นี่เป็นสิ่งที่เขาเลือกเอง หานเจวี๋ยไม่ใช่พ่อแม่เขาที่ต้องติดตามอยู่ทุกวัน
อีกอย่างหยางเทียนตงมีสายเลือดเทพปีศาจ ไม่ตายง่ายขนาดนั้นแน่
หานเจวี๋ยทะลวงระดับรวมกายาขั้นหกต่อ
เมื่อสำนักหยกพิสุทธิ์มีคนเวียนว่ายตายเกิดอย่างต่อเนื่อง ความคิดที่จะมุมานะฝึกบำเพ็ญของหานเจวี๋ยก็ยิ่งหนักแน่น
ไม่เพียงตนเองจะพากเพียรฝึกบำเพ็ญเท่านั้น ยังต้องเร่งรัดให้สิงเสวียนกับโม่จู๋ฝึกฝนไปพร้อมกัน ไม่อาจหย่อนยานได้
……
พริบตาเดียว เวลาเจ็ดปีก็ผ่านพ้นไป
ในที่สุดหานเจวี๋ยก็ทะลวงถึงระดับรวมกายาขั้นหกสำเร็จ
บนเขาเพียรบำเพ็ญเซียนนับว่าเป็นสถานที่ที่มีพลังวิญญาณหนาแน่นที่สุดในต้าเยี่ยนแล้ว ต้นฝูงซังกับเถาน้ำเต้าพิภพเซียนล้วนสร้างพลังวิญญาณอยู่ตลอด
จู่ๆ หานเจวี๋ยก็นึกถึงเรื่องของผู้อาวุโสสูงสุด จึงใช้พลังจิตตรวจสอบไปทางยอดเขาหยกวิเวก
เซียนซีเสวียนยังฝึกฝนอยู่ในตำหนักหยกวิเวก
ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ นางอยู่ระดับปราณก่อกำเนิดขั้นเก้าแล้ว นางสามารถทะลวงระดับเช่นนี้ได้ ต้องขอบคุณโอกาสวาสนาที่พบเจอด้านนอกก่อนหน้านี้
‘เซียนซีเสวียน ไม่สู้ย้ายมาที่เขาเพียรบำเพ็ญเซียน ข้าจะเปิดถ้ำเทวาสักแห่งให้ท่านเอง’
หานเจวี๋ยถ่ายทอดเสียงไปหาเซียนซีเสวียน
เซียนซีเสวียนลืมตาขึ้นมา บุคลิกของนางเหนือโลกีย์ บริสุทธิ์ผุดผ่อง ใบหน้างดงามล่มเมืองไม่ได้ดูเย้ายวนเลย แต่เป็นความงามแบบที่ทำให้คนชมชอบอย่างบริสุทธิ์ใจ ราวกับนางเซียนบนสรวงสวรรค์
เซียนซีเสวียนขมวดคิ้วกล่าว “นั่นคือเขาของเจ้า ข้าไปคงไม่สะดวกกระมัง”
“ท่านคงทราบเรื่องของผู้อาวุโสสูงสุดแล้ว ชีวิตนี้ข้าล้วนมุมานะฝึกบำเพ็ญ มีคนที่ใส่ใจอยู่ไม่มาก ท่านเซียนก็เป็นหนึ่งในนั้น ข้าหวังว่าจะได้ไปสู่มหามรรคาด้วยกันกับท่านเซียน ไม่อยากให้ในตอนสุดท้ายของการบำเพ็ญเพียรอันยาวนานเหลือเพียงข้าคนเดียว ต้องเดินต่อไปอย่างโดดเดี่ยว”
หากคนอื่นได้ยินคำพูดของหานเจวี๋ย จะต้องคิดว่าเขาหาเรื่องโดนตีแน่ แต่เซียนซีเสวียนรู้จักหานเจวี๋ยดี ตั้งแต่หานเจวี๋ยเข้าร่วมยอดเขาหยกวิเวก เขาก็มุ่งมั่นฝึกบำเพ็ญมาตลอด ไม่เคยไปจากสำนักหยกพิสุทธิ์เลยด้วยซ้ำ
เซียนซีเสวียนนึกถึงผู้อาวุโสสูงสุด หัวใจก็หนักอึ้งเล็กน้อย
