บทที่ 928 อายุเก้าล้านปี การเตรียมตัวของดวงจิตบรรพกาล
หลังจากหานเจวี๋ยสอดส่องโลกอนธการเสร็จก็เคลื่อนย้ายมายังอาณาเขตเต๋าหลัก เริ่มสอดส่องปวงสวรรค์หมื่นโลกา
ถึงแม้เขาเตรียมจะบุกเบิกโลกอนธการแล้ว แต่เขาก็ไม่คิดจะทอดทิ้งมรรคาสวรรค์
ไม่ว่าอย่างไรในชาตินี้ ต้นตอที่มาของเขาล้วนอยู่ที่มรรคาสวรรค์ เขาเป็นคนที่รำลึกถึงอดีตเสมอ หากว่าสามารถปกป้องมรรคาสวรรค์ได้ เขาก็ยินดีทำ
ไม่ใช่เพราะเป็นต้นตอที่มาเท่านั้น ศัตรูของเขาล้วนอยากครอบครองมรรคาสวรรค์ด้วย
หานเจวี๋ยได้ยอมแบกรับหน้าที่ผู้พิทักษ์มรรคาสวรรค์ไว้โดยไม่รู้ตัว หากเปลี่ยนเป็นตัวเขาในอดีตต้องปฏิเสธแน่นอน แต่ตอนนี้กลับรื่นรมย์นัก
นี่เป็นเพราะพลัง!
หานเจวี๋ยพบว่าตนมองสรรพสิ่งมรรคาสวรรค์ด้วยสายที่ราวกับมองเชื้อสายของตนอยู่ สนิทชิดใกล้อย่างน่าประหลาด
ไม่ใช่แค่เผ่ามนุษย์เท่านั้น เผ่าพันธุ์มรรคาสวรรค์ทั้งหมดล้วนเป็นเช่นเดียวกัน
มรรคาสวรรค์มีสรรพสิ่งหลากหลาย ปวงสวรรค์หมื่นโลกาก็มีเสน่ห์ต่างกันไป นี่คือความมีชีวิตชีวาที่หาจากโลกอื่นๆ ในฟ้าบุพกาลไม่ได้
โลกในฟ้าบุพกาลมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ทว่าไม่ได้สมบูรณ์แบบ
ความงดงามของมรรคาสวรรค์อยู่ที่ความมีชีวิตชีวาของสรรพสิ่ง ตะวันจันทราขุนเขาธาราผกผันน่าอัศจรรย์ สรรพสิ่งก็มีรักชอบเกลียดชังหลากอารมณ์
จู่ๆ หานเจวี๋ยก็นึกอยากออกท่องแดนเซียนอีกครั้ง เตรียมการว่าจะท่องเที่ยวโลกมนุษย์สามัญ เขาอยากเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ไปสัมผัสกับความหลากหลายผกผันในชีวิต
แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ต้องกำจัดดวงจิตบรรพกาลให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน
หลังผ่านไปหลายชั่วยาม เขากลับมาที่อาณาเขตเต๋าแห่งที่สามอีกครั้ง ฝึกบำเพ็ญต่อ
นับจากทะลวงขั้นครั้งก่อนเวลาล่วงเลยมาหนึ่งล้านสี่แสนปีแล้ว ตามที่เขาคาดการณ์ไว้ อย่างน้อยคงใช้เวลาอีกห้าแสนปีกว่าจะทะลวงสู่ระยะสมบูรณ์
พอเวลานั้นมาถึงจะกลายเป็นวันตายของดวงจิตบรรพกาล!
หานเจวี๋ยเริ่มตั้งตารอแล้ว ไอรีนโนเวล
….
