เมื่อมู่ซีซีได้ยินสิ่งที่ลั่วเสี่ยวชิงพูด เธอก็หยุดวิ่งและถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เธอได้ยินเสียงแหลมที่พูดออกมาด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยพอใจของลั่วเสี่ยวชิงว่า "ซีซี ฉันจะโกรธเธอจริงๆแล้วนะ!"
ลั่วเสี่ยวชิงพูดขึ้นพลางมองไปที่มู่ซีซี"ซีซี ฉันคิดว่ารุ่นพี่ฉู่ดูใส่ใจเธอมากเป็นพิเศษ ดูก็รู้แล้วว่าเขาชอบเธออยู่ เธอก็ไม่ใช่ว่าชอบรุ่นพี่อยู่เหมือนกันเหรอ แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้หลบหน้าเขาซะล่ะ?"
ในใจของมู่ซีซีตอนนี้ก็ยังคงชอบฉู่จือหยวนอยู่แต่เธอก็รู้ดีว่า เธอในตอนนี้ยังคงเป็นคนรักของจี้หลิงชวนอยู่……
แต่ความสัมพันธ์ในปัจจุบันระหว่างมู่ซีซีและจี้หลิงชวนนั้นยากเกินที่จะจัดการได้ ดังนั้นมู่ซีซีจึงไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องนี้กับเพื่อนสนิทอย่างลั่วเสี่ยวชิงอย่างไร
ตอนที่ได้ฟังสิ่งที่ลั่วเสี่ยวชิงพูด มู่ซีซีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องส่ายหัวและพูดว่า "สำหรับเรื่องนี้แล้วยังไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุด"
ใช่แล้ว อย่างน้อยก็ต้องให้เธอยุติความสัมพันธ์กับจี้หลิงชวนเสียก่อน แล้ว เธอจะสามารถไปตามจีบชายคนที่เธอชอบได้
เมื่อนึกถึงจี้หลิงชวน ใบหน้าอันหล่อเหลาของจี้หลิงชวนก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของมู่ซีซี เธอชะงักไปชั่วครู่ ในใจของมู่ซีซีเกิดความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะอธิบาย
ลั่วเสี่ยวชิงยืนอยู่ด้านข้างขมวดคิ้วมองไปที่มู่ซีซีแล้วยื่นมือขยับไปมาเล็กน้อยต่อหน้ามู่ซีซี "ซีซี เธอกำลังคิดอะไรอยู่?"
เมื่อได้ยินเสียงของลั่วเสี่ยวชิง มู่ซีซีจึงได้สติกลับคืนมา มู่ซีซีส่ายหัวไปมาพร้อมกับจ้องไปที่ลั่วเสี่ยวชิง "เปล่า ... "
ขณะที่มู่ซีซีกำลังพูดอยู่นั้นเธอก็ได้ยินเสียงของลั่วเสี่ยวชิงพูดขึ้นมาอีกครั้ง "ซีซีตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดอย่างนั้นเหรอ? ตอนนี้เธอยังโสดแถมยังชอบรุ่นพี่ฉู่อีกด้วย ส่วนรุ่นพี่เองก็เห็นได้ชัดว่าเขาก็ชอบเธอด้วย แล้วทำตอนนี้ถึงไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดอีกล่ะ?"
มู่ซีซีมองไปที่ลั่วเสี่ยวชิงพร้อมกับส่ายหน้า เธอยื่นมือออกไปคว้ามือของลั่วเสี่ยวชิงแล้วกล่าวว่า "พวกเราไม่คุยเรื่องนี้แล้ว ฉันยังมีธุระที่ต้องทำ ฉันไปก่อนนะ"
ราวกับว่าตอนนี้เธอได้ตัดสินใจไปแล้ว มู่ซีซีกำสองมือที่อยู่ข้างลำตัวไว้แน่น
เวลาที่ดีที่สุดคือ เมื่อเธอยุติความสัมพันธ์ของเธอกับจี้หลิงชวนลงอย่างสมบูรณ์
ตอนนี้เรื่องของครอบครัวตระกูลมู่ถูกแก้ปัญหาได้อย่างสมบูรณ์แล้ว และมู่ซีซีไม่มีเหตุผลที่จะรักษาความสัมพันธ์ดังกล่าวกับจี้หลิงชวนอีกต่อไป
หลังจากที่มู่ซีซีตัดสินใจได้แล้ว เธอก็กล่าวอำลากับลั่วเสี่ยวชิง จากนั้นก็นั่งแท็กซี่กลับไปที่คฤหาสน์ของจี้หลิงชวนในทันที
กว่าหนึ่งชั่วโมงต่อมา มู่ซีซีกลับไปถึงคฤหาสน์ แต่จี้หลิงชวนยังไม่กลับมา
มู่ซีซีหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาจี้หลิงชวนทันที
ที่บริษัทจี้ซือ ตอนที่มู่ซีซีโทรศัพท์เข้าไป จี้หลิงชวนกำลังประชุมอยู่และเมื่อเห็นว่าโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้าง ๆ กำลังสั่น จี้หลิงชวนจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เมื่อเห็นที่หน้าจอโทรศัพท์แสดงอักษรมู่ซีซีสามคำ จี้หลิงชวนก็ยกขึ้นมาทันที เขาหยุดความเคลื่อนไหวทั้งหมด
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นรับโทรศัพท์และเดินออกจากห้องประชุมไป
ทิ้งผู้จัดการให้มองหน้ากันอยู่ในห้องประชุม นี่เป็นครั้งแรกที่ คุณชายจี้หรือที่รู้จักในนามคนบ้างาน จู่ๆ ก็ระงับการประชุมและวิ่งออกไปรับโทรศัพท์
มู่ซีซีไม่เคยโทรศัพท์เข้าหาจี้หลิงชวนก่อนเลย ดังนั้นครั้งนี้เมื่อจี้หลิงชวน เห็นมู่ซีซีโทรศัพท์เข้ามาการกระทำของเขาเร็วกว่าการตอบสนองของสมองและเขาเลือกที่จะหยุดการประชุมชั่วคราวและออกมารับสายโดยไม่รู้ตัว
จี้หลิงชวนกดปุ่มรับสาย พร้อมกับแสยะยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว และพูดกับมู่ซีซีที่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ว่า "มู่ ซีซีเกิดอะไรขึ้น?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...