บทที่ 959 คิดสังหารข้าก็ต้องตาย
หลังจากร่างจำแลงเจ็ดกฎเกณฑ์สูงสุดถูกทำลายก็ลายเป็นละอองแสงนับไม่ถ้วน ทั้งหมดควบรวมเข้าด้วยกัน รวมร่างเป็นเงาร่างสูงใหญ่มหึมา กระทั่งเทียบได้กับทั้งฟ้าบุพกาล ราวกับสวรรค์ของฟ้าบุพกาล
เมื่ออยู่ต่อหน้าเงาร่างใหญ่มหึมานี้หานเจวี๋ยดูเล็กจ้อยอย่างยิ่ง แม้กระทั่งตัวเขาที่บรรลุยอดมหามรรคระยะสมบูรณ์แล้วก็ค่อนข้างตื่นตระหนกเช่นกัน
เทียบกันแล้วช่างดูน่าเหลือเชื่อราวกับเม็ดเซลล์กำลังแหงนหน้ามองยอดเขาสูง!
ความยิ่งใหญ่นี้ก้าวข้ามระดับชั้นไปแล้ว!
ถึงแม้หานเจวี๋ยจะสามารถขยายร่างให้ใหญ่โตไร้ขอบเขตได้เช่นกัน แต่ต่อให้ขยายร่างใหญ่แค่ไหนก็ไม่ถึงระดับเดียวกันกับฟ้าบุพกาล
แต่เงาร่างมหึมาเบื้องหน้านี้กลับทำได้!
ความรู้สึกกดดันที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าทำให้คนหายใจติดขัด กลิ่นอายของร่างนี้เหนือล้ำกว่าดวงจิตบรรพกาลด้วยซ้ำ!
นามหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวเขา
ผู้สร้างมรรคา!
เป็นไปไม่ได้กระมัง!
ต้องเผชิญหน้ากับผู้สร้างมรรคาอย่างนั้นหรือ
จิตใจหานเจวี๋ยดำดิ่งลงสู่หุบเหวลึก
ดูเหมือนหานเจวี๋ยในอนาคตจะตกตะลึงเช่นเดียวกัน นิ่งเงียบอยู่นาน
เงาร่างมหึมาสูงใหญ่เหลือเกิน มองไม่เห็นส่วนหัวของเขาเลย น้ำเสียงทรงพลังเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ดังขึ้น “หานเจวี๋ย เก็บตัวหดหัวไปตั้งแต่ตอนนี้ยังทันเวลา นับจากนี้ไปขอเพียงเจ้าอยู่แต่ในอาณาเขตของตนหรือแค่ในมรรคาสวรรค์ ไม่ก้าวก่ายฟ้าบุพกาลและไม่ช่วยมรรคาสวรรค์พัฒนาตัว เคราะห์ภัยครานี้ก็นับว่าผ่านพ้นไปแล้ว”
หานเจวี๋ยในอนาคตยังคงเงียบงัน
ภาพลวงตาวิวัฒนาการสิ้นสุดลงเท่านี้
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น สีหน้าตึงเครียด
เหตุการณ์ในช่วงหลังเขาอาจจะยอมสยบหรือไม่ก็ถูกสังหารในชั่วพริบตาไป มิเช่นนั้นคงไม่สิ้นสุดลงเพียงเท่านี้
เขาคิดว่ามีความเป็นไปได้ราวแปดเก้าส่วนที่จะเป็นไปในกรณีแรก
ยอมจำนน จากนั้นก็เก็บตัวอยู่แต่ในอาณาเขตเต๋า ฝึกบำเพ็ญต่อไป
ต่อให้ผู้สร้างมรรคาแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถบุกเข้าสู่อาณาเขตเต๋าได้ ดังนั้นอีกฝ่ายถึงได้ยอมมอบโอกาสให้เขา
เพราะทราบดีว่าไม่อาจสังหารเขาอย่างสิ้นเชิงได้ ดังนั้นจึงยอมอ่อนให้เขาขั้นหนึ่ง
หานเจวี๋ยถามในใจ ‘ในภาพลวงตาวิวัฒนาการเมื่อครู่นี้ เงาร่างมหึมาที่ข้าเผชิญหน้าในช่วงสุดท้ายใช่ผู้สร้างมรรคาหรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยห้าพันล้านล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ค่าตัวระดับนี้น่าจะไม่ใช่แล้ว
ช่างเถอะ ปลอดภัยไว้ก่อน
ดำเนินการต่อ!