ในส่วนลึกของแดนบรรพกาล ณ ทะเลสาบกว้างไพศาลผืนหนึ่ง เงาร่างนับไม่ถ้วนลอยอยู่เหนือผิวทะเลสาบ ดูคล้ายซากศพ เพียงแต่กายเนื้อกลับสมบูรณ์ดี มีทั้งมนุษย์และปีศาจ รวมถึงมารด้วย
หมอกหนาปกคลุมเหนือทะเลสาบ ดูราวกับโลกแห่งหมอก รอบข้างขุ่นมัวไปหมด
ในเวลานี้ ปรมาจารย์ฟ้าทลายและดวงจิตบรรพกาลยืนอยู่เหนือยอดเมฆ ทอดมองร่างนับไม่ถ้วนที่ลอยอยู่บนผิวทะเลสาบ
“ดวงจิตท่าน ร่างแยกบรรพกาลบรรลุถึงหลักล้านแล้ว มารมรรคาก็ทะลุหลักแสนล้านแล้ว จะลงมือยามใดขอรับ” ปรมาจารย์ฟ้าทลายเอ่ยถาม
ดวงจิตบรรพกาลตอบว่า “ยังไม่เพียงพอ ต้องมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ก่อน มรรคาสวรรค์ฝ่าเคราะห์ภัยที่ดูเหมือนจะผ่านไปไม่ได้มาหลายครั้งแล้ว ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ศัตรูเตรียมตัวไม่รอบคอบสมบูรณ์พอ จึงไม่สามารถถล่มมรรคาสวรรค์ให้ราบคาบได้”
ปรมาจารย์ฟ้าทลายขมวดคิ้ว
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยไปว่า “มรรคาสวรรค์ก็เตรียมการอยู่เช่นกัน คุณสมบัติของอริยะสวรรค์เกรียงไกรเลิศล้ำ ช่วงที่ผ่านมาปิดด่านบำเพ็ญตลอด เกรงว่า…”
ชื่อเสียงของอริยะสวรรค์เกรียงไกรเป็นที่เลื่องลือเกินไป กิตติศัพท์การต่อสู้เหล่านั้นมากพอจะทำให้ผู้ทรงพลังทั้งหมดในฟ้าบุพกาลกริ่งเกรง
ดวงจิตบรรพกาลกล่าวว่า “ข้ารู้ถึงความแข็งแกร่งของเขา ดังนั้นถึงต้องชุบเลี้ยงมารมรรคาให้ดี เมื่อบรรลุถึงระดับยอดมหามรรค ตบะจะก้าวหน้าไปช้ายิ่ง ต่อให้คุณสมบัติของเขาเลิศล้ำเพียงใดก็ไม่มีทางก้าวข้ามยอดมหามรรคได้ภายในไม่กี่ล้านปี”
ปรมาจารย์ฟ้าทลายใคร่ครวญตามก็รู้สึกว่ามีเหตุผล
เขาหันไปมองร่างบุตรแห่งสวรรค์นับล้านที่ลอยอยู่บนผิวทะเลสาบ ท่าทางใช้ความคิด
“ศึกมรรคาสวรรค์สำคัญยิ่ง มิใช่แค่ดวงจิตมหามรรคที่เฝ้ามองอยู่ ยังมีตัวตนเหนือชั้นเหล่านั้นด้วย หากมีชัยนับจากนี้จะได้อยู่เหนือฟ้าบุพกาล หากปราชัยย่อมดับสูญไปตลอดกาล”
ดวงจิตบรรพกาลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น 艾琳小說
ปรมาจารย์ฟ้าทลายนึกถึงตัวตนลึกลับที่ผ่าแยกแดนบรรพกาลก่อนหน้านี้ อดหนาวสะท้านขึ้นมาไม่ได้
ฟ้าบุพกาลคล้ายจะอยู่ในสายตาของพวกเขา แต่กลับซุกซ่อนตัวตนที่ไม่รู้จักและไม่ทราบที่มาที่ไปเอาไว้มากมาย
ยิ่งตบะสูงเท่าไรความกริ่งเกรงในฟ้าบุพกาลก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ปรมาจารย์ฟ้าทลายส่ายหน้าพลางมองไปทางมรรคาสวรรค์ เงาร่างชราภาพร่างหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวเขา
“ตอนนี้เจ้าไปอยู่ที่ใดกัน”
….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...