แม้จะส่งศิษย์พี่ศิษย์น้องรุ่นเดียวกันจากไปไม่น้อยแล้ว แต่ว่าการจากไปของอาจารย์ก็ยังคงทำให้นางค่อนข้างปวดใจ
‘มาเถอะ หากไม่มีธุระใดข้าจะไม่รบกวนท่านเซียน’ หานเจวี๋ยกล่าวต่อ
เซียนซีเสวียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ตอบตกลง
หานเจวี๋ยให้นางเก็บของสักครู่แล้วตรงมาเลย ส่วนตนเองออกจากถ้ำไปเปิดถ้ำเทวาให้เซียนซีเสวียน ซึ่งอยู่ตรงเนินเขาไม่ไกลออกไป
สวินฉางอันกับไก่คุกรัตติกาลรู้สึกประหลาดใจ
“อาจารย์ ท่านจะเปิดถ้ำเทวาให้ข้าหรือ” สวินฉางอันถามด้วยความเกรงใจ
เขาเคยชินกับการอยู่ใต้ต้นฝูซังแล้ว
หานเจวี๋ยกลอกตาใส่เขาก่อนกล่าว “นี่คือถ้ำเทวาของเซียนซีเสวียน เซียนซีเสวียนเคยเป็นอาจารย์ของข้า ตอนนี้ก็เป็นสหายของข้า หากไม่มีเรื่องใดห้ามรบกวนการฝึกฝนของนาง เข้าใจหรือไม่”
สวินฉางอันเข้าใจในฉับพลัน เขาย่อมเคยได้ยินชื่อเซียนซีเสวียนมาแล้ว
ไก่คุกรัตติกาลถามว่า “เซียนซีเสวียนจะอยากกินท่านหรือไม่”
“เจ้าวอนหาเรื่องรึ”
หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์นัก เมื่อก่อนไก่คุกรัตติกาลอาจจะไม่เข้าใจจริงๆ ทว่าตอนนี้ต้องเข้าใจแล้วแน่นอน แต่กลับกล้าหยอกล้อเขา!
ไก่คุกรัตติกาลตกใจจนตัวสั่น ไม่กล้าพูดอะไรมากอีก
ไม่นานก็เปิดถ้ำเทวาสำเร็จ เซียนซีเสวียนก็เข้าไปอยู่ด้านในแล้ว
พอได้เห็นรูปโฉมของเซียนซีเสวียน สวินฉางอันสติหลุดลอยไปพักหนึ่ง
เขายิ่งหนักแน่นกับมรรคจิตของตนมากขึ้น
อาจารย์กล่าวไว้ไม่มีผิด ขอเพียงตบะแข็งแกร่ง ก็จะมีหญิงงามมาชอบตนเอง
ความจริงเชี่ยนเอ๋อร์ก็หน้าตาธรรมดา เขาไม่จำเป็นต้องเอาเป็นเอาตายเพื่อนางก็ได้
ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด หลังจากสำเร็จวิชากระบี่บินไร้หัวใจขั้นสมบูรณ์แล้ว เวลาสวินฉางอันนึกถึงนางจะสงบมาก ไม่กระสับกระส่ายเหมือนแต่ก่อน
เมื่อเซียนซีเสวียนย้ายเข้ามา หานเจวี๋ยก็รู้สึกวางใจแล้ว
ส่วนโม่จู๋นั้นช่างเถอะ จากนี้ค่อยว่ากันอีกที
คุณสมบัติของนางโดดเด่น ยังไม่จำเป็นในตอนนี้ อีกอย่างนางกับสิงหงเสวียนไม่ค่อยถูกกันด้วย
ช่วงนี้สิงหงเสวียนออกเดินทางอีกแล้ว แต่มีหุ่นเชิดสวรรค์อยู่ หานเจวี๋ยจึงไม่กลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...