พิสดารจริง!
หานเจวี๋ยรีบตรวจสอบที่มาของมันทันที
[หญ้าโลกาสวรรค์: หนึ่งหมื่นปีก่อน เดิมทีเป็นแค่หญ้าเขียวธรรมดาต้นหนึ่ง บังเอิญมีเทพเซียนลงมาเยือนโลกมนุษย์ มานั่งสมาธิรู้แจ้งอยู่รอบๆ มัน เมื่อได้สัมผัสไอเซียนนับร้อยปี มันค่อยๆ หลุดพ้นจากการเป็นหญ้าธรรมดา ในช่วงหนึ่งหมื่นปีมักจะประสบกับการดับสูญ ก่อนการดับสูญแต่ละครั้งมันจะสลายเป็นขี้เถ้าปลิวกระจายในโลกมนุษย์ตามสัญชาตญาณ และเติบโตใหม่อีกครั้ง หญ้านี้มีคุณสมบัติจะเปลี่ยนเป็นหญ้าเทพ ไปจนถึงกลายเป็นเทพเซียนด้วย]
‘คุณสมบัติเทพเซียนหรือ
น่าตกใจไม่น้อยเลย!’
หานเจวี๋ยเลิกคิ้ว
พลังชีวิตนี้เต็มเปี่ยมสมบูรณ์ ยืนหยัดมาได้ถึงหมื่นปี
หานเจวี๋ยรับหญ้าโลกาสวรรค์ไว้ และกล่าวกับสิงหงเสวียนด้วยรอยยิ้ม “หญ้านี้ข้ารับไว้แล้ว หลายปีมานี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
สิงหงเสวียนดีใจมากกว่าเดิม เริ่มเล่าประสบการณ์ในหลายปีมานี้ให้ฟัง
หลายปีมานี้ สิงหงเสวียนกลายเป็นตัวเอกในนิยายกำลังภายในเทพเซียน กุมกระบี่เดินทางสุดหล้าฟ้าเขียว พบความอยุติธรรมระหว่างทางก็ชักกระบี่ช่วยเหลือ ทั้งปะทะผู้บำเพ็ญสายมาร บุกรุกสุสานโบราณ ตามล่าศัตรูคู่แค้น บุกสังหารเข้าไปในแดนปีศาจ
หานเจวี๋ยฟังจนอยากออกไปเผชิญโลกกว้างบ้าง
‘เดี๋ยวก่อน!’
หานเจวี๋ยระแวดระวัง
แม่นางผู้นี้จะต้องเป็นคนที่สวรรค์ส่งมาหลอกล่อให้เขาออกไปแน่
ประสบการณ์สี่ร้อยกว่าปีก่อนหน้านี้คือความสำเร็จ เมื่อหันกลับไปมองดู ไม่รู้ว่ามีศัตรูตัวฉกาจตั้งเท่าไรกลายเป็นกระดูกขาวเพราะไม่รู้พลังแท้จริงของเขา จะว่าไปแล้ว ศัตรูของเขานับว่ามีน้อย ก็แค่ไม่กี่คนเท่านั้น
ดูอย่างพวกโจวฝาน หยางเทียนตง สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น ซูฉี…
ทุกครั้งที่อ่านจดหมายแจ้งเตือนล้วนเห็นพวกเขาถูกโจมตี
หลี่ชิงจื่อก่อนหน้านั้นก็เป็นเช่นนี้ ขอเพียงออกไปข้างนอกก็ต้องทุกข์ทรมานอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้วันๆ อยู่แต่ในสำนักหยกพิสุทธิ์ กลับไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
“พอออกไปแล้วถึงรู้ว่าต้าเยี่ยนเล็กขนาดไหน ยกตัวอย่างเขตแก่นประจิมก็แล้วกัน หากสำนักหยกพิสุทธิ์อยู่ในเขตแก่นประจิมก็เป็นไม่ได้แม้แต่สำนักอันดับสอง สำนักหยกพิสุทธิ์มีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้ได้ล้วนอาศัยท่านพี่ค้ำจุนไว้ การจัดอันดับร้อยยอดผู้บำเพ็ญในใต้หล้าที่สั่นสะเทือนไปทั่วแดนบำเพ็ญพรตในช่วงนี้ ข้าว่าท่านพี่น่าจะอยู่ในอันดับต้นๆ เลย!”
สิงหงเสวียนยิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น จู่ๆ หานเจวี๋ยก็นึกถึงคนส่วนหนึ่งในชาติก่อนที่ได้กลับบ้านเกิดหลังจากระหกระเหินสู้ชีวิตในเมือง
ยังมีร้อยอันดับยอดผู้บำเพ็ญในใต้หล้าอีก นี่มันเรื่องอะไรกัน
ของธรรมดา!
หานเจวี๋ยไม่ให้ความสำคัญกับชื่อเสียง เน้นแค่ผลกำไรที่ได้รับ
รอจนสิงหงเสวียนกล่าวจบ หานเจวี๋ยถึงนำโอสถเพิ่มอายุขัยจำนวนหนึ่งออกมาจากแหวนเก็บสมบัติ ก่อนจะเอ่ย “ของเหล่านี้มอบให้เจ้า คุณสมบัติของเจ้าธรรมดา ข้ากลัวว่าเจ้าจะตายเร็วเกินไป”
สิงหงเสวียนกลอกตา “ท่านพี่ก็รู้จักหยอกล้อข้าเล่นด้วย”
“ข้าเปล่า นี่ข้าจริงจัง”
“วางใจเถอะ ข้ากินไปนานแล้ว ยังมีของล้ำค่าฟ้าดินอีก อายุขัยของข้ายาวนานอยู่นะ”
“เช่นนั้นก็ดี”
“พูดถึงอายุขัย หลิ่วซานซินศิษย์เอกของยอดเขาหยกวิเวกที่ท่านเคยอยู่สิ้นไปเมื่อหลายสิบปีก่อนแล้ว ในสำนักหยกพิสุทธิ์มีสิ่งของและโอสถเพิ่มอายุขัยน้อยเกินไป หากเขาไปจากต้าเยี่ยนเร็วกว่านี้ บางทีอาจยังมีความหวังอยู่บ้าง”
สิงหงเสวียนถอดทอนใจกล่าว หานเจวี๋ยฟังแล้วอึ้งไป
เขามักจะรู้สึกว่าในรายชื่อสหายมีคนจำนวนหนึ่งหายไป แต่ว่าก็นึกไม่ออก
พูดถึงหลิ่วซานซิน หานเจวี๋ยยังจำได้ว่าศิษย์พี่ใหญ่ผู้นี้เคยบอกว่าจะดูแลตน
หานเจวี๋ยยังไม่ทันได้รับกวนเขา เขาก็จากไปเสียแล้ว
หานเจวี๋ยกล่าวอย่างจริงจัง “ตั้งใจฝึกฝนเถอะ อย่าได้เป็นแบบศิษย์พี่หลิ่ว”
“ข้ายังอาลัยอาวรณ์ไม่อยากจากโลกนี้ไป ข้ายังอยากอยู่เป็นเพื่อนท่านพี่”
จากนั้นหานเจวี๋ยก็ให้สิงหงเสวียนนำหุ่นเชิดสวรรค์ออกมา เขาต้องการปรับพลังวิญญาณให้หุ่นเชิดสวรรค์ใหม่
หลังจากใช้เวลาไปหลายวัน เขาก็เติมเต็มพลังวิญญาณหกสายให้หุ่นเชิดสวรรค์ ก่อนจะให้สิงหงเสวียนเก็บเข้าไปในแหวนเก็บสมบัติ
มีหุ่นเชิดแห่งสวรรค์อยู่ หานเจวี๋ยก็วางใจให้นางออกไปเผชิญโลกกว้างได้แล้ว
เดิมทีหานเจวี๋ยคิดว่าเรื่องคงจบลงเช่นนี้ ไม่นึกว่าสิงหงเสวียนจะอยู่พัวพันเขาอีกหนึ่งเดือน
เฮ้อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...