บทที่ 961 เลิศล้ำไร้พ่าย อำนาจศักดิ์สิทธิ์ฟ้าบุพกาล
หานเจวี๋ยชูมือขวาขึ้น ตราปฐมยุคประทับนภาก่อตัวขึ้นข้างกาย แผ่แสงสีแดงออกมา สาดส่องอาณาเขตปฐมภพ ดูน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึง
เขาจ้องมองเหล่าจื่อด้วยสีหน้าเรียบเฉย เอ่ยไปว่า “ขอบคุณสำหรับคำเตือน แต่หากเจ้าต้องการเป็นศัตรูกับข้า ข้าก็จะไม่ไว้ไมตรี เตรียมตัวรอรับความตายได้เลย”
เหล่าจื่อเอ่ยด้วยสีหน้าเฉยเมย “ข้าก็อยากตระหนักถึงความร้ายกาจของอริยะสวรรค์เกรียงไกรอยู่พอดี เจ้าฝึกบำเพ็ญมาเนิ่นนานจนก้าวข้ามผู้อาวุโสอย่างพวกเราไปแล้ว หากพ่ายแพ้แก่เจ้า ก็นับว่ามรรคาสวรรค์มีผู้สืบทอดแล้ว”
หานเจวี๋ยยิ้มเล็กน้อย
ช่างหาข้ออ้างเสียจริง!
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็อย่าได้โทษว่าเขาไม่เกรงใจ!
เขาพลันเลือนหายไป ร่างเขายังไม่ทันเลือนหายไปอย่างสมบูรณ์ดี เขาก็ไปโผล่ด้านหลังเหล่าจื่อแล้ว
เหล่าจื่อเบี่ยงเท้าออกไป ปราณกระบี่ใต้เท้าพุ่งขึ้นมาสาดประกายแสงกระบี่ ม่านตาหานเจวี๋ยหดตัววูบ ใช้ปฐมยุคประทับนภากดทับลงไป สะกดปราณกระบี่เอาไว้ จากนั้นหานเจวี๋ยพลันตวัดมือสำแดงฝ่ามือสวรรค์มหาเกรียงไกร!
เหล่าจื่อหมุนตัว ใช้ดัชนีต่างกระบี่
ระดับความเร็วของทั้งสองฝ่ายรวดเร็วสุดขีด พริบตาเดียวก็ประมือกันไปหลายร้อยล้านครั้งแล้ว
ปราณกระบี่ตวัดวาด ฟ้าบุพกาลพังทลาย ราวกับมีใยแมงมุมใหญ่ยักษ์ใยหนึ่งครอบคลุมทั่วฟ้าบุพกาลไว้ เป็นฉากที่ตระการตาอย่างยิ่ง
‘สมเป็นเหล่าจื่อ มีฝีมืออยู่บ้าง’
หานเจวี๋นทอดถอนใจอยู่ในใจ
แต่ยังคงมิใช่คู่ต่อสู้ของข้าอยู่ดี!
หานเจวี๋ยหยุดนิ่งกะทันหัน ตราปฐมยุคประทับนภาแผ่พลังแห่งมิติออกมา เคลื่อนย้ายเหล่าจื่อเข้าไปในตราปฐมยุคประทับนภาเสียเดี๋ยวนั้น
เหล่าจื่อมีสีหน้าตื่นตะลึง แต่เขาไม่ได้ตระหนกลนลาน กายเนื้อแปลงเป็นปราณกระบี่สายหนึ่ง แต่ยังคงไม่อาจหลบหนีออกไปได้
ปราณกระบี่สายนี้เริ่มสั่นรุนแรง
หานเจวี๋ยเงยหน้าขึ้นในทันใด เห็นเพียงว่าปรากฏรอยปริแยกขึ้นท่ามกลางห้วงอวกาศอันมืดมิด แม่น้ำใหญ่สายหนึ่งถาโถมลงมา สายน้ำทั้งหมดล้วนเป็นปราณกระบี่
แม่น้ำมรรคกระบี่!
ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนพุ่งโถมลงมาเสียงดังกึกก้อง กระแทกเข้าใส่ตราปฐมยุคประทับนภา
หานเจวี๋ยหรี่ตาลง พลังปฐมยุคนับไม่ถ้วนถ่ายเทหลั่งไหลเข้าไปในตราปฐมยุคประทับนภา ตราปฐมยุคประทับนภาขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว แม่น้ำมรรคกระบี่ทั้งสายพออยู่ต่อหน้ามันแล้วพลันดูเล็กจ้อยลงไปเลย
ไม่ว่าแม่น้ำมรรคกระบี่จะพุ่งโจมตีอย่างไร ก็ไม่อาจสลายทำลายตราปฐมยุคประทับนภาได้
เหล่าจื่อกลับคืนสู่กายเนื้ออีกครั้ง แช่อยู่ในแม่น้ำมรรคกระบี่ เขาตระหนกขึ้นมาเล็กน้อย
‘นี่คือพลังวิเศษใด…แข็งแกร่งถึงเพียงนี้…’
จิตใจเหล่าจื่อจมดิ่งลงสู่เหวลึก
เขาเดาได้ว่าตนอาจจะพ่ายแพ้ แต่ไม่คิดเลยว่าจะพ่ายแพ้อย่างสิ้นท่าเช่นนี้ หากหานเจวี๋ยทุ่มพลังทั้งหมดออกมา เขาคงสู้ไม่ได้เลย
ไม่แปลกเลยที่จะทำลายขุนพลศักดิ์สิทธิ์สองหมื่นรายได้ ไม่แปลกเลยที่ตัวตนโอหังสุดขีดอย่างดวงจิตบรรพกาลจะหนีความตายไม่พ้น
เหล่าจื่อหันไปเอ่ยกับหานเจวี๋ยว่า “ข้ายอมรับความพ่ายแพ้”
พอสิ้นเสียงเหล่าจื่อก็สลายไปดั่งหมอกควัน แม่น้ำมรรคกระบี่อันยิ่งใหญ่ที่อยู่ด้านบนก็สลายไปเช่นกัน
ในมุมมองของผู้ที่เฝ้ามองการต่อสู้ครั้งนี้อยู่ไกลๆ เห็นเพียงว่าเหล่าจื่อถูกหานเจวี๋ยสะกดไว้อย่างฉับพลัน จากนั้นแม่น้ำมรรคกระบี่ก็ปรากฏขึ้น ต่อมาเหล่าจื่อก็ดับสูญไป
รวดเร็วยิ่งกว่าสังหารในเสี้ยววินาทีเสียด้วยซ้ำ!
หานเจวี๋ยหันหลัง เหาะกลับเข้าไปในอาณาเขตปฐมภพ
ห้วงอวกาศแถบนี้ตกอยู่ในความเงียบสงัด
หานเจวี๋ยใช้การกระทำพิสูจน์ให้เห็นถึงความไร้พ่ายของตนแล้ว
ผู้ไร้พ่ายแห่งฟ้าบุพกาล มิใช่คำโอ้อวดแน่นอน!
….
ณ อาณาจักรเทพ ดวงจิตมหามรรคทั้งหมดมารวมตัวกันอยู่บนแท่นกลมแห่งหนึ่ง
ห้าเทวทัณฑ์ก็อยู่ที่นี่เช่นกัน หานทั่วมีสีหน้าดำคล้ำเป็นอย่างยิ่ง อี๋เทียนสีหน้าบึ้งตึง หงุดหงิดเต็มประดา
เทพมหาทัณฑ์พลันปรากฏกายขึ้น ทำให้เหล่าดวงจิตมหามรรคตื่นเต้นขึ้นมา
“ท่านเทพ พวกเรายังไม่ควรออกโรงอีกหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...