอยู่ที่ใดกันแน่ ในช่วงที่ผ่านมา ข้าสืบเรื่องของขุนพลศักดิ์สิทธิ์มาอีกเล็กน้อย พบว่าก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้วขุนพลศักดิ์สิทธิ์ก็เคยปรากฏตัวขึ้น ตระเวนไปทั่วฟ้าบุพกาลจริงๆ เรียกว่าไม่มีทางหนีรอดได้”

หานเจวี๋ยกล่าวว่า “ข้าก็ไม่ทราบแน่ชัด บางทีเทพมารปฐมภพอาจจะคิดว่าตัวเองทำถูกแล้วกระมัง”

หงหยวนพยักหน้ารับ เอ่ยอย่างสะท้อนใจ “นึกถึงท่าทางองอาจมั่นใจของเทพมารปฐมภพในคราแรกที่เรียกรวมตัวเหล่าเทพมาร ไม่คิดเลยว่าจะตกใจกลัวขุนพลศักดิ์สิทธิ์จนหนีเตลิดไป ถึงขั้นที่ไม่กล้าแจ้งข่าวต่อเทพมารตนอื่นๆ เลย”

ดีร้ายอย่างไรเทพมารปฐมภพก็เป็นหนึ่งในเทพมารฟ้าบุพกาลที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่น่าเชื่อว่าจะขี้ขลาดเช่นนี้ เพียงพอจะแสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของขุนพลศักดิ์สิทธิ์แล้ว

หานเจวี๋ยกล่าวว่า “ดูไม่ได้เลยจริงๆ”

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สมควรแจ้งต่อเทพมารฟ้าบุพกาลที่เหลือด้วย เตรียมการให้เรียบร้อยพร้อมกัน ดีร้ายอย่างไรก็เคยเผชิญหน้ากับผานกู่ด้วยกันมาก่อน นับว่าผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน

หานเจวี๋ยประเมินเทพมารปฐมภพต่ำลงไปมากนัก

คนผู้นี้ แค่เกิดนานกว่าเท่านั้น!

“ถูกต้อง แต่ย้อนกลับมาคุยกันก่อน สหายเต๋าหาน อาณาเขตเต๋านี้ของเจ้าสามารถต้านทานขุนพลศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่” หงหยวนถาม

หานเจวี๋ยตอบว่า “อืม ในเมื่อเป็นคนกันเอง เช่นนั้นข้าก็ไม่ปิดบังเจ้าแล้ว ต้านทานได้ แต่ก็เพียงต้านได้เท่านั้น หากว่าขุนพลศักดิ์สิทธิ์ทำการปิดล้อม ก็มีแต่ต้องติดอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล”

หงหยวนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร ใช้ฝึกบำเพ็ญได้พอดี”

นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ถามขึ้นว่า “ข้ามีโลกแห่งหนึ่งในการปกครอง…’

หานเจวี๋ยตัดบทนาง “ค่อยคุยกันทีหลังเถอะ!”

รอสยบทาสให้สำเร็จก่อน!

บุกเบิกห้วงมิติขึ้นในเขตเซียนร้อยคีรีได้ จะซุกซ่อนโลกใบหนึ่งไว้ไม่ใช่เรื่องยากเลย

ตอนแรกหานเจวี๋ยก็คิดจะปกป้องมรรคาสวรรค์ไว้เช่นนี้ แต่ทำเช่นนี้จะตัดขาดจากเส้นทางสวรรค์ฟ้าบุพกาล อีกทั้งเขากังวลถึงบรรพชนเต๋าและผานกู่ว่าจะอาศัยมรรคาสวรรค์บุกเข้าสู่อาณาเขตเต๋า อันตรายเกินไป

หากว่าเป็นแค่โลกของหงหยวน นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

หงหยวนไม่พูดมากอีก เพียงจ้องมองหานเจวี๋ยเงียบๆ

หลังจากตรวจดูจดหมายเสร็จ หานเจวี๋ยก็เริ่มสอดส่องแดนเซียนรวมถึงปวงสวรรค์หมื่นโลกาต่อ

หลายวันต่อมา เขาถึงได้เริ่มฝึกบำเพ็ญอีกครั้ง

ขณะที่หานเจวี๋ยเริ่มหลอมดวงดาว รัศมีที่แผ่ออกมาจากร่างทำให้หงหยวนตกตะลึง

‘เขาอยู่ระดับใดกันแน่ หรือจะเป็นระดับยอดมหามรรคที่เขาพูดถึงก่อนหน้านี้’

หงหยวนคิดเงียบๆ นางไม่กังวลกับอนาคตของตัวเองเลย ถึงอย่างไรก็ดีกว่าตายเพราะขุนพลศักดิ์สิทธิ์

….

