ไท่ซั่งหวงเคาะโต๊ะลงมติ ไม่มีผู้ใดเห็นต่างอีก
ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย “เสด็จปู่ ไม่ทราบว่าแค่แต่งงานกับฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวก็สืบทอดบัลลังก์ได้แล้วใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
“ถูกต้อง ไม่ว่าใครที่สามารถแต่งกับฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวได้ ไม่ว่าต้องแลกกับอะไร ข้าก็จะคุ้มครองให้เขาได้ขึ้นครองราชย์อย่างราบรื่น!”
ไท่ซั่งหวงเด็ดขาดมีพลัง แฝงความเผด็จการและความแข็งแกร่งเยี่ยงจักรพรรดิในวาที
“เสด็จปู่ ฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวคัดเลือกราชบุตรเขยมีกติกาอะไรหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
เพิ่งทะลุมิติมาได้ไม่นาน ฉินอวิ๋นฟานไม่เข้าใจรูปแบบการเลือกราชบุตรเขยในสมัยโบราณ ในภาพจำของเขายังหยุดอยู่ที่ขั้นตอนการโยนบอลผ้า หรือไม่ก็หาคู่โดยการประลองยุทธ์
ฉินอวิ๋นฟานรู้สึกว่าการเลือกราชบุตรเขยของฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวไม่น่าจะธรรมดาอย่างนั้น
“ย่อมมีกติกา ทั้งหมดแบ่งออกเป็นประลองด้านบุ๋นและประลองด้านบู๊ โดยจะประลองสามด้านละสามรอบ”
ไท่ซั่งหวงอธิบาย “ประลองด้านบุ๋นแบ่งออกเป็นกลอนคู่ การเขียนและดนตรี ประลองด้านบู๊แบ่งออกเป็นยิงธนู ประลองกำลังและประลองกำลังยุทธ์ ผู้ที่คว้าชัยทั้งสองการประลองก็คือผู้ชนะ แต่ในการประลองบุ๋นบู๊สามารถเชิญผู้ช่วยได้หนึ่งคน”
“เชิญผู้ช่วยก็ได้ด้วย? นั่นมิใช่ลดระดับความยากในการแข่งขันของเราได้มากหรือ?”
“เป็นเช่นนั้นจริง พวกเราแค่คว้าชัยในการประลองด้านบุ๋นและบู๊อย่างละรอบก็พอ เลือกที่ตัวเองชำนาญที่สุดมิผ่านได้สบาย ๆ หรอกหรือ?”
......
ก็ขณะที่เหล่าองค์ชายกำลังตื่นเต้นอยู่นั้น องค์ชายรองกลับก้าวออกมาราดน้ำเย็นใส่ทุกคนตรง ๆ
เขาเอ่ยเสียงหนัก “ความจริงการประลองทั้งสองอย่างไม่ได้ง่ายอย่างที่พวกเราคิดหรอกนะ กลับกันยังจากยากเย็นยิ่งกว่า พวกเจ้าอย่าลืมสิ กติกาใช้กับองค์ชายทุกคน นั่นหมายถึงพวกเราต้องหากำลังเสริมสองคน”
“หากเป็นเช่นนี้ พวกเราต้องขับเคี่ยว แข่งขันกันไม่หยุด ต่อให้ตัดรายการที่ตัวเองถนัดที่สุดไป แต่อีกสองรายการจะเลือกคนที่แข็งแกร่งที่สุดเพียงคนเดียว พร้อมกันนั้นยังต้องพยายามขัดขวางไม่ให้องค์ชายองค์อื่นเลือกคนที่เก่งอีกด้านหนึ่งที่สุดด้วย”
“ดังนั้น นับจากฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวกำหนดกติกานี้ ในหมู่พวกเราองค์ชายก็มีคนที่ถูกคัดออกไปแล้ว”
ซี้ด...
หลังจากองค์ชายรองฉินอวิ๋นฮุยวิเคราะห์ ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างสูดลมเย็นกันหมด ครั้งคิดอย่างถี่ถ้วนกลับเป็นเช่นนั้นจริง เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงตำแหน่งประมุข ทุกคนต้องใช้เส้นสายทั้งหมดที่มีและต้องเลือกคนที่ดีเด่นที่สุดแน่นอน
ในราชวงศ์ต้าเฉียน ผู้ที่เก่งกล้าสามารถในแต่ละด้านก็มีอยู่เพียงไม่กี่คน อยู่ที่ฝีมือของแต่ละคนแล้ว ตอนนี้คือการแข่งขันทั้งแบบทางลับและทางแจ้งระหว่างองค์ชาย หากไม่ได้ยอดผู้ช่วยมือดีมาก็เท่ากับถูกคัดออกก่อนกำหนด
ฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวร้ายจริง ๆ!
ฉินอวิ๋นฟานยืนอยู่ด้านข้างไม่ยี่หระ สำหรับเขานี่ก็แค่ลดมิติเองมิใช่หรือ?
“อีกสามวัน พวกเจ้าก็แสดงฝีมือกันที่ตำหนักว่านฉงเถอะ!”
ไท่ซั่งหวงไม่พูดอะไรอีก โบกมือนั่งรถม้าและจากไป ขุนนางคนอื่น ๆ ก็ตามบรรดาองค์ชายฝ่ายตนแยกย้ายไปด้วย
“รัช รัชทายาท...”
ขณะที่ฉินอวิ๋นฟานกำลังจะออกไปเหมือนกัน ชายหนุ่มอายุอานามยี่สิบต้น ๆ วิ่งพรวดเข้ามาด้วยความร้อนใจจนไม่อาจสนใจสิ่งอื่น ครั้นเห็นว่าฉินอวิ๋นฟานยังมีชีวิตอยู่ก็ร้องไห้จ้า “ฮือ ๆ ท่านยังอยู่ ดีจริง ๆ เลย ดีจริง ๆ”
ชายหนุ่มผู้นี้มีนามว่าเฉินม่อ เป็นเพื่อนร่วมเรียนแต่เล็กจนโตของฉินอวิ๋นฟาน จงรักภักดี ทุ่มเทกับเขาไม่เป็นสอง ตอนที่เขาโง่เขลา ปัญหาแทบทุกเรื่องล้วนเป็นเขาที่แก้ไขให้หมด
“ฮ่า ๆ ๆ ข้าไม่ใช่แค่รอดนะ ยังจะขึ้นนั่งประมุขนั่นด้วย”
ฉินอวิ๋นฟานแหงนหน้าหัวเราะเสียงดังกับฟ้า “ไป ตามข้ากลับตำหนักรัชทายาทเถอะ!”
เฉินม่ออึ้งเดี๋ยวนั้น ทำไมรู้สึกเหมือนรัชทายาทเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยเล่า?


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รัชทายาทชะตาฟ้า