บทที่ 956 ห่างชั้น โลกปฐมยุค
หลังจากสาปแช่งเซียนพเนจรตาย หานเจวี๋ยจ้องมองไปที่ด้านล่างกฎเกณฑ์สูงสุด กฎเกณฑ์สูงสุดฟื้นฟูกลับมาไม่ส่ายไหวอีกต่อไป ผู้ทรงพลังต่างแยกย้ายจากไป
หานเจวี๋ยถามในใจ ‘เซียนพเนจรยังฟื้นคืนชีพได้หรือไม่’
[บ่วงกรรมนี้ไม่มีตัวตนอยู่]
เช่นนั้นก็แปลว่าตายสนิทแล้ว!
หานเจวี๋ยถอนหายใจอย่างโล่งอก
ศัตรูลดน้อยลงไปอีกคน ยอดเยี่ยมมาก
ต่อไปก็สามารถฝึกบำเพ็ญรอเจตจำนงฟ้าบุพกาลได้แล้ว
หานเจวี๋ยเช็ดถูหนังสือแห่งความโชคร้ายแม้จะไม่มีฝุ่นก็ตาม เพียงมีผลทางความรู้สึกเท่านั้น
“เจ้าเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของข้าตลอดกาล”
หานเจวี๋ยพึมพำกับตัวเอง คำว่าสมบัติล้ำค่าในโลกบำเพ็ญย่อมหมายถึงสมบัติวิเศษ
ตลอดเส้นทางชีวิตนี้ หนังสือแห่งความโชคร้ายมีความดีความชอบใหญ่หลวงที่สุด
สังหารศัตรูไปแล้วมากมาย ทำให้ศัตรูดับสูญไปโดยไม่ทันได้ล้างแค้น ช่วงชิงเวลาฝึกบำเพ็ญอันยืนยาวมาให้เขา
เขาเก็บหนังสือแห่งความโชคร้ายให้ดี จากนั้นจึงฝึกบำเพ็ญต่อ
เซียนพเนจรเพิ่งถูกสาปแช่งจนตาย แต่เขายังออกไปลอยชายไม่ได้
อย่างน้อยต้องรอให้เวลาผ่านไปอย่างน้อยห้าแสนปีก่อนถึงจะออกไปได้
ระยะเวลาห้าแสนปีสำหรับสรรพสิ่งแล้วไม่รู้ว่าเป็นช่วงเวลากี่ยุคกี่สมัย แต่ในสายตาของยอดมหามรรคแล้ว เปรียบเสมือนการงีบตื่นหนึ่ง ไม่นับว่ายาวนานเลย
หานเจวี๋ยหลับตาลง
….
ณ ห้วงอวกาศเวิ้งว้างมืดสลัว ไอหมอกลอยอวลปกคลุม
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าเงาร่างสูงใหญ่ไพศาล ทำความเคารพอย่างนอบน้อม
เขาก้มหน้าพลางกล่าวว่า “ขอเรียนถามว่าฟ้าบุพกาลกำลังจะเผชิญความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงใช่หรือไม่”
เมื่ออยู่ต่อหน้าตัวตนที่ไม่อาจกล่าวนามได้ผู้นี้ เขาไม่กล้าจ้องมองตรงๆ แต่สุ้มเสียงก็หาได้วางตัวต่ำต้อยไม่
ตัวตนนี้ก็คือมหาเทวาพ้นนิวรณ์ เพียงแต่จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายไม่ทราบนามเท่านั้น
“ถูกต้อง”
มหาเทวาพ้นนิวรณ์ตอบเพียงสองคำ ทว่าสร้างแรงกดดันให้จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายอย่างไร้ที่สิ้นสุด
“เราสมควรจัดการอย่างไร” ไอรีนโนเวล
“ตอนนี้เป็นอย่างไร อนาคตก็ดำเนินต่อไปเช่นนั้น”
“ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวหรือ”
“เจ้าอ่อนแอเกินไป เกมหมากต่อไปที่จะมาถึงเจ้าไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วม ไม่มีคุณสมบัติพอจะเป็นตัวเบี้ยด้วยซ้ำ”
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายเงียบไป
ถึงแม้วังสวรรค์จะพัฒนาไปได้ยอดเยี่ยมยิ่ง แต่คุณสมบัติของตัวเขายังคงไม่ได้เรื่อง จนตอนนี้ก็ยังไม่พิสูจน์มหามรรค
มหาเทวาพ้นนิวรณ์เอ่ยขึ้นว่า “ในวังสวรรค์มีอยู่สองคนที่เข้าร่วมเกมนี้ได้”
แววตาจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายเปล่งประกาย เดาได้แล้วว่าทั้งสองคนนั้นคือผู้ใด
“เราเข้าใจแล้ว ขอบพระคุณคำชี้แนะจากผู้อาวุโส”
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายคารวะ จากนั้นจึงหันหลังจากไป
….
หลังกลับถึงวังสวรรค์ จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายมาที่หน้าตำหนักของหานฮวง มีทหารสวรรค์สี่นายเฝ้าอยู่หน้าประตูใหญ่ พอเห็นจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายก็คุกเข่าทำความเคารพทันที
“แม่ทัพเทพหานยังไม่ออกจากปิดด่านหรือ”
จักรพรรดิสวรรค์ยกสองมือไพล่หลัง เอ่ยถามเสียงเบา
ทหารสวรรค์นายหนึ่งกล่าวตอบ “ยังไม่ออกมาพ่ะย่ะค่ะ”
พวกเขาไม่เคยได้พบหานฮวงเลย เนื่องจากทหารสวรรค์ที่รับผิดชอบเฝ้ายาม ณ ตำหนักนี้ผลัดเปลี่ยนกันมานับพันรุ่นแล้ว สำหรับเหล่าทหารสวรรค์หานฮวงคือหนึ่งในตำนานเล่าขานแต่โบราณ พวกเขาล้วนวาดหวังว่าจะได้เห็นแม่ทัพเทพผู้ไร้พ่ายในตำนานท่านนั้นเช่นกัน
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายไม่ได้พูดอะไรมากความอีก หันหลังเตรียมจากไป
ในเวลานี้เอง ประตูใหญ่ของตำหนักพลันเปิดออก รัศมีน่าหวาดหวั่นสายหนึ่งพุ่งออกมา กดทับทหารสวรรค์ทั้งสี่คนทรุดลงไปคุกเข่าอยู่บนพื้นทันที
ชุดคลุมมังกรของจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายพัดไหวรุนแรง เขาหันไปมอง สีหน้าสงบนิ่งทว่าในใจกลับเต็มไปด้วยความตระหนกว้าวุ่น
รัศมีเช่นนี้
เด็กดี!
ทันทีที่จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายเข้าไปในตำหนัก ประตูใหญ่ก็ปิดลง ทหารสวรรค์ทั้งสี่นายลุกขึ้น มองหน้ากันไปมา ไม่กล้าพูดกันสักประโยค
หลังจากเข้ามาในตำหนัก จักรพรรดิสวรรค์เดินตรงเข้าไปหา เขามองเห็นเงาร่างของหานฮวงที่กำลังนั่งสมาธิอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...