ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 951

บทที่ 951 บรรลุสู่ผู้สร้างมรรคา

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร เหตุใดข้าต้องสังหารเขาด้วย”

ชิงเทียนเสวียนจีขมวดคิ้วเอ่ยถาม จากนั้นก็สะบัดมือเซียนพเนจรออก

ความหวาดหวั่นที่เขามีต่อเซียนพเนจรลึกล้ำขึ้นกว่าเดิม

มีชีวิตมานานขนาดนี้ เซียนพเนจรคือตัวตนที่เขามองไม่กระจ่างที่สุดและเป็นตัวตนที่อันตรายที่สุดด้วย!

เซียนพเนจรเอ่ยว่า “อริยะสวรรค์เกรียงไกรเป็นตัวประหลาด ไม่เกี่ยวข้องกับฟ้าบุพกาล เขาเหยียบย่ำตัวตนไร้พ่ายมากมายขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด ส่งผลกระทบต่อดวงชะตาฟ้าบุพกาลอย่างมหันต์…”

วาจาที่เขาร่ายออกมา เหมือนที่เคยพูดกับพวกหานฮวงไม่มีผิดเลย

ชิงเทียนเสวียนจีฟังแล้วจมอยู่ในห้วงความคิด

เขาไม่ได้หวั่นไหวไปกับคำพูดของเซียนพเนจร เพียงแต่ไม่รู้ว่าควรหนีเอาตัวรอดอย่างไรเท่านั้น

อีกฝ่ายกล่าวมาถึงขั้นนี้แล้ว ต้องการให้เขาตัดสินใจแล้วแน่นอน ไม่ปล่อยให้บ่ายเบี่ยงได้อีก

ขอเพียงปฏิเสธ เช่นนั้นก็เหลือเพียงสู้ตายอย่างเดียว!

จากที่ทั้งสองประมือกันเมื่อครู่นี้เพียงพอจะแสดงให้เห็นความแตกต่างในด้านของพลังแล้ว

เซียนพเนจรจ้องมองชิงเทียนเสวียนจี เอ่ยว่า “นอกจากเจ้าแล้ว ข้ายังเกื้อหนุนบุตรแห่งสวรรค์ไว้อีกหลายคน บุตรแห่งสวรรค์เหล่านี้จะไม่ถูกควบคุมโดยเจตจำนงแห่งสรรพสิ่ง ซึ่งความหมายที่แฝงอยู่ในเรื่องนี้ยิ่งใหญ่นัก แปลว่าพวกเจ้าจะหลุดพ้นจากสรรพสิ่ง มองทะลุความจริงในโลกหล้า วันหน้าย่อมกลายเป็นเทพได้ไม่ยาก”

ชิงเทียนเสวียนจีสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง เอ่ยไปว่า “ข้าขอบคุณในความชื่นชมของเจ้า แต่หากว่าข้ายอมรับก็แปลว่าวิถีทางที่ข้ามุ่งหมายจะขาดสะบั้นลง ไม่อาจหวนกลับคืนมาได้อีกตลอดกาล ดังนั้นข้าขอปฏิเสธ มาเถิด ข้ารู้ว่าเจ้าไม่มีทางปล่อยข้าไป ต่อให้ต้องตาย ข้าก็ต้องการรักษาปณิธานดั้งเดิมของตนเอาไว้!

“มรรคาสวรรค์เลี้ยงดูอุ้มชูข้ามา ข้าก็จะสู้เพื่อมรรคาสวรรค์!”

รอยยิ้มของเซียนพเนจรหายวับไปในชั่วพริบตา แววตาเย็นชาขึ้นมา

เขาเอ่ยด้วยเสียงเยียบเย็น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไร้น้ำใจเลย ข้ามอบอำนาจศักดิ์สิทธิ์ให้เจ้าได้ก็สามารถริบกลับมาได้เช่นกัน ไม่ใช่แค่อำนาจศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แม้แต่คุณสมบัติของเจ้าก็สามารถชิงมาได้!”

ชิงเทียนเสวียนจีระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น “คุณสมบัติของข้าไหนเลยจะใช่สิ่งที่เจ้าสามารถชิงไปได้!”

ตูม!

คลื่นพลังอันน่าหวาดหวั่นปะทุออกมาจากร่างของชิงเทียนเสวียนจี แสงศักดิ์สิทธิ์แห่งกฎเกณฑ์สูงสุดส่องแสงเจิดจ้า เป่าพัดเรือนผมยาวของเขาให้ปลิวสะบัด

เซียนพเนจรหรี่ตาลง เอ่ยพึมพำ “กลิ่นอายนี้…ผิดปกติ…เป็นไปไม่ได้!”

