เดิมทีมู่อวี๋เฟยเป็นคนที่ค่อนข้างแรงน้อยหลังจากที่เธอตบเข้าที่ใบหน้าของชายวัยกลางคนผู้นั้นแล้ว ชายวัยกลางคนก็ตอบกลับการกระทำของเธอด้วยการใช้มือข้างหนึ่งล็อกเธอและกดเธอลงไปกับพื้น ขณะที่มู่อวี๋เฟยกำลังต่อสู้ขัดขืนอยู่นั้น เสื้อผ้าที่อยู่บนเรือนร่างของเธอก็ถูกชายคนนั้นฉีกขาดไปเกือบหมด เสียงฉีกเสื้อผ้าดังเข้ามาในหูทั้งสองข้างของเธออย่างชัดเจน เสื้อของมู่อวี๋เฟยถูกฉีกออกจากกันจนเผยให้เห็นชุดชั้นใน
“อ่า!” มู่อวี๋เฟยร้องลั่น จากนั้นก็รีบเอามือขึ้นมาปิดหน้าอกของเธออย่างรวดเร็ว
ในห้องอาบน้ำสาธารณะ คุณแม่ของตระกูลมู่ซึ่งเพิ่งอาบน้ำเสร็จ กำลังเดินออกมา เห็นลูกรักของเธอถูกชายวัยกลางคนกดร่างกายลงอยู่บนพื้น และทางด้านข้างมีผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งหน้าจัดกำลังต่อยและเตะมู่อวี๋เฟยอยู่ แม่รีบวิ่งไปหาเธอโดยไม่คิดถึงชีวิต ไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ในการผลักชายวัยกลางคนผู้นั้นกระเด็นไปอย่างแรงและรีบช่วยมู่อวี๋เฟยขึ้นมา
มู่อวี๋เฟยตกใจมากเมื่อเห็นแม่ของเธอรีบวิ่งเข้ามา เธอกอดแม่ของเธอด้วยความกลัวและเริ่มร้องไห้ออกมา
คุณแม่ตระกูลมู่มองไปเห็นจมูกที่ช้ำและหน้าที่บวมของมู่อวี๋เฟย เธอตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอชี้ไปที่ชายวัยกลางคนผู้นั้นและผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดที่อยู่ทางด้านข้าง พร้อมกับตะโกนขึ้นว่า "พวกแกสองคนกำลังจะทำอะไร! ทำไมต้องมาทำร้ายลูกสาวของฉัน !ฉันไม่ปล่อยพวกแกไปแน่!!!"
พูดไปพลางคุณแม่ตระกูลมู่ก็รีบหยิบมือถือออกมากดหมายเลข 110 เพื่อโทรแจ้งตำรวจ
กว่าที่ชายวัยกลางคนและหญิงสาวที่แต่งหน้าจัดจะได้สติกลับมาก็พบว่าคุณแม่ตระมูลมู่ได้โทรแจ้งความกับตำรวจไปแล้ว
ภายในห้านาที รถตำรวจก็มาถึง
ตำรวจสองคนเหลือบมองที่มู่อวี๋เฟยและคุณแม่ที่ยังคงนั่งอยู่ที่พื้น จากนั้นก็มองไปที่ชายวัยกลางคนและผู้หญิงที่แต่งหน้าจัด พร้อมกับพาพวกเขาทั้งหมดไปที่สถานีตำรวจ
ทั้งสามคนแยกกันสอบปากคำ มู่อวี๋เฟยได้รับบาดเจ็บที่ร่างกาย ชายวัยกลางคนและผู้หญิงคนนั้นก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน หลังจากตรวจสอบทั้งสาม พวกเขาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เป็นแค่เพียงการบอบช้ำของผิวหนังที่ไม่ได้รุนแรงอะไรมากนัก อาการบาดเจ็บของมู่อวี๋เฟยแม้ว่าผิวหนังจะดูเขียวช้ำจนน่ากลัว แต่ก็ไม่ได้รุนแรงอะไร
หลังสอบปากคำ ตำรวจพบว่าทั้งสองฝ่ายล้วนแต่มีความผิด และมู่อวี๋เฟยยังเป็นคนทุบตีผู้อื่นก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้มู่อวี๋เฟย ชายวัยกลางคนและหญิงที่แต่งหน้าจัด เจรจาส่วนตัวด้วยตัวเองว่าจะตกลงอย่างไรกันต่อ
ผลสุดท้ายของการเจรจาคือ ชายวัยกลางคนพร้อมกับหญิงที่แต่งหน้าจัด และมู่อวี๋เฟยได้ขอโทษกัน ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องก็ถือว่าจบกันไป
นี่เป็นเพราะบาดแผลบนร่างกายของมู่อวี๋เฟยมีค่อนข้างมาก ไม่อย่างนั้นถ้าเรื่องที่ตัวเองสติแตกและทุบตีคนอื่นก่อนมันดังขึ้นมา ก็จะไม่เกิดผลดีอะไรต่อตัวมู่อวี๋เฟยเอง เธอรู้สึกไม่ค่อยยินยอมต่อการประนีประนอมในครั้งนี้เลย
ทั้งหมดค่อยๆเดินตามกันออกมาจากสถานีตำรวจ โดยชายวัยกลางคนและหญิงแต่งหน้าจัดเดินอยู่ทางด้านหน้า และมู่อวี๋เฟยกับแม่เดินตามหลัง
เมื่อออกจากสถานีตำรวจเพียงไม่กี่ก้าว หญิงสาวที่แต่งหน้าจัดหันกลับมามองมู่อวี๋เฟยที่อยู่ทางด้านหลังด้วยสายตาอันเกลียดชัง
ทั้งคู่สบตากัน ผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดคนนั้นมองมาที่มู่อวี๋เฟยและเยาะเย้ยขึ้นว่า “น้องสาว ฉันจะบอกเธอไว้อย่างนะ ฉันเดินอยู่ในเส้นทางนี้มาหลายปีแล้ว และฉันไม่เคยดูคนผิดแม้แต่คนเดียว เธอนะตอนนี้ไม่ต้องมาดูถูกฉันหรอก เพราะต่อไปดูท่าแล้วเธอก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉันสักเท่าไหร่ !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...