ด้วยความเคลื่อนไหวอย่างใหญ่โตของหมื่นขุนพลศักดิ์สิทธิ์ การกระทำของพวกเขาเลื่องลือไปทั่วฟ้าบุพกาลแล้วเช่นกัน ความเร็วของข่าวลือที่แพร่ออกไปเร็วยิ่งกว่าความเร็วในการเดินทางของพวกเขา

ท้องนภาปกคลุมด้วยเมฆาครึ้ม สายฝนสาดเทลงมา ไอหมอกลอยอวลไปทั่ว

ริมทะเลสาบขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง มีศาลาเล็กๆ ตั้งอยู่หลังหนึ่ง มีคนสี่คนกำลังตกปลาอยู่ข้างศาลา

เป็นเหล่าตาน เต้าจื้อจุน จ้าวเซวียนหยวนและเจียงอี้

“ขุนพลศักดิ์สิทธิ์มีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันแน่ มีคนบอกว่าเทียบเท่าอริยะมหามรรคหนึ่งหมื่นคน เกินไปหน่อยแล้วกระมัง!”

จ้าวเซวียนหยวนถามด้วยความสงสัย รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นข่าวเท็จ

เต้าจื้อจุนมองไปที่เหล่าตาน เอ่ยว่า “ผู้อาวุโส เล่ามาเถิด”

เหล่าตานแค่นเสียงกล่าว “อันที่จริงก็ไม่นับว่าเกินเลยไป ว่ากันตามจริงแล้วเก่งกาจยิ่งกว่าอริยะมหามรรคเสียอีก ปะทะกันตัวต่อตัว ขุนพลศักดิ์สิทธิ์ก็นับเป็นตัวตนชั้นแนวหน้าในหมู่อริยะมหามรรค ขุนพลศักดิ์สิทธิ์มิใช่สิ่งมีชีวิต แต่เป็นกฎระเบียบสูงสุดแห่งฟ้าบุพกาล ก็ทุกครั้งที่ฟ้าบุพกาลปรากฏต้นตอแห่งความโกลาหล พวกเขาจะปรากฏตัวขึ้น นี่คือเหตุผลที่ฟ้าบุพกาลคงอยู่มาได้ตลอดรอดฝั่ง

“ขุนพลศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัวขึ้นในครั้งนี้ คาดว่าเพื่อออกตามหาเทพมารอนธการ”

เจียงอี้ถามด้วยความอยากรู้ “ต่อให้เทพมารอนธการแข็งแกร่งเพียงใดก็สู้อริยะมหามรรคหนึ่งหมื่นคนไม่ได้กระมัง เมื่อเป็นเช่นนี้ เทพมารอนธการคงคุกคามฟ้าบุพกาลไม่ได้ เช่นนั้นเหตุใดล้วนกล่าวกันว่าเทพมารอนธการจะกระตุ้นให้เกิดมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่เล่า”

‘เหตุใดถึงเกิดปรากฏการณ์ประหลาดเช่นนี้’艾琳小說

หานเจวี๋ยถามในใจ

[จำเป็นต้องหักอายุขัยเก้าแสนล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

นี่คือค่าตัวของเหล่าจื่อ!

ดำเนินการต่อ!

จากนั้นจิตรับรู้ของหานเจวี๋ยเข้าสู่ภาพลวงตาวิวัฒนาการ

เขาลืมตาขึ้น พบว่าตนปรากฏขึ้นบนท้องนภาที่มีหมอกหนาตลบปกคลุมไปทั่ว เมื่อทอดมองลงไปด้านล่าง มองไม่เห็นพื้นดินหรือมหาสมุทรเลย เมื่อมองขึ้นไปด้านบน ก็ไม่เห็นตะวันจันทราหรือดวงดาว

เบื้องหน้ามีเงาร่างทรงพลังสูงใหญ่ร่างหนึ่งปรากฏขึ้น!

เขาเปลือยท่อนบน มือถือดาบใหญ่ที่ดูคล้ายขวานยักษ์ ฟาดฟันกำแพงเมฆาเบื้องหน้าอย่างต่อเนื่อง

ทุกครั้งที่ฟาดฟัน เมฆหมอกที่ตัดผ่านล้วนไหลบ่าเข้าสู่ตัวเขา ทำให้ร่างของเขาสูงใหญ่ขึ้น

ผานกู่!

เขากำลังทำอะไร

หานเจวี๋ยตกตะลึง จ้องมองแผ่นหลังของผานกู่

กล้ามเนื้อบนแผ่นหลังของผานกู่จู่โจมสายตายิ่งนัก ราวกับทิวเขามากมายที่กำลังกดทับเข้าหากัน ดุดันเผด็จการ

มีแสงแผ่ออกมาจากกำแพงเมฆาที่มองไม่เห็นปลายยอด เหนือศีรษะผานกู่ขึ้นไป เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นท่ามกลางกำแพงเมฆา สูงใหญ่ยิ่งกว่าผานกู่ ทรงอำนาจศักดิ์สิทธิ์

เทวีตราวินัย!

“ผานกู่ เจ้ากล้ารบกวนอำนาจศักดิ์สิทธิ์!”

น้ำเสียงเทวีตราวินัยเยียบเย็นอย่างยิ่ง

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