….

ณ ดินแดนเวิ้งว้าง

หานฮวง เจียงเจวี๋ยซื่อและหานชิงเอ๋อร์ยังคงล่องลอยอยู่ เพียงแต่ซากศพที่โอบล้อมอยู่รอบข้างกลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

หานชิงเอ๋อร์กล่าวอย่างจนปัญญาว่า “เหตุใดคนผู้นั้นถึงยังไม่มาอีก”

นางไม่ได้เหมือนหานฮวงและเจียงเจวี๋ยซื่อที่พัฒนาความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องได้ สำหรับนางแล้วการอยู่ที่นี่ช่างทรมานนัก ตบะก็ไม่ก้าวหน้าขึ้นเลย

เจียงเจวี๋ยซื่อลืมตาขึ้นพลางเอ่ยว่า “ข้าเกิดพลังรับรู้ในดินแดนเวิ้งว้างได้แล้ว เขาไม่เคยโผล่มาอีกจริงๆ ดูเหมือนโชคของข้าและคุณสมบัติของศิษย์น้องจะไม่ใช่สิ่งที่ดูดซับได้ง่ายดายปานนั้น”

หานฮวงลืมตาขึ้น เอ่ยด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจ “เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้ว ข้าสงสัยว่าการที่พวกเราฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิมจะเป็นเพราะคุณสมบัติและโชคที่เขาดูดซับไปหวนย้อนกลับมา แปลว่าเขาอาจจะถูกพลังสะท้อนกลับเผชิญความทุกข์ทรมานอยู่ก็เป็นได้”

หานชิงเอ๋อร์เอ่ยถาม “เช่นนั้นให้ท่านพ่อมารับพวกเราเลยดีหรือไม่”

เจียงเจวี๋ยซื่อกล่าวว่า “รอไปก่อนเถอะ นี่คือโอกาสอย่างหนึ่ง คนผู้นี้ทรงพลังเกินไป จะปล่อยให้เขาก้าวหน้าไม่ได้ เขาสามารถยึดคุณสมบัติของพวกเราไปได้ก็แปลว่าชิงคุณสมบัติของคนอื่นไปได้เช่นกัน เมื่อสั่งสมคุณสมบัติรวมกันมากเข้า ผลลัพธ์ในภายหน้าก็ยากจะจินตนาการได้”

เขาอาศัยการกลับชาติมาเกิดซ้ำๆ เพื่อเพิ่มพูนคุณสมบัติของตน ถึงได้ประสบความสำเร็จเช่นในวันนี้ เขาก็กลัวว่าจะปรากฏศัตรูที่เหมือนตัวเองขึ้นเช่นกัน

อีกทั้งเซียนพเนจรก็ไม่จำเป็นต้องกลับชาติมาเกิด แต่บังคับชิงคุณสมบัติไปได้เลย เกินเหตุกว่าเขาไปมากนัก

หานฮวงเงียบงันไม่ส่งเสียง เพียงแต่แววตาของเขากลับสุมไปด้วยเพลิงโทสะ

ในช่วงหนึ่งแสนปีมานี้ นอกจากเขาจะตั้งต้นฝึกบำเพ็ญใหม่แล้ว เพลิงโทสะของเขาก็สะสมเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ

พอแจ้งให้หานเจวี๋ยทราบเรื่องนี้ เขารู้สึกโล่งใจอยู่เพียงชั่วครู่เท่านั้น สิ่งที่มีมากกว่าคือความละอายใจ

ก่อนจะออกจากอาณาเขตเต๋า เขารับประกันไว้สารพัดว่าไม่มีทางเกิดเรื่องขึ้นแน่นอน ซ้ำยังพูดจาโอหังว่าในฟ้าบุพกาลมีแค่ไม่กี่คนที่สามารถต่อกรกับเขาได้

ตอนอยู่ที่วังสวรรค์เขาเอาชนะผู้แข็งแกร่งมานับไม่ถ้วนจริงๆ นี่เป็นความพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวของเขา

ต่อให้เป็นเพียงครั้งเดียว เขาก็ไม่สามารถทนรับได้

เพลิงพิโรธแห่งความโกรธแค้นเข้าครอบงำจิตใจของหานฮวง เพียงแต่เขาไม่ได้แสดงออก เจียงเจวี๋ยซื่อและหานชิงเอ๋อร์ล้วนไม่สังเกตเห็นเลย

เจียงเจวี๋ยซื่อมองไปที่หานฮวง เอ่ยถามว่า “ศิษย์น้องฮวง ตบะถึงระดับใดแล้ว ฟื้นฟูสู่มหามรรคหรือยัง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