ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 864

บทที่ 864 เปลี่ยนมือ ห้าเทวทัณฑ์

“เช่นนั้นเจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าผานกู่ไม่ได้เก็บกวาดสมบัติเหล่านั้นไปจนเกลี้ยงแล้ว”

เจียงอี้ถาม จากนั้นก็ขมวดคิ้ว

เหล่าตานกลอกตาใส่เขาทีหนึ่ง เอ่ยว่า “ผานกู่ไม่ใช่คนแบบนั้น ตำแหน่งที่ตั้งของแดนลึกล้ำไร้วิถีก็เป็นเขาที่เปิดเผยให้รู้”

เจียงอี้เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

จ้าวเซวียนหยวนตกอยู่ในห้วงความคิด

เต้าจื้อจุนเอ่ยถาม “เหล่าจื่อ เจ้านิกายทงเทียนและเทพสูงสุดหยวนสื่อล้วนแปรผันมาจากจิตดั้งเดิมของผานกู่ จะได้รับการดูแลเอาใจใส่จากผานกู่ก็เป็นเรื่องปกติ”

เหล่าตานเชิดหน้าด้วยความภาคภูมิใจ สีหน้าท่าทางสื่อว่าพวกเจ้ารีบชมเชยยกย่องข้าสิ

“จริงสิ ที่แดนลึกล้ำไร้วิถีคงไม่มีอันตรายกระมัง” เจียงอี้พลันเอ่ยถาม

เต้าจื้อจุนและจ้าวเซวียนหยวนมองไปที่เหล่าตานทันที

เหล่าตานแข็งทื่อไปทันใด

เขานึกถึงประสบการณ์ในช่วงหลายปีมานี้ อดไม่ได้ที่จะหนาวสะท้านขึ้นมา

คงไม่มีกระมัง…

ไม่มีทาง!

เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!

จะโชคร้ายถึงเพียงนี้ได้อย่างไร!

เหล่าตานหันไปมองพวกเต้าจื้อจุนทั้งสาม แววตาเลือนสลัว

พวกเต้าจื้อจุนถูกจ้องจนรู้สึกเก้อกระดาก พากันเบือนหน้าหนี

….

ท้องนภาไร้ขอบเขต หมู่เมฆซ้อนเป็นชั้นๆ

นักพรตเต๋าเสินเผาร่อนลงบนแท่นศิลาทรงกลมแท่นหนึ่ง รอบข้างมีดวงจิตมหามรรคอีกหลายสิบราย ล้วนพูดคุยกันเองอยู่

“ผู้นำดวงจิตเปลี่ยนคนแล้วจริงหรือ”

“ไม่ทราบแน่ชัด”

“เทพมหาทัณฑ์คือผู้ใด”

“ข้าเคยได้ยินมาก่อน ร่ำลือว่าเป็นตัวตนยุคบรรพกาลที่มีชีวิตอยู่มาตั้งแต่ยุคแห่งเทพมาร”

“ยุคแห่งเทพมาร…เช่นนั้นก็น่าทึ่งเสียจริง…”

“ในอดีตเทพมหาทัณฑ์เคยล่วงเกินผู้นำดวงจิตมหามรรค ถูกลงโทษเนรเทศไปยังก้นบึ้งแห่งฟ้าบุพกาล คอยปราบปรามวิญญาณอาฆาตแสนชั่วร้าย ไม่คิดเลยว่าจะฝ่าฟันกลับมาได้”

เหล่าดวงจิตมหามรรคพากันวิพากษ์วิจารณ์ ทว่านักพรตเต๋าเสินเผาไม่ได้เข้าร่วมวง

เขารู้ดีว่าพูดมากไปจะเป็นภัย

แค่รอชมความเปลี่ยนแปลงก็พอ ถึงอย่างไรเขาก็ทรยศต่อดวงจิตมหามรรคนานแล้ว

เวลานี้เอง ศีรษะของเทวีตราวินัยโผล่ขึ้นมาจากด้านล่าง สูงใหญ่ยิ่งกว่าภูเขา ยืดตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก้มมองดวงจิตมหามรรคทั้งหลาย

เหล่าดวงจิตมหามรรคทำความเคารพนางทันที

เทวีตราวินัยไม่เปล่งเสียง แค่รอคอยอยู่หน้าแท่นศิลา

ผ่านไปสักพักใหญ่

แสงสีดำสายหนึ่งร่วงลงมาจากฟ้า ร่อนลงบนแท่นศิลา เทพมหาทัณฑ์ค่อยๆ เดินออกมา

เส้นผมสีดำของเขายังคงปล่อยสยาย คราบเลือดบนชุดเกราะสีดำยังคงอยู่ ราวกับไม่มีวันลบล้างได้ตลอดกาล

ไอสังหารอันน่าหวาดหวั่นนั้นทำให้เหล่าดวงจิตมหามรรคตกใจถอยหลังไป บรรยากาศตึงเครียดอย่างยิ่ง

เทพมหาทัณฑ์กวาดตามองเหล่าดวงจิตมหามรรค เปิดปากถาม “ยังขาดผู้ใดอีกหรือไม่”

เหล่าดวงจิตมหามรรคมองหน้ากัน ไม่กล้าตอบ

เทพมหาทัณฑ์เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร ข้าจะตรวจสอบดูให้ชัดเจน ผู้ที่ไม่มาในวันนี้ ล้วนต้องตาย”

เหล่าดวงจิตมหามรรคเงียบเป็นเป่าสาก

“เทวีตราวินัย ไม่ได้พบกันเสียนาน ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะยังอยู่” เทพมหาทัณฑ์มองไปที่เทวีตราวินัยพร้อมเอ่ยยิ้มๆ เพียงแต่รอยยิ้มของเขามืดมนแฝงความเย็นชา

เทวีตราวินัยเอ่ยตอบอย่างเฉยเมย “ข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าจะยังอยู่”

เทพมหาทัณฑ์เอ่ยอย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “เทวีตราวินัย ขึ้นชื่อว่าตราวินัย ทว่ามักจะลงมือกระทำการเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานอยู่ร่ำไป ละเมิดกฎวินัยอยู่บ่อยครั้ง นับว่าบกพร่องต่อหน้าที่อย่างร้ายแรง เพียงแต่ข้าคือผู้นำดวงจิตคนใหม่ จะไม่ถือสาเอาความทุกเรื่องในอดีต”

เทวีตราวินัยเงียบงัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