[ไม่ใช่]
หานเจวี๋ยโล่งอกแล้ว
หนึ่งพันล้านล้านปีกับห้าพันล้านล้านปีต่างกันขนาดนี้เชียวหรือ
เขารู้สึกเงาร่างมหึมานั้นแตกต่างไปจากดวงจิตบรรพกาลราวฟ้ากับเหว ไม่ใช่ตัวตนในระดับเดียวกันอย่างสิ้นเชิงเลย
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว
เช่นนี้สมควรทำอย่างไรดีเล่า
เขาต้องหาทางรับมือกับเจตจำนงฟ้าบุพกาลให้ดีก่อน จากนั้นค่อยไปรับการท้าสู้จากสรรพสิ่ง
ไม่สนแล้ว ฝึกบำเพ็ญไปก่อนแล้วกัน!
ถึงอย่างไรเขาก็ซ่อนตัวอยู่ในอารามเต๋าไม่มีผู้ใดมาสร้างปัญหาให้เขาได้ ส่วนเหล่าศิษย์ในอาณาเขตเต๋าแห่งอื่นก็ถูกอาณาเขตเต๋าขัดขวางไว้ ไม่สามารถหนีออกไปได้เช่นกัน
ต่อให้ระดับความเกลียดชังสูงแค่ไหนก็ทนการเคี่ยวกรำของกาลเวลาไม่ไหว ต้องหมดแรงไปแน่!
ต้องกล่าวเลยว่า เจตจำนงฟ้าบุพกาลเผด็จการโดยแท้ ฐานะศัตรูร่วมกันของเหล่าสรรพสิ่งมาเร็วเหลือเกิน เสมือนตั้งค่าระบบโลกใหม่ไม่มีผิด
หานเจวี๋ยอดไม่ได้ที่นึกถึงวาจาที่ผานกู่เคยกล่าวกับตนไว้ในอดีต
ทุกสิ่งล้วนเป็นอนิจจัง!
บงการได้แม้กระทั่งโลกและเจตจำนงส่วนบุคคลได้ แล้วความหมายพื้นฐานในชีวิตจะต่างอันใดกับอนิจจังเล่า
หากไม่บรรลุสู่ผู้สร้างมรรคาสุดท้ายก็ยังอ่อนแออยู่ดี!
….
สิบปีต่อมา
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ขมวดคิ้วแน่น
เดิมทีเขาคิดจะปิดด่านต่อไปอีกสามสี่แสนปี แต่สถานการณ์กลับไม่สู้ดีเลย
ตัวเขาน่ะไม่เป็นไร แต่มรรคาสวรรค์เผชิญแรงกดดันจากกลุ่มอิทธิพลต่างๆ ในละแวกมรรคาสวรรค์มีอริยะมหามรรคประจำการอยู่ไม่ต่ำกว่าร้อยราย
ถูกแล้ว อริยะมหามรรคนับร้อย!
ปกติแล้วฟ้าบุพกาลมีอริยะมหามรรคไม่มากขนาดนี้ แต่หลังจากเจตจำนงฟ้าบุพกาลฟื้นตื่นขึ้นมา ตัวตนพิสดารสารพัดล้วนปรากฏตัวขึ้น!
เส้นทางสวรรค์ฟ้าบุพกาลครึ่งหนึ่งถูกเหยียบย่ำพังทลาย สำนักซ่อนเร้นแห่งมรรคาสวรรค์ยิ่งโกลาหลไปใหญ่ ราวกับล่มสลายไปแล้ว
หานเจวี๋ยยังทำนายพบด้วยว่าเหล่าศิษย์และบุตรธิดาอย่างพวกหานทั่ว หานฮวงรวมถึงพวกโจวฝานล้วนเผชิญการโจมตีสารพัด ถึงแม้พวกเขาจะมีความเกลียดชังในตัวหานเจวี๋ยเช่นกัน แต่สรรพสิ่งฟ้าบุพกาลต่างไม่เชื่อ คิดจะจับตัวพวกเขามาข่มขู่หานเจวี๋ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...